ຫົວໃຈນັກເທດ
28.4.55
7.4.55
มาตาปิตุอถปภานัง
นิมิตตัง สาธุรูปานัง กะตัญญูกะตเวทิตา มาตาปิตุอุปะฐานัง ติ มาตาปิตุพรหมจริยัง อิโตปรัง สักกัจจัง โสตัพโพติ
- ຄວາມກະຕັນຍູ ກະຕະເວທີ ເປັນເຄື່ອງໝາຍຂອງຄົນດີ, ການອຸປະຖາກບິດາມານດາ ເປັນມຸງຄຸນຢ່າງຍິ່ງ ເພາະບິກາ ມານດາ ເປັນພຣົມຂອງບຸດ.
อรรถกถา ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ มงคลสูตรในขุททกปาฐะ
หน้าต่างที่ ๔ / ๔.
พรรณนาคาถาว่า มาตาปิตุอุปฎฺฐานํ
บัดนี้ จะพรรณนาในคาถานี้ว่า มาตาปิตุอุปฏฺฐานํ.
มารดาและบิดา เหตุนั้น ชื่อว่า มารดาและบิดา. บทว่า อุปฏฺฐานํ แปลว่า การบำรุง.
บุตรทั้งหลายด้วย ภรรยาทั้งหลายด้วย ชื่อว่าบุตรและภรรยา การสงเคราะห์ชื่อว่า สังคหะ.
การงานคือกิจกรรมอากูลหามิได้ ชื่อว่า ไม่อากูล.
คำที่เหลือมีนัยที่กล่าวมาแล้วทั้งนั้นแล. นี่เป็นการพรรณนาบท.
ส่วนการพรรณนาความ พึงทราบดังนี้.
สตรีผู้ยังบุตรให้เกิด เรียกชื่อว่า มารดา บิดาก็เหมือนกัน. การทำอุปการะด้วยการล้างเท้านวดฟั้นขัดสี ให้อาบน้ำ และด้วยการมอบให้ปัจจัย ๔ ชื่อว่า การบำรุง. ในการบำรุงนั้น เพราะเหตุที่มารดาบิดามีอุปการะมาก หวังประโยชน์อนุเคราะห์บุตรทั้งหลาย มารดาบิดาเหล่าใดแลเห็นบุตรทั้งหลายเล่นอยู่ข้างนอก เดินมามีเนื้อตัวเปื้อนฝุ่น ก็เช็ดฝุ่นให้ จูบจอมถนอมเกล้า เกิดความรักเอ็นดู บุตรทั้งหลายใช้ศีรษะทูนมารดาบิดาไว้ถึงร้อยปี ก็ไม่สามารถจะทำปฏิการะสนองคุณของมารดาบิดานั้นได้ และเพราะเหตุที่มารดาบิดานั้นเป็นผู้ดูแลบำรุงเลี้ยง แสดงโลกนี้ สมมตว่าเป็นพรหม สมมตว่าเป็นบุรพาจารย์ ฉะนั้น การบำรุงมารดาบิดานั้น ย่อมนำมาซึ่งการสรรเสริญในโลกนี้และละโลกไปแล้วก็จะนำมาซึ่งสุขในสวรรค์ ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่าเป็นมงคล
สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า๑-
มารดาบิดา ท่านเรียกว่าพรหม ว่าบุรพาจารย์ เป็น
อาหุเนยยบุคคลของบุตร เป็นผู้อนุเคราะห์บุตร เพราะ
ฉะนั้น บัณฑิตพึงนอบน้อม และพึงสักการะมารดาบิดา
นั้น ด้วยข้าว น้ำ ผ้า ที่นอน การขัดสี การให้อาบน้ำและ
ล้างเท้า. เพราะการปรนนิบัติมารดาบิดานั้น บัณฑิต
ทั้งหลายจึงสรรเสริญเขาในโลกนี้ เขาละโลกไปแล้ว
ยังบรรเทิงในสวรรค์.
ลูกเอ๋ย...ยามที่พ่อแม่ของเจ้ามีอายุมากขึ้น ย่อมมีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน ความแข็งแรงของร่างกายที่เคยมีก็ลดลง ใจน้อยง่าย ความจำก็เสื่อม ขี้หลงขี้ลืม จิตใจก็หมดความสุขสดชื่น ถึงแม้พวกเจ้าจะคอยเอาใจใส่ดูแลใกล้ชิดสักเพียงใดก็ตาม ก็ไม่อาจช่วยให้พ่อแม่ของเจ้ามีความสุขได้เต็มที่ เพราะพวกเจ้าทุกคนต่างก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เจ้าช่วยท่านให้ได้รับความสุขเพียงการให้กินอยู่หลับนอน อันเป็นความสุขทางกายเท่านั้น แต่จิตใจของท่าน หาได้ร่าเริงสดชื่นผ่องใสไม่
เจ้าจงจำไว้ว่า การให้ความสุขแก่พ่อแม่อย่างแท้จริงก็คือ การให้ธรรมะ ด้วยการสอนหลักธรรมง่ายๆให้พ่อแม่ของเจ้า พาท่านไปทำบุญทำทาน สอนท่านให้รู้จักการปฏิบัติบูชา สวดมนต์ ภาวนา แผ่เมตตา ธรรมะจะอยู่ในจิตใจของพ่อแม่เจ้าทุกภพทุกชาติ ถือว่าเป็นการทดแทนพระคุณที่สูงสุด
เจ้าจงจำไว้นะลูกเอ๋ย !...
พระพุทธองค์ตรัสสอนพระมหาคุณอันยิ่งใหญ่ของบุพการีผู้ให้กำเนิดอุ้มชูเลี้ยงดูฟูมฟักจนเติบใหญ่ ...
เราผู้เป็นลูกพึงรู้สำนึกในความกตัญญูกตเวทีที่ทดแทนพระคุณในขณะที่ท่านทั้งสองยังมีชีวิตอยู่...
มิใช่ทรัพย์สินเงินทอง..มิใช่ความเก่งกาจทรนง ...
หรือแม้เราจะควานหาทุกสิ่งจนเจนจบใต้หล้าทั่วแผ่นพื้นปฐพีนี้...
พระพุทธองค์ก็ยังตรัสว่า...ไม่อาจที่จะนำมาทดแทนคุณบุพการีได้เลย ...
แล้วมีสิ่งไหนเล่าที่จะทดแทนได้ ?...
ในกาลนั้น พระตถาคตเจ้าได้เปล่งพระสุรเสียงอันไพเราะ ๘ ประการ ของพรหม ตรัสแด่ปวงชนทั้งหลายว่า.... "เธอทั้งหลายพึงสำเหนียก เราจักแสดงแก่เธอ.....
หากมีบุรุษ หาบบิดาด้วยไหล่ซ้าย หาบมารดาด้วยไหล่ขวา ...
แบกหามหาบนั้นจนผิวหนังแตกทะลุถึงกระดูก ...
จากกระดูกถึงไขกระดูก ...
หาบวนรอบเขาพระสุเมรุเป็นเวลาผ่านไปนับ แสนกัป ...
โลหิตไหลท่วม ข้อเท้า ...
ก็มิอาจตอบแทนพระคุณอันล้ำลึกยิ่งใหญ่ของบิดามารดาได้ ...
หากบุรุษ ปรารถนาให้บิดามารดาพ้นจากทุพภิกขภัย ...
แล่เนื้อตนเอง และบดให้ละเอียด ให้บิดามารดาเป็นอาหาร ...
แม้จักกระทำถึง แสนกัป ...
ก็มิอาจตอบแทนพระคุณอันล้ำลึกยิ่งใหญ่ของบิดามารดาได้ ..
หากมีบุรุษ เพื่อตอบแทนพระคุณบิดามารดา ...
ใช้มีดคว้านควักดวงตาของตน ออกมาถวายบูชาแด่พระตถาคต ...
แม้จะกระทำนับ แสนกัป ...
ก็มิอาจตอบแทนพระคุณอันล้ำลึกยิ่งใหญ่ของบิดามารดาได้...
หากมีบุรุษ เพื่อตอบแทนพระคุณบิดามารดา ...
ใช้มีดอันคมควักหัวใจของตน โลหิตไหลทั่วพื้นปฐพี ...
มิหวั่นต่อความเจ็บปวด ...
แม้จักกระทำนับ แสนกัป ...
ก็มิอาจตอบแทนพระคุณอันล้ำลึกยิ่งใหญ่ของบิดามารดาได้...
หากมีบุรุษ เพื่อตอบแทนพระคุณบิดามารดา ...
ใช้มีดง้าวศาตราวุธนับแสน เสียบทิ่มแทงจนทะลุปรุพรุนไปทั่วร่าง ...
แม้จักกระทำนับ แสนกัป
ก็มิ อาจตอบแทนพระคุณอันล้ำลึกยิ่งใหญ่ของบิดามารดาได้....
หากบุรุษ. เพื่อตอบแทนพระคุณบิดามารดา ...
ทุบกระดูกตน รีดไขกระดูกเ็ป็นเชื้อไฟจุดประทีปถวายเบื้องหน้าพระตถาคต...
แม้จักกระทำนับ แสนกัป ...
ก็มิอาจตอบแทนพระคุณอันล้ำลึกยิ่ง ใหญ่ของบิดามารดาได้ ...
หากบุรุษ เพื่อตอบแทนพระคุณบิดามารดา ...
กลืนกินลูกเหล็กที่ร้อนระอุ ...
แม้จักกระทำนับ แสนกัป จนทั่วร่างกายลุกเป็นไฟ ...
ก็มิอาจตอบแทนพระคุณอันล้ำลึกยิ่งใหญ่ของบิดามารดาได้...
หากบุรุษ เพื่อตอบแทนพระคุณบิดามารดา ...
เอาร่างฝ่ากระโจนเข้าไปในกองไฟ จนไหม้เกรียมเป็นผุยผง ...
แม้จักกระทำนับ แสนกัป ....
ก็มิอาจตอบแทนพระคุณอันล้ำลึกยิ่งใหญ่ของบิดามารดาได้..."
ปวงชนทั้งหลาย เมื่อได้สดับรับฟังพระพุทธดำรัสถึงความยิ่งใหญ่ ของพระคุณบิดามารดาเช่นนั้น ...ต่างหลั่งน้ำตาด้วยความปวดร้าวใจ ดุจดังมีดกรีด ด้วยมิอาจคิดหาวิธีได้ ...
ต่างพร้อมเพรียงกันกราบทูล พระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยความละอายและเกรงกลัวต่อบาปในสังสารวัฎ ว่า....
" ข้าแต่พระโลกนาถเจ้า พวกข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นผู้บาปยิ่งนัก จักกระทำเยี่ยงไรจึงจะสามารถตอบแทนพระคุณอันยิ่งใหญ่ลึกซึ้งของ บิดามารดาได้ ? "
พึงเขียนแสดงพระสูตรนี้ ... (บอกกล่าวและเผยแผ่)
สวดท่องพระสูตรนี้ขอขมากรรมเพื่อบิดามารดา ...
ถวายสักการะแด่พระรัตนตรัยเพื่อบิดามารดา ...
พึงรักษาศีลอุโบสถเพื่อบิดามารดา ...
พึงบำเพ็ญทานเพื่อบิดามารดา ...
พึงชี้แนะธรรมะแด่บิดามารดา ...
หากประพฤติปฏิบัติได้เยี่ยงนี้ ย่อมได้ชื่อว่าเป็นบุตรกตัญญู...
หากไม่ประพฤติเยี่ยงนี้ ย่อมไม่อาจพ้นนรกโลกันต์ " ...
คุณของบิดา-มารดา คือ พระอรหันต์ของ บุตร
มารดา บิดา เป็นบุคคลที่รู้จักกันทั่วโลก
คนเราเกิดมาเห็นโลกอันกว้างใหญ่นี้ได้
เพราะมารดาบิดาเป็นผู้ให้กำเนิด
เป็นผู้ให้อวัยวะทุกส่วนของร่างกายแก่ลูก
ซ้ำมารดาบิดายังบำเพ็ญตนเป็นยอดนักบุญ
สำหรับชีวิตของลูกอีกด้วย
เป็นผู้เสียสละความสุขของตนเองทุกๆ อย่าง
เฝ้าทะนุถนอมเอาใจใส่ลูกทุกเวลา
ทำทุกอย่าง เพื่อความผาสุขของลูก
ลูกต้องการปรารถนาสิ่งใด อันเป็นสิ่งที่ไม่เหลือวิสัย
ก็พยายามจัดหาให้ทุกอย่าง เป็นผู้ใกล้ชิดลูกยิ่งกว่าใครๆ
ทุกคนจึงรู้จักมารดาบิดาดี
ส่วนลูกส่วนมาก หารู้จักและซึ้งถึงพระคุณของผู้เป็นมารดาบิดาไม่
คงรู้จักแต่เพียงว่าชายผู้ให้กำเนิดแก่คนเรียกว่า บิดา
หญิงผู้ให้กำเนิดแก่ตนเรียกว่า มารดา เท่านั้น
แท้จริงแล้ว ท่านผู้ให้กำเนิดทั้งสองนั้น เป็นผู้มีพระคุณมากมาย
สุดที่ลูกผู้กตัญญูรู้คุณ จะทดแทนพระคุณให้สิ้นสุดได้
เพราะเหตุนี้เอง พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นนาถของโลก
ทรงซึ้งถึงพระคุณของผู้เป็นมารดาบิดาผู้อนุเคราะห์บุตร
ว่าเป็นพระพรหม เป็นบุรพเทวดา
เป็นบุรพาจารย์ เป็นอาหุเนยยบุคคล ของบุตรดังนี้
มารดา บิดา เป็นผู้ที่มั่นคงในพรหมวิหารธรรม
โดยไม่ยอมทิ้ง เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ในลูกของตน
ย่อมมีเมตตารักใคร่ในลูก
ปรารถนาจะเห็นลูกของตนปราศจากโรคภัยเบียดเบียน
มีความสุข ร่าเริง แจ่มใส
มีกรุณา สงสาร เมื่อลูกของตนต้องประสบความทุกข์
คิดแต่จะช่วยให้พ้นจากความทุกข์ความเดือดร้อน
มีความสุขความเจริญ เมื่อเห็นว่าลูกของตนมีความสุข
สามารถเลี้ยงและปกครองตนเองและครอบครัวให้มีความสุขได้
ก็พลอยมีมุทิตายินดีด้วย ไม่อิจฉาริษยาในความสุขของลูก
เมื่อเห็นลูกต้องประสบทุกข์เดือดร้อน ก็ไม่ซ้ำเติม
วางจิตมัธยัสถ์เป็นกลางเสมอ
มารดาบิดา จึงเป็นดุจท้าวมหาพรหมที่ไม่เคยละภาวนา ๔ ในหมู่สัตว์
จึงได้รับนามบัญญัติว่าเป็น “พระพรหมของลูก”
มารดา บิดา เป็นผู้พิทักษ์รักษาลูกก่อนเทวดาทั้งปวง
นับตั้งแต่ลูกในครรภ์ เมื่อลูกเกิดมาแล้ว ก็เอาใจใส่ดูแล
แม้บางคราวลูกทุบตีตน เพราะไม่รู้เดียงสา
แทนที่มารดาบิดาจะเกลียดและโกรธ
กลับยกโทษให้และยังเพิ่มความรักใคร่ในลูกของตนเสียอีก
ไม่คำนึงถึงความผิดใดๆ ของลูกทั้งสิ้น
บางครั้งลูกทำผิด มารดาบิดาก็ดุว่ากล่าวหรือลงโทษ
แต่ด้วยใจริงแล้ว ไม่ปรารถนาจะให้ลูกของตนเดือดร้อน
ทำไปด้วยความรักความหวังดี
ปรารถนาให้ลูกของตนมีความสุขความเจริญ
มารดาบิดาจึงชื่อว่าเป็นเทวดา คือ ผู้ประเสริฐสุดสำหรับลูก
ท่านไม่พยายามที่จะทำความชั่วให้ปรากฏแก่ลูก
เกรงลูกจะถือเอาแนวปฏิบัติสร้างตนในทางที่ผิด
เมื่อลูกรู้จักคุณแล้ว ทำปฏิการะตอบแทน
จึงเป็นบุญเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่
เพราะเหตุที่ท่านทั้งสองบำเพ็ญตน เป็นเหมือนพระวิสุทธิเทพผู้ประเสริฐ
ซึ่งท่านไม่ปรารภถึงความผิดใดๆ ที่พวกคนพาลก่อขึ้น
มุ่งแต่ให้พวกเขามีความสุขความเจริญฝ่ายเดียว
คุณความดีของมารดาบิดาข้อนี้เอง
ท่านจึงได้นามว่า “บุรพเทวดาของลูก”
มารดา บิดา เป็นทั้งครูอาจารย์ก่อนกว่าครูอาจารย์อื่นๆ
เป็นผู้แนะนำอบรมสั่งสอนให้ลูกรู้จักกิน นอน พูด ทำ
รู้จักดีชั่ว ควรไม่ควร เป็นทั้งผู้สอนและผู้ฝึกหัดให้ทุกอย่าง
ท่านจึงสงเคราะห์มารดาบิดาว่าเป็นบุรพทิศในทิศ ๖
คุณความดีข้อนี้เอง ท่านจึงได้นามว่า “บุรพาจารย์ของลูก”
มารดา บิดา เป็นผู้มีพระคุณหลายประการดังกล่าวมาแล้ว
เป็นทั้งผู้ให้กำเนิด เป็นทั้งผู้เลี้ยงดูให้อุปการะและสั่งสอน
จนเป็นผู้สมควรอย่างยิ่งที่ลูกผู้กตัญญูรู้คุณ จะพึงนำสักการะ
มีอาหารและผ้าผ่อนท่อนสไบ เป็นต้น
มาบูชาเป็นการตอบแทนพระคุณท่าน
เพราะเมื่อสักการะบูชาท่านแล้ว ย่อมได้ผลานิสงส์มาก
เหมือนได้สักการะบูชาแด่พระอรหันต์ขีณาสพ
ท่านจึงได้นามว่าเป็น “อาหุเนยยบุคคลของลูก"
มารดา บิดา เป็นทั้งผู้สร้าง และผู้อุปถัมภ์ เป็นผู้ให้กำเนิดแก่ลูกแล้ว
ก็ต้องรับภาระเป็นผู้อนุเคราะห์เลี้ยงดูอีก ไม่ทอดทิ้ง
พยายามที่จะเสกสรรปั้นแต่งลูกของตนให้เป็นคนดี
เพราะเหตุนี้เอง พระมหามุนีศาสดาจารย์
จึงตรัสแก่คฤหบดีบุตรชื่อ สิคาลกะว่า ดูกร คฤหบดีบุตร
มารดาบิดาพึงอนุเคราะห์บุตรของตนโดยสถาน ๕ คือ
๑. ป้องกันบุตรธิดามิให้ทำความชั่ว
๒. ส่งเสริมให้ตั้งอยู่ในความดี
๓. ให้ศึกษาศิลปวิทยา
๔. หาคู่ครองที่สมควรให้
๕. มอบทรัพย์ให้ในสมัย
เพราะมารดาบิดา มีพระคุณอันใหญ่หลวงดังกล่าวมานี้
ผู้เป็นลูกจึงต้องคำนึงระลึกถึงเสมอ และหาทางตอบแทนพระคุณ
แม้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงสนองพระคุณของพระชนนี
เพื่อชดใช้ค่าข้าวป้อนและค่าน้ำนม
โดยเสด็จไปจำพรรษา ณ ดาวดึงส์พิภพ
แล้วทรงแสดงพระอภิธรรมโปรด จึงเป็นเนตติแบบอย่างอันดี
สำหรับพุทธบริษัทผู้เคารพนับถือในพระองค์ จึงพึงปฏิบัติตาม
ถ้าหวังจะบำเพ็ญตนเป็นลูกที่ดี
จึงเป็นการสมควรแล้ว ที่จะหาทางสนองพระคุณท่าน
ตามฐานะและโอกาส ด้วยการเลี้ยงดูท่านให้ได้รับความสุข
เป็นการแสดงกตัญญูกตเวทิตาธรรมต่อท่านผู้ดำรงอยู่ในฐานะบุพการี
ผู้ทำอุปการให้แก่ตนก่อน
ข้อนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสแก่คฤหบดีบุตร ชื่อ สิคาลกะ ว่า
ดูกร คฤหบดีบุตร เมื่อมารดาบิดา
ได้อนุเคราะห์บุตรธิดาโดยสถาน ๕ แล้ว
บุตรธิดาพึงปฏิการะตอบแทนโดยสถาน ๕ เช่นเดียวกัน คือ
๑. ท่านเลี้ยงมาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ
๒. ช่วยทำกิจของท่าน ไม่ดูดาย
๓. ดำรงวงศ์สกุล ไม่ให้เสื่อม
๔. ประพฤติตนให้เป็นคนควรได้รับมรดก
๕. เมื่อท่านล่วงลับไป ทำบุญอุทิศให้แก่ท่าน
ทั้ง ๕ สถานนี้ สถานต้นเป็นข้อที่ผู้เป็นลูกควรทำ
เพราะเราเจริญเติบโตได้ก็อาศัยที่ท่านมีเมตตาจิตให้การเลี้ยงดู
เมื่อท่านแก่เฒ่าลงจึงเป็นหน้าที่ที่ลูกจะพึงเลี้ยงดูท่าน
เป็นการตอบแทน เป็นการชดใช้หรือทดแทนพระคุณท่านที่ทำไว้ก่อน
มีภาษิตบทหนึ่งสำหรับเตือนใจผู้เป็นลูก
ให้ทดแทนพระคุณท่านด้วยการเลี้ยงดูว่า
อันทิศเบื้องหน้า บิดามารดาพึ่งอาศัย
อย่าได้ดูถูก หมั่นปลูกอาลัย หมั่นเลี้ยงท่านไป ตราบม้วยชีวา
การเลี้ยงท่านนั้น ท่านแสดงไว้ ๒ ประการ คือ
๑. การเลี้ยงภายนอก ได้แก่ การอุปฐากอย่างต่ำ
๒. การเลี้ยงภายใน ได้แก่ การอุปฐากอย่างสูง
การเลี้ยงภายนอกนั้น ได้แก่ การจัดหาข้าวปลาอาหาร
และผ้าผ่อนท่อนสไบให้แก่ท่าน
เป็นการเลี้ยงและให้ความสุขทางกายแก่ท่าน
อันนับว่า เป็นอามิสบูชา เป็นส่วนการอุปฐากอย่างต่ำ
ส่วนการเลี้ยงดูภายในนั้น ได้แก่ การเลี้ยงดูน้ำใจท่าน
โดยเป็นผู้เชื่อฟังตั้งอยู่ในคำสั่งสอนไม่ขัดข้อง
ทั้งเป็นผู้หาโอกาส ทำให้ท่านเป็นผู้มีจิตใจ เป็นผู้เจริญด้วยคุณธรรม
หาทางนำท่านผู้ไม่มีศรัทธาให้มีศรัทธา
ผู้ไม่มีศีลให้มีศีล ผู้ไม่มีจาคะการบริจาค ให้มีจาคะการบริจาค
ผู้ไม่มีปัญญาให้มีปัญญา
ดังพระสารีบุตรเถระเจ้าแนะนำมารดาผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิ ให้เป็นสัมมาทิฏฐิ
นับว่าเป็นปฏิบัติบูชา เป็นส่วนแห่งการอุปฐากอย่างสูง
ลูกบางคนเลี้ยงมารดาบิดา เพราะเห็นแก่ทรัพย์สมบัติ
ไม่คำนึงถึงพระคุณเป็นส่วนใหญ่
การทำเช่นนั้นไม่ชื่อว่าเป็นการสนองพระคุณท่าน
อันเป็นส่วนกตัญญูกตเวทีเลย
หากมารดาบิดาไม่มีทรัพย์สมบัติแล้ว
ลูกก็ไม่เลี้ยงดูนำพาปล่อยให้เป็นอยู่ตามยถากรรม
ลูกเช่นว่านี้เป็นลูกอกตัญญู ไม่รู้จักคุณ
เพราะเหตุนั้นการเลี้ยงดูท่าน
จึงเป็นหลักอันสำคัญที่ลูกผู้กตัญญูกตเวทีจะพึงทำ
เพราะเป็นเหตุนำมงคลคือความเจริญมาให้
ดังพระศาสดาตรัสไว้ในมงคลสูตรว่า
มาตาปิตุอุปฏฐานํ เอตมฺมํคลมุตฺตมํ
การเลี้ยงดูมารดาบิดา เป็นมงคลอย่างสูงสุด
พระพุทธเจ้าทรงยกย่องและสรรเสริญผู้เลี้ยงมารดาบิดาไว้มาก
แม้ภิกษุผู้บวชในพระธรรมวินัย ก็ยังทรงอนุญาตให้เลี้ยงมารดาบิดาได้
เที่ยวบิณฑบาตได้อาหารมา แม้ตนเองมิยังไม่ได้ฉันก็ให้แก่มารดาบิดาได้
ไม่ชื่อว่าทำศรัทธาไทยของทายกให้เสียไป ทั้งไม่มีโทษทางพระวินัยด้วย
การช่วยเหลือทำกิจการงานของท่านนั้น เป็นหน้าที่ที่ลูกจะพึงกระทำ
เพราะเป็นการผ่อนแรงท่าน ที่ตรากตรำหาเลี้ยงเรามา
ไม่ทำตนเป็นคนดูดาย เอาแต่เที่ยวเตร่หาความสนุกสนาน
ปล่อยให้ท่านทั้งสองทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำไปตามลำพัง
อย่างน้อยผู้เป็นลูกต้องนึกบ้างว่า มารดาบิดาของลูกทุกคน
เมื่อมีลูกก็ย่อมปรารถนาหวังพึ่งพาอาศัยบ้าง
โบราณภาษิตบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า
“มีลูกเหมือนปลูกต้นโพธิ์ เมื่อใหญ่เมื่อโตจะได้อาศัย
ยามเจ็บไข้จะได้ฝากไข้ ยามตายจะได้ฝากผี เวลาดีๆ เอาไว้ใช้สอย”
ฉะนั้น จึงเป็นหน้าที่ที่ลูกไม่พึงละเลย
ในการช่วยเหลือทำกิจการงานของท่าน
ส่วนการประพฤติตนเป็นคนดี
เมื่อรักษาวงศ์สกุลของตนไม่ให้เสียหาย
และการประพฤติตนให้เป็นคนสมควรรับ
และปกครองทรัพย์มรดกของท่านนั้น ก็ล้วนเป็นหลักสำคัญทั้งนั้น
นอกจากจะเป็นการทำตนให้เจริญแล้ว
ยังเป็นการทำให้ท่านพอใจและเกิดความสุข
อันเป็นการเลี้ยงน้ำใจท่านด้วย
ส่วนประการหลังนั้น เป็นการสนองพระคุณครั้งสุดท้าย
แม้จะเป็นการทำลับหลังก็ตาม ก็เป็นการแสดงออกให้เห็นว่า
ตนเป็นลูกกตัญญูกตเวที ไปลืมความดีที่ท่านทำไว้แก่ตน
ขวนขวายที่จะทำตอบแทนในเมื่อมีโอกาส
เป็นการประกาศให้ทราบว่าเป็นคนหน้าคบหาสมาคม
แม้ฝ่ายหนึ่งล่วงลับไปแล้ว ก็ยังระลึกถึงและหาทางสนองคุณ
ฉะนั้นเมื่อมารดาบิดาล่วงลับไปจึงเป็นหน้าที่
ที่ลูกต้องทำบุญอุทิศให้โดยแท้
ถ้าอยากเป็นลูกดี ก็ควรนึกถึงภาษิตเตือนใจบทหนึ่งที่ว่า
ลูกไม่ดี มีเท่าไร ไม่คุ้ม
ดุจลูกตุ้ม แกว่งไกว ไพร่สถุล
แต่ลูกดี มีหลัก รู้จักคุณ
หมั่นทำบุญ อุทิศให้ เมื่อวายปราณ.
การทดแทนพระคุณมารดาบิดานั้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้
ในมาตาปิตุคุณสูตรทุตนิบาต อังคุตตรนิกาย ความว่า
ภิกษุทั้งหลาย เราไม่กล่าว การทำตอบแทนได้ง่ายแก่ท่านทั้งสอง
ท่านทั้งสองนั้นคือใคร? คือมารดาบิดา
บุตรพึงประคับประคองมารดาบิดาด้วยบ่าขวาบิดาด้วยบ่าซ้าย
เขามีชีวิตอยู่ถึง ๑๐๐ ปี และเขาพึงบำรุงมารดาบิดานั้น
ด้วยการอบกลิ่น การนวด การให้อาบน้ำ และการดัด
และท่านทั้งสองนั้นพึงถ่ายอุจจาระปัสสาวะรดบนบ่าทั้งสอง
นั่นแหละภิกษุทั้งหลาย อนึ่งบุตรพึงสถาปนามารดาบิดาไว้
ในราชสมบัติอันเป็นอิสราธิปัตย์แห่งแผ่นดินใหญ่นี้
อันมีรัตนะ ๗ ประการมากมาย
กิจอย่างนั้นยังไม่เป็นอันบุตรทำแล้วหรือทำตอบแล้วแก่มารดาบิดานั้นเลย
ข้อนั้นเป็นเพราะเหตุไร? ภิกษุทั้งหลาย เพราะมารดาบิดา
เป็นผู้มีอุปการะมาก เป็นผู้บำรุงเลี้ยง
แสดงโลกนี้แก่บุตรทั้งหลาย
ภิกษุทั้งหลาย
ก็บุตรใดและยังมารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธาให้ดำรงมั่นอยู่ในศรัทธา
ยังมารดาบิดาที่ทุศีลให้สมาทานดำรงมั่นอยู่ในศีล
ยังมารดาบิดาตระหนี่เหนียวแน่น ให้ดำรงมั่นอยู่ในจาคะ
ยังมารดาบิดาผู้ไร้ปัญญา ให้สมาทานดำรงมั่นอยู่ในปัญญา
ภิกษุทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้มีประมาณเท่านี้แหละ
กิจนั้นจึงชื่อว่า เป็นอันบุตรทำแล้ว ทำตอบแทนแล้ว
ทำยิ่งแล้วแก่มารดาบิดา ดังนี้
เมื่อลูกทำได้ดังแสดงมานี้ จึงชื่อว่าเป็นการทดแทนพระคุณท่าน
เป็นเหตุให้บุตรได้รับผลานิสงส์หลายประการคือ
๑. เป็นมงคล คือมีความสุขความเจริญแก่ชีวิต
๒. เป็นที่สรรเสริญของนักปราชญ์
๓. เป็นเหตุให้ปฏิบัตินั้นพ้นจากทุกข์ทั้งปวง
เพื่อจะแสดงอานิสงส์ของบุตรเพื่อเลี้ยงมารดาบิดานั้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเรื่องพญานกแขกเต้า
บรมโพธิสัตว์ เป็นอุทาหรณ์ ความว่า
ดังได้ยินมาแต่กาลก่อน พระบรมโพธิสัตว์ เสวยพระชาติเป็นพญานกแขกเต้า
อาศัยอยู่ป่าไม้งิ้ว แถบไหล่เขา
วันหนึ่งพาบริวารไปหาอาหารยังป่าหิมพานต์
เพื่อเลี้ยงมารดาบิดาของตน
ครั้งนั้นมีพราหมณ์ผู้หนึ่งชื่อว่าโกสิยะพราหมณ์ อาศัยอยู่ในสาลิยะคาม
พราหมณ์ได้ใช้บริวารไปหว่านข้าวสาลี
ในเนื้อที่ประมาณ ๗๐๐๐ ไร่ แล้วให้บริวารอยู่รักษา
พระโพธิสัตว์ก็พาบริวารไปลงในนาของโกสิยะพราหมณ์
ฝูงนกแขกเต้าทั้งหลาย กินอิ่มแล้วบินมาแต่ปากเปล่า
ส่วนพระโพธิสัตว์เจ้ากินแล้วก็คาบรวงข้าวมาเลี้ยงมารดาบิดาทุกๆ วัน
บุรุษที่รักษานาข้าวสาลี จึงไปบอกแก่โกสิยะพราหมณ์ พ
ราหมณ์ก็สั่งให้จับพญานกแขกเต้าทั้งเป็น อย่าฆ่าให้ตาย
บุรุษผู้รักษานาก็ทำบ่วงแล้วดักพระโพธิสัตว์ จับพระโพธิสัตว์ได้
มัดมาให้แก่พราหมณ์ พราหมณ์จึงไต่ถามว่า ดูกรท่านผู้เป็นปักษี
ท่านมาคาบรวงข้าวสาลีของเราไปทุกๆ วัน
ท่านมีความโกรธเคืองเราหรือๆ
ท่านนำไปใส่ยุ้งใส่ฉางไว้เป็นประการใด
พระโพธิสัตว์จึงแจ้งว่า เรามิได้โกรธเคืองท่าน ยุ้งฉางสำหรับใส่ก็ไม่มี
เรานำข้าวสาลีของท่านไปเพราะเหตุ ๓ ประการ คือ
๑. เอาไปใช้หนี้เก่า
๒. เอาไปฝังไว้
๓. เอาไปให้เขายืม
พราหมณ์จึงถามว่า เอาไปใช้หนี้เก่าก็ดี เอาไปฝังไว้ก็ดี
เอาไปให้เขายืมก็ดี ท่านทำอย่างไร? พระโพธิสัตว์บอกว่า
เอาไปใช้หนี้เก่า นั้นคือเอาไปเลี้ยงมารดาบิดาที่ชราหากินไม่ได้
ท่านเลี้ยงเรามาไว้เติบใหญ่
เหมือนหนึ่งเป็นเจ้าหนี้เราควรเลี้ยงดูท่านเหมือนเป็นลูกหนี้
เพราะฉะนั้น เราจึงคาบรวมข้าวสาลีไปให้แก่มารดาบิดาทุกวัน
เอาไปฝังไว้ นั้นคือไปให้นกทั้งหลายที่เจ็บไข้
และมีขนปีกยังอ่อนหากินไม่ได้ ให้เป็นทานการกุศล
เอาไปให้เขายืม นั้นคือเอาไปให้ลูกยังอยู่ในรังยังหากินไม่ได้
นานไปเขาโตใหญ่ เขาจะเลี้ยงเราเมื่อแก่ชรา
พราหมณ์ทราบดังนั้น มีความโสมนัสยินดี
บอกแก่พระโพธิสัตว์ว่า นับแต่นี้ไป
เราจะมอบนาข้าวสาลีให้ท่าน จงพาบริวารมากินเถิด
แล้วแก้เชือกที่มัดเท้าออกให้
ฝ่ายพระโพธิสัตว์ก็รู้จักประมาณ รับเอาเพียงเนื้อที่ ๘ ไร่เท่านั้น
แล้วให้โอวาทแก่พราหมณ์ ให้ตั้งอยู่ในธรรมสุจริต
ลงพราหมณ์ไปสู่ป่าไม้งิ้วอันเป็นที่อยู่แห่งตน
เรื่องนี้ชี้ให้เห็นว่า การเลี้ยงมารดาบิดานั้น เป็นมงคล
คือ เป็นความดีสำหรับผู้ปฏิบัติ ดังเช่นพระยานกแขกเต้า
ได้รับนาข้าวสาลีจากพราหมณ์ ไม่ต้องเดือดร้อนอีกต่อไป
เป็นที่สรรเสริญของนักปราชญ์ คือ ผู้รู้
ดังเช่นพญานกแขกเต้าได้รับการสรรเสริญจากโกสิยะพราหมณ์
เป็นเหตุทำตนให้พ้นจากความทุกข์ทั้งปวง
เหมือนพญานกแขกเต้าได้รับอิสระ
พ้นจากเครื่องพันธนาการของพราหมณ์
เพราะฉะนั้น เราทั้งหลายหญิงชายที่เกิดมาจงอย่าได้ประมาท
จงปฏิบัติมารดาบิดาให้มีความสุข ทั้งส่วนที่เป็นอามิสบูชา และปฏิบัติบูชา
เพราะเหตุว่ามารดาบิดา เป็นผู้มีคุณมาก
จะเอาแผ่นดินและน้ำ ท้องฟ้าอากาศและเขาสุเมรุราช
มาชั่งด้วยคุณมารดาบิดาเบากว่า
และยังชื่อว่าผู้ปฏิบัติย่อมได้รับประโยชน์ทั้งชาตินี้และชาติหน้าด้วย
แข่งบุญวาสนาเราแข่งกันไม่ได้
ภาษิตท่านกล่าวไว้ว่า ยามบุญมากาไก่กลายเป็นหงษ์
ยามบุญลงหงษ์เป็นกาหน้าฉงน
น้ำไม่เซาะเกาะไม่พังพึงวังวน
วิสัยผลที่จะผลิตเพราะเหตุมี
หรือดังคำพังเพยที่กล่าวว่า
เวลาบุญมา ปัญญาก็ช่วย ที่ป่วยก็หาย ที่หน่ายก็รัก
เวลาบุญไม่มา ปัญญาก็ไม่ช่วย ที่ป่วยก็หนัก ที่รักก็หน่าย
สิ่งทั้งหมดที่มันปรากฏการณ์อยู่แก่ตัวเราในปัจจุบัน
มันเป็นผลที่ไหลมาจาเหตุจากภพก่อนทั้งนั้น
สมดังคำพระอัสสชิเถระกล่าวแก่อุปติสสะมาณพว่า
เยธมฺมาเหตุปพฺพวา เตสํเหตุ ํ ตถาคตโต
ธรรมทั้งหลายย่อมไหลมาจากเหตุ
คือ มีเหตุเป็นแดนเกิด
"ต้นไม้ที่ได้รับการดูแลให้น้ำให้ปุ๋ย ไปบำรุงลำต้นจนสมบูรณ์ เมื่อถึงเวลา ไม่ยอมออกดอกออกผล ก็ต้องโค่นทิ้ง
คนที่ได้รับการเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ แต่ไม่ยอมตอบแทนคุณพ่อแม่ก็เป็นคนหนักแผ่นดิน
ทองคำแท้หรือไม่โดนไฟก็รู้ คนดีแแท้หรือไม่ ให้ดูตรงที่เลี้ยงพ่อแม่ ถ้าดีจริง ต้องเลี้ยงพ่อแม่ ถ้าไม่เลี้ยง แสดงว่าดีไม่จริง เป็นพวกทองชุบ ทองเก๊"
พระคุณของพ่อแม่
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสอุปมาว่า ถ้าบุตรจะพึงวางบิดามารดาไว้บนบ่าทั้งสองของตน ประคับประคองท่านอยู่บนบ่านนั้น ป้อนข้าวป้อนน้ำและให้ท่านถ่ายอุจจาระปัสสาวะบนบ่านั้นเสร็จ แม้บุตรจะมีอายุถึง ๑๐๐ ปี และปรนนิบัติท่านไปจนตลอดชีวิต ก็ยังนับว่าตอบแทนพระคุณท่านไม่หมด
ยังมีผู้อุปมาไว้ว่า หากเราใช้ท้องฟ้าแทนกระดาษ ยอดเขาพระสุเมรุแแทนปากกาน้ำในมหาสมุทรแทนหมึก เขียนบรรยายคุณของพ่อแม่ จนท้องฟ้าเต็มไปด้วยอักษร ภูเขาสึกกร่อนจนหมด น้ำในมหาสมุทรเหือดแห้งก็ยังบรรยายคุณของพ่อแม่ไม่หมด
บิดามารดาเป็นผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ของบุตร สรุปโดยย่อคือ
๑.เป็นต้นฉบับทางกาย แบบเป็นสิ่งที่จำเป็นในการทำให้ของทั้งหลายในโลกมีค่าสูงขึ้น ตัวอย่างเช่นก้อนดินเหนียวธรรมดา ถ้าหากนำมาใส่แบบพิมพ์แล้วพิมพ์เป็นตุ๊กตา ก็ทำให้ดินก้อนนั้นมีค่าขึ้นมาเป็นเครื่องประดับบ้านเรือนได้ดินเหนียวก้อนเดียวกันนี้ หากได้แบบที่ดีกว่าขึ้นมาอีกเช่นแบบเป็นพระพุทธรูปก็จะเห็นได้ว่าคุณค่าของดินเหนียวก้อนนี้ทรงคุณค่ามากยิ่งขึ้น ผู้คนได้กราบไหว้บูชา จะเห็นได้ว่าคุณค่าของดินเหนียว ก้อนนี้ขึ้นอยู่กับแแบบที่พิมพ์นั่นเอง ในทำนองเดียวกัน การเกิดของสัตว์ เช่นเป็น ช้าง มัา วัว ควาย ฯลฯ แม้จะมีปัญญาติดตัวมามากสักปานใดก็ไม่สามารถทำความดีได้เต็มที่ โชคดีที่เราได้แบบเป็นคน ซึ่งเป็นโครงร่างที่ประเสริฐกว่าสัตว์ทั้งหลาย เหมาะในการทำความดีทุกประการ พระคุณขงอพ่อแม่ในการเป็นต้นแบบทางกายให้เรา ก็นับว่ามีมากเหลือหลายแล้วยิ่งท่านอบรม เลี้ยงดูเรามาเป็นต้นแบบทางใจให้ด้วย ก็ยิ่งมีพระคุณมากเป็นอเนกนันต์
๒.เป็นต้นแบบทางใจ ให้ความอุปการะเลี้ยงดู ฟูมฟัก ทะนุถนอมอบรมสั่งสอน ปลูกฝังกิริยามารยาท ให้ความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมแก่ลูก
สมญานามของพ่อแม่
สมญานามของพ่อแม่นั้น กล่าวกันว่าท่านเป็นทั้งพรหมของลูก เทวดาคนแรกของลูก ครูคนแรกของลูก และเป็นพระอรหันต์ของลูก ซึ่งอธิบายได้ดังนี้
-พ่อแม่เป็นพรหมของลูก เพราะเหตุที่มีพรหมธรรม ๙ ประการได้แก่
๑.มีเมตตา คือ มีความปรารถนาดีต่อลูกไม่มีที่สิ้นสุด
๒.มีความกรุณา คือ หวั่นใจในความทุกข์ของลูกและคอยช่วยเหลือเสมอไม่ทอดทิ้ง
๓.มีมุทิตา คือ เมื่อลูกมีความสุขสบาย ก็มีความปลาบปลื้มยินดีด้วยความจริงใจ
๔.มีอุเบกขา คือ เมื่อลูกมีครอบครัวสามารถเลี้ยงตนเองได้แล้ว ก็ไม่วุ่นวายกับชีวิตครอบครัวลูกจนเกินงาม และหากลูกผิดพลาดก็ไม่ซ้ำเติม แต่กลับคอยเป็นที่ปรึกษา ให้เมื่อลูกต้องการ
-พ่อแม่เป็นเทวดาคนแรกของลูก เพราะคอยปกป้องคุ้มกันภัยเลี้ยงดูลูกมาก่อนผู้มีความปรารถนาดีคนอื่น ๆ
-พ่อแม่เป็นครูคนแรกของลูก เพราะสั่งสอนอบรม คำพูดและกิริยามารยาทให้ลูกก่อนคนอื่น ๆ
-พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก เพราะมีคุณธรรม ๔ ประการ ได้แก่
๑.เป็นผู้มีอุปการะมากแก่ลูก ท่านได้ทำภารกิจอันทำได้แสนยาก ได้แก่การอุปการะเลี้ยงดูลูก ซึ่งยากที่จะหาคนอื่นทำแก่เราได้อย่างท่าน
๒.เป็นพระเดชพระคุณมาก ปกป้องอันตราย ให้ความอบอุ่นแก่ลูกมาก่อน
๓.เป็นเนื้อนาบุญของลูก มีความบริสุทธิ์ใจต่อลูกอย่างแท้จริงเป็นผู้ที่ลูกควรทำบุญต่อตัวท่าน
๔.เป็นอาหุไนยบุคคล เป็นผู้ควรแก่การรับของคำนับ และการนมัสการของลูก
คุณธรรมของลูก
เมื่อพ่อแม่มีพระคุณมากมายปานนี้ ลูกจึงควรมีคุณธรรมต่อท่านคุณธรรมของลูกเริ่มที่รู้จักคุณพ่อแม่ คือรู้ว่าท่านดีต่อเราอย่างไร สูงขึ้นไปอีกคือตอบแทนคุณท่าน ในทางศาสนาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสบรรยายคุณธรรมของลูกไว้อย่างสั้น ๆ แต่จับความไว้ได้อย่างครบถ้วน คือคำว่า "กตัญญู กตเวที"คุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นลูกรวมอยู่ใน ๒ คำนี้
กตัญญู หมายถึงเห็นคุณท่าน คือเห็นด้วยใจ ด้วยปัญญา ว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณต่อเราอย่างแท้จริง ไม่ใช่สักแต่ว่าปากท่องพระคุณพ่อแม่ปาว ๆไปเท่านั้น
คุณของงพ่อแม่ดูได้จากอุปการะ คือประโยชน์ที่ท่านทำแก่เรามีอะไรบ้างที่แตกต่างจากคนอื่น ตามธรรมดาของคนทั่ว ๆ ไป เมื่อจะอุปกาะใครเขาต้องเห็นทางได้ เช่น เห็นหลักทรัพย์ หรือดูนิสัยใจคอ ต่อเมื่อแน่ใจแล้วว่าอุปการคุณของเขาจะไม่สูญเปล่า จึงลงมือช่วยเหลือ แต่ที่พ่อแม่อุปการะเรานั้นเป็นการอุปการะโดยบริสุทธิ์ใจจริง ๆ ไม่ได้มองถึงหลักประกันใด ๆ เลย เราเองก็เกิดมาตัวเปล่าไม่มีหลักทรัพย์แม้แต่เข็เล่มเดียวยัง ไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าอวัยวะร่างกายจะใช้ได้ครบถ้วนหรือไม่ ยิ่งนิสัยใจคอแล้วยิ่งรู้ไม่ได้เอาทีเดียว โตขึ้นมาจะเป็นอย่างไร จะเป็นคนอกตัญญูหรือไม่ไม่รู้ทั้งนั้น หนังสือสัญญาการรับปากสักคำเดียวระหว่างเรากับท่านก็ไม่มีแต่ทั้ง ๆที่ไม่มี ท่านทั้งสองก็ได้โถมตัวเข้าช่วยเหลือเราจนสุดชีวิต ที่ยากจนก็ถึงกับกู้หนี้ยืมสินคนอื่นมาช่วย เรื่องเหล่านี้ต้องคิดดูด้วยเหตุผลอย่าสักแต่คิดด้วยอารมณ์เท่านั้น การพิจารณาให้เห็นคุณของพ่อแม่ด้วยใจอย่างนี้แหละเรียกว่า"กตัญญู" เป็นคุณธรรมเบื้องต้นของผู้เป็นลูก ยิ่งพิจารณาเห็นคุณท่านมากเท่าไร แสดงว่าใจของเราเริ่มใสและสว่างมากขึ้นเท่านั้น
กตเวที หมายถึง การทดแทนพระคุณของท่าน ซึ่งมีงานที่ต้องทำ ๒ ประการ คือ
๑.ประกาศคุณท่าน
๒.ตอบแทนคุณท่าน
การประกาศคุณท่าน หมายถึง การทำให้ผุ้อื่นรู้ว่า พ่อแม่มีคุณแก่เราอย่างไรบ้าง มากน้อยเพียงใด เรื่องนี้มีคนคิดทำอยู่มากเหมือนกัน แต่ส่วนมากไปทำตอนงานศพ คือเขียนประวัติสรรเสริญคุณพ่อแม่ในหนังสือแจก การกระทำเช่นนี้ก็ถูก แต่ถูกเพียงเปลือกนอกผิวเผินนัก ถ้าเป็นการกินผลไม้ก็แค่เคี้ยวเปลือกเท่านั้น ยังมีทำเลที่จะประกาศคุณพ่อแม่ที่สำคัญกว่านี้ คือ ที่ตัวเรานี่เอง
คนเราทุกคนคือตัวแทน ของพ่อแม่ตนทั้งนั้น เลือดก็แบ่งมาจากท่านเนื้อก็แบ่งมาจาท่าน ตลอดจนนิสัยใจคอก็ได้รับการอบรมถ่ายทอดมาจากท่าน ความประพฤติของตัวเรานี่แหละจะเป็นเครื่องประกาศคุณพ่อแม่อย่างโจ่งแจ้งที่สุด หากพิมพ์ข้อความไว้ในหนังสือแจกว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นคนตั้งอยู่ในศีลในธรรม แต่ตัวเราเองประพฤติสำมะเลเทเมา คอร์รัปชั่นทุกครั้งที่มีโอกาสศีลข้อเดียวก็ไม่สนใจรักษา ก็ผิดที่ไป สดุดีคุณพ่อแม่ว่าเป็นคนดี สุภาพเรียบร้อยแต่ตัวเราผู้เป็นลูกกลับประพฤติตัวเป็นนักเลงอันธพาล อย่างนี้คุณค่าของการสรรเสริญพ่อแม่ก็ลดน้ำหนักลง กลายเป็นว่ามอบหน้าที่ในการกตเวทีประกาศคุณพ่อแม่ให้หนังสือทำแทน ให้กระดาษ ให้เครื่องพิมพ์ ให้ช่างเรียงพิมพ์แสดงกตเวทีแทน แล้วตัวเรากลับประจานพ่อแม่ของตัวเอง อย่างน้อยที่สุดก็ประจานแก่ชาวบ้านว่าพ่อแม่ของเราเลี้ยงลูกไม่เป็นประสา
พ่อแม่ของใครใครก็รัก เมื่อรัท่านก็ประกาศคุณความดีของท่านซิประกาศด้วยความดีของตัวเราเองตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ยิ่งท่านยังมีชีวิตอยู่ การประกาศคุณของเราจะทำให้ท่านมีความสุขใจอย่างยิ่ง ส่วนใครจะประพันธ์สรรเสริญคุณพ่อแม่พิมพ์แจกเวลาท่านตายแล้ว นั่นเป็นประเด็นเบ็ดเตล็ดจะทำก็ได้ไม่ทำก็ไม่เสียหายอะไร
ไม่ว่าเราจะตั้งใจประกาศคุณท่านหรือไม่ ความประพฤติของเราก็เป็นตัวประกาศคุณท่านหรือประจานท่านอยู่ตลอดเวลา คิดเอาเองก็แล้วกันว่าเราจะประกาศคุณพ่อแม่ของเราด้วยเกียรติยศชื่อเสียง หรือจะใจดำถึงกับประจานผู้บังเกิดเกล้าด้วยการทำตัวเป็นพาลเกเรและประพฤติต่ำทราม
การตอบแทนคุณท่าน แบ่งเป็น ๒ ช่วง คือ
๑.เมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ ก็ช่วยเหลือกิจการงานของท่านเลี้ยงดูท่านตอนเมื่อยามท่านชรา ดูแลปรนนิบัติการกินอยู่ของท่านให้สะดวกสบายและเอาใจใส่ช่วยเหลือเมื่อท่านเจ็บป่วย
๒.เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ก็จัดพิธีศพให้ท่าน และทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่านอย่างสม่ำเสมอ
แม้เราจะตอบแทนพระคุณท่านถึงเพียงนี้แล้ว ก็ยังนับว่าเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับพระคุณอันยิ่งใหญที่ท่านมีต่อเรา
ผู้ที่มีความกตัญญูกตเวทีต้องการจะสนองพระคุณท่านให้ได้ทั้งหมด พึงกระทำดังนี้
๑.ถ้าท่านยังไม่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา ก็พยายามชักนำให้ท่านตั้งอยู่ในศรัทธาให้ได้
๒.ถ้าท่านยังไม่ถึงพร้อมด้วยการให้ท่าน ก็พยายามชักนำให้ท่านยินดีในการบริจาคทานให้ได้
๓.ถ้าท่านยังไม่มีศีล ก็พยายามชักนำให้ท่านรักษาศีลให้ได้
๔.ถ้าท่านยังไม่ทำสมาธิภาวนา ก็พยายามชักนำให้ท่านทำสมาธิภาวนาให้ได้
เพราะว่าการตั้งอยู่ในศรัทธาการให้ท่าน การรักษาศีล การทำสมาธิภาวนา เป็นประโยชน์โดยตรง และเป็นประโยชน์อันยิ่งใหญ่แก่ตัวบิดามารดาผู้ประพฤติปฏิบัติเองทั้งในภพนี้ ภพหน้า และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งคือ เป็นหนทางไปสู่พระนิพพาน
อานิสงส์การบำรุงบิดามารดา
๑.ทำให้เป็นคนมีความอดทน
๒.ทำให้เป็นคนมีสติรอบคอบ
๓.ทำให้เป็นคนมีเหตุผล
๔.ทำให้พ้นทุกข์
๕.ทำให้พ้นภัย
๖.ทำให้ได้ลาภโดยง่าย
๗.ทำให้แคล้วคลาดภัยในยามคับขัน
๘.ทำให้เทวดาลงรักษา
๙.ทำให้ได้รับการยกย่องสรรเสริญ
๑๐.ทำให้มีความเจริญก้าวหน้า
๑๑.ถ้ามีลูกก็จะได้ลูกที่ดี
๑๒.ทำให้มีความสุข
๑๓.ทำให้เป็นตัวอย่างอันดีแก่อนุชนรุ่นหลัง
- ຄວາມກະຕັນຍູ ກະຕະເວທີ ເປັນເຄື່ອງໝາຍຂອງຄົນດີ, ການອຸປະຖາກບິດາມານດາ ເປັນມຸງຄຸນຢ່າງຍິ່ງ ເພາະບິກາ ມານດາ ເປັນພຣົມຂອງບຸດ.
อรรถกถา ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ มงคลสูตรในขุททกปาฐะ
หน้าต่างที่ ๔ / ๔.
พรรณนาคาถาว่า มาตาปิตุอุปฎฺฐานํ
บัดนี้ จะพรรณนาในคาถานี้ว่า มาตาปิตุอุปฏฺฐานํ.
มารดาและบิดา เหตุนั้น ชื่อว่า มารดาและบิดา. บทว่า อุปฏฺฐานํ แปลว่า การบำรุง.
บุตรทั้งหลายด้วย ภรรยาทั้งหลายด้วย ชื่อว่าบุตรและภรรยา การสงเคราะห์ชื่อว่า สังคหะ.
การงานคือกิจกรรมอากูลหามิได้ ชื่อว่า ไม่อากูล.
คำที่เหลือมีนัยที่กล่าวมาแล้วทั้งนั้นแล. นี่เป็นการพรรณนาบท.
ส่วนการพรรณนาความ พึงทราบดังนี้.
สตรีผู้ยังบุตรให้เกิด เรียกชื่อว่า มารดา บิดาก็เหมือนกัน. การทำอุปการะด้วยการล้างเท้านวดฟั้นขัดสี ให้อาบน้ำ และด้วยการมอบให้ปัจจัย ๔ ชื่อว่า การบำรุง. ในการบำรุงนั้น เพราะเหตุที่มารดาบิดามีอุปการะมาก หวังประโยชน์อนุเคราะห์บุตรทั้งหลาย มารดาบิดาเหล่าใดแลเห็นบุตรทั้งหลายเล่นอยู่ข้างนอก เดินมามีเนื้อตัวเปื้อนฝุ่น ก็เช็ดฝุ่นให้ จูบจอมถนอมเกล้า เกิดความรักเอ็นดู บุตรทั้งหลายใช้ศีรษะทูนมารดาบิดาไว้ถึงร้อยปี ก็ไม่สามารถจะทำปฏิการะสนองคุณของมารดาบิดานั้นได้ และเพราะเหตุที่มารดาบิดานั้นเป็นผู้ดูแลบำรุงเลี้ยง แสดงโลกนี้ สมมตว่าเป็นพรหม สมมตว่าเป็นบุรพาจารย์ ฉะนั้น การบำรุงมารดาบิดานั้น ย่อมนำมาซึ่งการสรรเสริญในโลกนี้และละโลกไปแล้วก็จะนำมาซึ่งสุขในสวรรค์ ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่าเป็นมงคล
สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า๑-
มารดาบิดา ท่านเรียกว่าพรหม ว่าบุรพาจารย์ เป็น
อาหุเนยยบุคคลของบุตร เป็นผู้อนุเคราะห์บุตร เพราะ
ฉะนั้น บัณฑิตพึงนอบน้อม และพึงสักการะมารดาบิดา
นั้น ด้วยข้าว น้ำ ผ้า ที่นอน การขัดสี การให้อาบน้ำและ
ล้างเท้า. เพราะการปรนนิบัติมารดาบิดานั้น บัณฑิต
ทั้งหลายจึงสรรเสริญเขาในโลกนี้ เขาละโลกไปแล้ว
ยังบรรเทิงในสวรรค์.
ลูกเอ๋ย...ยามที่พ่อแม่ของเจ้ามีอายุมากขึ้น ย่อมมีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน ความแข็งแรงของร่างกายที่เคยมีก็ลดลง ใจน้อยง่าย ความจำก็เสื่อม ขี้หลงขี้ลืม จิตใจก็หมดความสุขสดชื่น ถึงแม้พวกเจ้าจะคอยเอาใจใส่ดูแลใกล้ชิดสักเพียงใดก็ตาม ก็ไม่อาจช่วยให้พ่อแม่ของเจ้ามีความสุขได้เต็มที่ เพราะพวกเจ้าทุกคนต่างก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เจ้าช่วยท่านให้ได้รับความสุขเพียงการให้กินอยู่หลับนอน อันเป็นความสุขทางกายเท่านั้น แต่จิตใจของท่าน หาได้ร่าเริงสดชื่นผ่องใสไม่
เจ้าจงจำไว้ว่า การให้ความสุขแก่พ่อแม่อย่างแท้จริงก็คือ การให้ธรรมะ ด้วยการสอนหลักธรรมง่ายๆให้พ่อแม่ของเจ้า พาท่านไปทำบุญทำทาน สอนท่านให้รู้จักการปฏิบัติบูชา สวดมนต์ ภาวนา แผ่เมตตา ธรรมะจะอยู่ในจิตใจของพ่อแม่เจ้าทุกภพทุกชาติ ถือว่าเป็นการทดแทนพระคุณที่สูงสุด
เจ้าจงจำไว้นะลูกเอ๋ย !...
พระพุทธองค์ตรัสสอนพระมหาคุณอันยิ่งใหญ่ของบุพการีผู้ให้กำเนิดอุ้มชูเลี้ยงดูฟูมฟักจนเติบใหญ่ ...
เราผู้เป็นลูกพึงรู้สำนึกในความกตัญญูกตเวทีที่ทดแทนพระคุณในขณะที่ท่านทั้งสองยังมีชีวิตอยู่...
มิใช่ทรัพย์สินเงินทอง..มิใช่ความเก่งกาจทรนง ...
หรือแม้เราจะควานหาทุกสิ่งจนเจนจบใต้หล้าทั่วแผ่นพื้นปฐพีนี้...
พระพุทธองค์ก็ยังตรัสว่า...ไม่อาจที่จะนำมาทดแทนคุณบุพการีได้เลย ...
แล้วมีสิ่งไหนเล่าที่จะทดแทนได้ ?...
ในกาลนั้น พระตถาคตเจ้าได้เปล่งพระสุรเสียงอันไพเราะ ๘ ประการ ของพรหม ตรัสแด่ปวงชนทั้งหลายว่า.... "เธอทั้งหลายพึงสำเหนียก เราจักแสดงแก่เธอ.....
หากมีบุรุษ หาบบิดาด้วยไหล่ซ้าย หาบมารดาด้วยไหล่ขวา ...
แบกหามหาบนั้นจนผิวหนังแตกทะลุถึงกระดูก ...
จากกระดูกถึงไขกระดูก ...
หาบวนรอบเขาพระสุเมรุเป็นเวลาผ่านไปนับ แสนกัป ...
โลหิตไหลท่วม ข้อเท้า ...
ก็มิอาจตอบแทนพระคุณอันล้ำลึกยิ่งใหญ่ของบิดามารดาได้ ...
หากบุรุษ ปรารถนาให้บิดามารดาพ้นจากทุพภิกขภัย ...
แล่เนื้อตนเอง และบดให้ละเอียด ให้บิดามารดาเป็นอาหาร ...
แม้จักกระทำถึง แสนกัป ...
ก็มิอาจตอบแทนพระคุณอันล้ำลึกยิ่งใหญ่ของบิดามารดาได้ ..
หากมีบุรุษ เพื่อตอบแทนพระคุณบิดามารดา ...
ใช้มีดคว้านควักดวงตาของตน ออกมาถวายบูชาแด่พระตถาคต ...
แม้จะกระทำนับ แสนกัป ...
ก็มิอาจตอบแทนพระคุณอันล้ำลึกยิ่งใหญ่ของบิดามารดาได้...
หากมีบุรุษ เพื่อตอบแทนพระคุณบิดามารดา ...
ใช้มีดอันคมควักหัวใจของตน โลหิตไหลทั่วพื้นปฐพี ...
มิหวั่นต่อความเจ็บปวด ...
แม้จักกระทำนับ แสนกัป ...
ก็มิอาจตอบแทนพระคุณอันล้ำลึกยิ่งใหญ่ของบิดามารดาได้...
หากมีบุรุษ เพื่อตอบแทนพระคุณบิดามารดา ...
ใช้มีดง้าวศาตราวุธนับแสน เสียบทิ่มแทงจนทะลุปรุพรุนไปทั่วร่าง ...
แม้จักกระทำนับ แสนกัป
ก็มิ อาจตอบแทนพระคุณอันล้ำลึกยิ่งใหญ่ของบิดามารดาได้....
หากบุรุษ. เพื่อตอบแทนพระคุณบิดามารดา ...
ทุบกระดูกตน รีดไขกระดูกเ็ป็นเชื้อไฟจุดประทีปถวายเบื้องหน้าพระตถาคต...
แม้จักกระทำนับ แสนกัป ...
ก็มิอาจตอบแทนพระคุณอันล้ำลึกยิ่ง ใหญ่ของบิดามารดาได้ ...
หากบุรุษ เพื่อตอบแทนพระคุณบิดามารดา ...
กลืนกินลูกเหล็กที่ร้อนระอุ ...
แม้จักกระทำนับ แสนกัป จนทั่วร่างกายลุกเป็นไฟ ...
ก็มิอาจตอบแทนพระคุณอันล้ำลึกยิ่งใหญ่ของบิดามารดาได้...
หากบุรุษ เพื่อตอบแทนพระคุณบิดามารดา ...
เอาร่างฝ่ากระโจนเข้าไปในกองไฟ จนไหม้เกรียมเป็นผุยผง ...
แม้จักกระทำนับ แสนกัป ....
ก็มิอาจตอบแทนพระคุณอันล้ำลึกยิ่งใหญ่ของบิดามารดาได้..."
ปวงชนทั้งหลาย เมื่อได้สดับรับฟังพระพุทธดำรัสถึงความยิ่งใหญ่ ของพระคุณบิดามารดาเช่นนั้น ...ต่างหลั่งน้ำตาด้วยความปวดร้าวใจ ดุจดังมีดกรีด ด้วยมิอาจคิดหาวิธีได้ ...
ต่างพร้อมเพรียงกันกราบทูล พระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยความละอายและเกรงกลัวต่อบาปในสังสารวัฎ ว่า....
" ข้าแต่พระโลกนาถเจ้า พวกข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นผู้บาปยิ่งนัก จักกระทำเยี่ยงไรจึงจะสามารถตอบแทนพระคุณอันยิ่งใหญ่ลึกซึ้งของ บิดามารดาได้ ? "
พึงเขียนแสดงพระสูตรนี้ ... (บอกกล่าวและเผยแผ่)
สวดท่องพระสูตรนี้ขอขมากรรมเพื่อบิดามารดา ...
ถวายสักการะแด่พระรัตนตรัยเพื่อบิดามารดา ...
พึงรักษาศีลอุโบสถเพื่อบิดามารดา ...
พึงบำเพ็ญทานเพื่อบิดามารดา ...
พึงชี้แนะธรรมะแด่บิดามารดา ...
หากประพฤติปฏิบัติได้เยี่ยงนี้ ย่อมได้ชื่อว่าเป็นบุตรกตัญญู...
หากไม่ประพฤติเยี่ยงนี้ ย่อมไม่อาจพ้นนรกโลกันต์ " ...
คุณของบิดา-มารดา คือ พระอรหันต์ของ บุตร
มารดา บิดา เป็นบุคคลที่รู้จักกันทั่วโลก
คนเราเกิดมาเห็นโลกอันกว้างใหญ่นี้ได้
เพราะมารดาบิดาเป็นผู้ให้กำเนิด
เป็นผู้ให้อวัยวะทุกส่วนของร่างกายแก่ลูก
ซ้ำมารดาบิดายังบำเพ็ญตนเป็นยอดนักบุญ
สำหรับชีวิตของลูกอีกด้วย
เป็นผู้เสียสละความสุขของตนเองทุกๆ อย่าง
เฝ้าทะนุถนอมเอาใจใส่ลูกทุกเวลา
ทำทุกอย่าง เพื่อความผาสุขของลูก
ลูกต้องการปรารถนาสิ่งใด อันเป็นสิ่งที่ไม่เหลือวิสัย
ก็พยายามจัดหาให้ทุกอย่าง เป็นผู้ใกล้ชิดลูกยิ่งกว่าใครๆ
ทุกคนจึงรู้จักมารดาบิดาดี
ส่วนลูกส่วนมาก หารู้จักและซึ้งถึงพระคุณของผู้เป็นมารดาบิดาไม่
คงรู้จักแต่เพียงว่าชายผู้ให้กำเนิดแก่คนเรียกว่า บิดา
หญิงผู้ให้กำเนิดแก่ตนเรียกว่า มารดา เท่านั้น
แท้จริงแล้ว ท่านผู้ให้กำเนิดทั้งสองนั้น เป็นผู้มีพระคุณมากมาย
สุดที่ลูกผู้กตัญญูรู้คุณ จะทดแทนพระคุณให้สิ้นสุดได้
เพราะเหตุนี้เอง พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นนาถของโลก
ทรงซึ้งถึงพระคุณของผู้เป็นมารดาบิดาผู้อนุเคราะห์บุตร
ว่าเป็นพระพรหม เป็นบุรพเทวดา
เป็นบุรพาจารย์ เป็นอาหุเนยยบุคคล ของบุตรดังนี้
มารดา บิดา เป็นผู้ที่มั่นคงในพรหมวิหารธรรม
โดยไม่ยอมทิ้ง เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ในลูกของตน
ย่อมมีเมตตารักใคร่ในลูก
ปรารถนาจะเห็นลูกของตนปราศจากโรคภัยเบียดเบียน
มีความสุข ร่าเริง แจ่มใส
มีกรุณา สงสาร เมื่อลูกของตนต้องประสบความทุกข์
คิดแต่จะช่วยให้พ้นจากความทุกข์ความเดือดร้อน
มีความสุขความเจริญ เมื่อเห็นว่าลูกของตนมีความสุข
สามารถเลี้ยงและปกครองตนเองและครอบครัวให้มีความสุขได้
ก็พลอยมีมุทิตายินดีด้วย ไม่อิจฉาริษยาในความสุขของลูก
เมื่อเห็นลูกต้องประสบทุกข์เดือดร้อน ก็ไม่ซ้ำเติม
วางจิตมัธยัสถ์เป็นกลางเสมอ
มารดาบิดา จึงเป็นดุจท้าวมหาพรหมที่ไม่เคยละภาวนา ๔ ในหมู่สัตว์
จึงได้รับนามบัญญัติว่าเป็น “พระพรหมของลูก”
มารดา บิดา เป็นผู้พิทักษ์รักษาลูกก่อนเทวดาทั้งปวง
นับตั้งแต่ลูกในครรภ์ เมื่อลูกเกิดมาแล้ว ก็เอาใจใส่ดูแล
แม้บางคราวลูกทุบตีตน เพราะไม่รู้เดียงสา
แทนที่มารดาบิดาจะเกลียดและโกรธ
กลับยกโทษให้และยังเพิ่มความรักใคร่ในลูกของตนเสียอีก
ไม่คำนึงถึงความผิดใดๆ ของลูกทั้งสิ้น
บางครั้งลูกทำผิด มารดาบิดาก็ดุว่ากล่าวหรือลงโทษ
แต่ด้วยใจริงแล้ว ไม่ปรารถนาจะให้ลูกของตนเดือดร้อน
ทำไปด้วยความรักความหวังดี
ปรารถนาให้ลูกของตนมีความสุขความเจริญ
มารดาบิดาจึงชื่อว่าเป็นเทวดา คือ ผู้ประเสริฐสุดสำหรับลูก
ท่านไม่พยายามที่จะทำความชั่วให้ปรากฏแก่ลูก
เกรงลูกจะถือเอาแนวปฏิบัติสร้างตนในทางที่ผิด
เมื่อลูกรู้จักคุณแล้ว ทำปฏิการะตอบแทน
จึงเป็นบุญเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่
เพราะเหตุที่ท่านทั้งสองบำเพ็ญตน เป็นเหมือนพระวิสุทธิเทพผู้ประเสริฐ
ซึ่งท่านไม่ปรารภถึงความผิดใดๆ ที่พวกคนพาลก่อขึ้น
มุ่งแต่ให้พวกเขามีความสุขความเจริญฝ่ายเดียว
คุณความดีของมารดาบิดาข้อนี้เอง
ท่านจึงได้นามว่า “บุรพเทวดาของลูก”
มารดา บิดา เป็นทั้งครูอาจารย์ก่อนกว่าครูอาจารย์อื่นๆ
เป็นผู้แนะนำอบรมสั่งสอนให้ลูกรู้จักกิน นอน พูด ทำ
รู้จักดีชั่ว ควรไม่ควร เป็นทั้งผู้สอนและผู้ฝึกหัดให้ทุกอย่าง
ท่านจึงสงเคราะห์มารดาบิดาว่าเป็นบุรพทิศในทิศ ๖
คุณความดีข้อนี้เอง ท่านจึงได้นามว่า “บุรพาจารย์ของลูก”
มารดา บิดา เป็นผู้มีพระคุณหลายประการดังกล่าวมาแล้ว
เป็นทั้งผู้ให้กำเนิด เป็นทั้งผู้เลี้ยงดูให้อุปการะและสั่งสอน
จนเป็นผู้สมควรอย่างยิ่งที่ลูกผู้กตัญญูรู้คุณ จะพึงนำสักการะ
มีอาหารและผ้าผ่อนท่อนสไบ เป็นต้น
มาบูชาเป็นการตอบแทนพระคุณท่าน
เพราะเมื่อสักการะบูชาท่านแล้ว ย่อมได้ผลานิสงส์มาก
เหมือนได้สักการะบูชาแด่พระอรหันต์ขีณาสพ
ท่านจึงได้นามว่าเป็น “อาหุเนยยบุคคลของลูก"
มารดา บิดา เป็นทั้งผู้สร้าง และผู้อุปถัมภ์ เป็นผู้ให้กำเนิดแก่ลูกแล้ว
ก็ต้องรับภาระเป็นผู้อนุเคราะห์เลี้ยงดูอีก ไม่ทอดทิ้ง
พยายามที่จะเสกสรรปั้นแต่งลูกของตนให้เป็นคนดี
เพราะเหตุนี้เอง พระมหามุนีศาสดาจารย์
จึงตรัสแก่คฤหบดีบุตรชื่อ สิคาลกะว่า ดูกร คฤหบดีบุตร
มารดาบิดาพึงอนุเคราะห์บุตรของตนโดยสถาน ๕ คือ
๑. ป้องกันบุตรธิดามิให้ทำความชั่ว
๒. ส่งเสริมให้ตั้งอยู่ในความดี
๓. ให้ศึกษาศิลปวิทยา
๔. หาคู่ครองที่สมควรให้
๕. มอบทรัพย์ให้ในสมัย
เพราะมารดาบิดา มีพระคุณอันใหญ่หลวงดังกล่าวมานี้
ผู้เป็นลูกจึงต้องคำนึงระลึกถึงเสมอ และหาทางตอบแทนพระคุณ
แม้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงสนองพระคุณของพระชนนี
เพื่อชดใช้ค่าข้าวป้อนและค่าน้ำนม
โดยเสด็จไปจำพรรษา ณ ดาวดึงส์พิภพ
แล้วทรงแสดงพระอภิธรรมโปรด จึงเป็นเนตติแบบอย่างอันดี
สำหรับพุทธบริษัทผู้เคารพนับถือในพระองค์ จึงพึงปฏิบัติตาม
ถ้าหวังจะบำเพ็ญตนเป็นลูกที่ดี
จึงเป็นการสมควรแล้ว ที่จะหาทางสนองพระคุณท่าน
ตามฐานะและโอกาส ด้วยการเลี้ยงดูท่านให้ได้รับความสุข
เป็นการแสดงกตัญญูกตเวทิตาธรรมต่อท่านผู้ดำรงอยู่ในฐานะบุพการี
ผู้ทำอุปการให้แก่ตนก่อน
ข้อนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสแก่คฤหบดีบุตร ชื่อ สิคาลกะ ว่า
ดูกร คฤหบดีบุตร เมื่อมารดาบิดา
ได้อนุเคราะห์บุตรธิดาโดยสถาน ๕ แล้ว
บุตรธิดาพึงปฏิการะตอบแทนโดยสถาน ๕ เช่นเดียวกัน คือ
๑. ท่านเลี้ยงมาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ
๒. ช่วยทำกิจของท่าน ไม่ดูดาย
๓. ดำรงวงศ์สกุล ไม่ให้เสื่อม
๔. ประพฤติตนให้เป็นคนควรได้รับมรดก
๕. เมื่อท่านล่วงลับไป ทำบุญอุทิศให้แก่ท่าน
ทั้ง ๕ สถานนี้ สถานต้นเป็นข้อที่ผู้เป็นลูกควรทำ
เพราะเราเจริญเติบโตได้ก็อาศัยที่ท่านมีเมตตาจิตให้การเลี้ยงดู
เมื่อท่านแก่เฒ่าลงจึงเป็นหน้าที่ที่ลูกจะพึงเลี้ยงดูท่าน
เป็นการตอบแทน เป็นการชดใช้หรือทดแทนพระคุณท่านที่ทำไว้ก่อน
มีภาษิตบทหนึ่งสำหรับเตือนใจผู้เป็นลูก
ให้ทดแทนพระคุณท่านด้วยการเลี้ยงดูว่า
อันทิศเบื้องหน้า บิดามารดาพึ่งอาศัย
อย่าได้ดูถูก หมั่นปลูกอาลัย หมั่นเลี้ยงท่านไป ตราบม้วยชีวา
การเลี้ยงท่านนั้น ท่านแสดงไว้ ๒ ประการ คือ
๑. การเลี้ยงภายนอก ได้แก่ การอุปฐากอย่างต่ำ
๒. การเลี้ยงภายใน ได้แก่ การอุปฐากอย่างสูง
การเลี้ยงภายนอกนั้น ได้แก่ การจัดหาข้าวปลาอาหาร
และผ้าผ่อนท่อนสไบให้แก่ท่าน
เป็นการเลี้ยงและให้ความสุขทางกายแก่ท่าน
อันนับว่า เป็นอามิสบูชา เป็นส่วนการอุปฐากอย่างต่ำ
ส่วนการเลี้ยงดูภายในนั้น ได้แก่ การเลี้ยงดูน้ำใจท่าน
โดยเป็นผู้เชื่อฟังตั้งอยู่ในคำสั่งสอนไม่ขัดข้อง
ทั้งเป็นผู้หาโอกาส ทำให้ท่านเป็นผู้มีจิตใจ เป็นผู้เจริญด้วยคุณธรรม
หาทางนำท่านผู้ไม่มีศรัทธาให้มีศรัทธา
ผู้ไม่มีศีลให้มีศีล ผู้ไม่มีจาคะการบริจาค ให้มีจาคะการบริจาค
ผู้ไม่มีปัญญาให้มีปัญญา
ดังพระสารีบุตรเถระเจ้าแนะนำมารดาผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิ ให้เป็นสัมมาทิฏฐิ
นับว่าเป็นปฏิบัติบูชา เป็นส่วนแห่งการอุปฐากอย่างสูง
ลูกบางคนเลี้ยงมารดาบิดา เพราะเห็นแก่ทรัพย์สมบัติ
ไม่คำนึงถึงพระคุณเป็นส่วนใหญ่
การทำเช่นนั้นไม่ชื่อว่าเป็นการสนองพระคุณท่าน
อันเป็นส่วนกตัญญูกตเวทีเลย
หากมารดาบิดาไม่มีทรัพย์สมบัติแล้ว
ลูกก็ไม่เลี้ยงดูนำพาปล่อยให้เป็นอยู่ตามยถากรรม
ลูกเช่นว่านี้เป็นลูกอกตัญญู ไม่รู้จักคุณ
เพราะเหตุนั้นการเลี้ยงดูท่าน
จึงเป็นหลักอันสำคัญที่ลูกผู้กตัญญูกตเวทีจะพึงทำ
เพราะเป็นเหตุนำมงคลคือความเจริญมาให้
ดังพระศาสดาตรัสไว้ในมงคลสูตรว่า
มาตาปิตุอุปฏฐานํ เอตมฺมํคลมุตฺตมํ
การเลี้ยงดูมารดาบิดา เป็นมงคลอย่างสูงสุด
พระพุทธเจ้าทรงยกย่องและสรรเสริญผู้เลี้ยงมารดาบิดาไว้มาก
แม้ภิกษุผู้บวชในพระธรรมวินัย ก็ยังทรงอนุญาตให้เลี้ยงมารดาบิดาได้
เที่ยวบิณฑบาตได้อาหารมา แม้ตนเองมิยังไม่ได้ฉันก็ให้แก่มารดาบิดาได้
ไม่ชื่อว่าทำศรัทธาไทยของทายกให้เสียไป ทั้งไม่มีโทษทางพระวินัยด้วย
การช่วยเหลือทำกิจการงานของท่านนั้น เป็นหน้าที่ที่ลูกจะพึงกระทำ
เพราะเป็นการผ่อนแรงท่าน ที่ตรากตรำหาเลี้ยงเรามา
ไม่ทำตนเป็นคนดูดาย เอาแต่เที่ยวเตร่หาความสนุกสนาน
ปล่อยให้ท่านทั้งสองทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำไปตามลำพัง
อย่างน้อยผู้เป็นลูกต้องนึกบ้างว่า มารดาบิดาของลูกทุกคน
เมื่อมีลูกก็ย่อมปรารถนาหวังพึ่งพาอาศัยบ้าง
โบราณภาษิตบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า
“มีลูกเหมือนปลูกต้นโพธิ์ เมื่อใหญ่เมื่อโตจะได้อาศัย
ยามเจ็บไข้จะได้ฝากไข้ ยามตายจะได้ฝากผี เวลาดีๆ เอาไว้ใช้สอย”
ฉะนั้น จึงเป็นหน้าที่ที่ลูกไม่พึงละเลย
ในการช่วยเหลือทำกิจการงานของท่าน
ส่วนการประพฤติตนเป็นคนดี
เมื่อรักษาวงศ์สกุลของตนไม่ให้เสียหาย
และการประพฤติตนให้เป็นคนสมควรรับ
และปกครองทรัพย์มรดกของท่านนั้น ก็ล้วนเป็นหลักสำคัญทั้งนั้น
นอกจากจะเป็นการทำตนให้เจริญแล้ว
ยังเป็นการทำให้ท่านพอใจและเกิดความสุข
อันเป็นการเลี้ยงน้ำใจท่านด้วย
ส่วนประการหลังนั้น เป็นการสนองพระคุณครั้งสุดท้าย
แม้จะเป็นการทำลับหลังก็ตาม ก็เป็นการแสดงออกให้เห็นว่า
ตนเป็นลูกกตัญญูกตเวที ไปลืมความดีที่ท่านทำไว้แก่ตน
ขวนขวายที่จะทำตอบแทนในเมื่อมีโอกาส
เป็นการประกาศให้ทราบว่าเป็นคนหน้าคบหาสมาคม
แม้ฝ่ายหนึ่งล่วงลับไปแล้ว ก็ยังระลึกถึงและหาทางสนองคุณ
ฉะนั้นเมื่อมารดาบิดาล่วงลับไปจึงเป็นหน้าที่
ที่ลูกต้องทำบุญอุทิศให้โดยแท้
ถ้าอยากเป็นลูกดี ก็ควรนึกถึงภาษิตเตือนใจบทหนึ่งที่ว่า
ลูกไม่ดี มีเท่าไร ไม่คุ้ม
ดุจลูกตุ้ม แกว่งไกว ไพร่สถุล
แต่ลูกดี มีหลัก รู้จักคุณ
หมั่นทำบุญ อุทิศให้ เมื่อวายปราณ.
การทดแทนพระคุณมารดาบิดานั้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้
ในมาตาปิตุคุณสูตรทุตนิบาต อังคุตตรนิกาย ความว่า
ภิกษุทั้งหลาย เราไม่กล่าว การทำตอบแทนได้ง่ายแก่ท่านทั้งสอง
ท่านทั้งสองนั้นคือใคร? คือมารดาบิดา
บุตรพึงประคับประคองมารดาบิดาด้วยบ่าขวาบิดาด้วยบ่าซ้าย
เขามีชีวิตอยู่ถึง ๑๐๐ ปี และเขาพึงบำรุงมารดาบิดานั้น
ด้วยการอบกลิ่น การนวด การให้อาบน้ำ และการดัด
และท่านทั้งสองนั้นพึงถ่ายอุจจาระปัสสาวะรดบนบ่าทั้งสอง
นั่นแหละภิกษุทั้งหลาย อนึ่งบุตรพึงสถาปนามารดาบิดาไว้
ในราชสมบัติอันเป็นอิสราธิปัตย์แห่งแผ่นดินใหญ่นี้
อันมีรัตนะ ๗ ประการมากมาย
กิจอย่างนั้นยังไม่เป็นอันบุตรทำแล้วหรือทำตอบแล้วแก่มารดาบิดานั้นเลย
ข้อนั้นเป็นเพราะเหตุไร? ภิกษุทั้งหลาย เพราะมารดาบิดา
เป็นผู้มีอุปการะมาก เป็นผู้บำรุงเลี้ยง
แสดงโลกนี้แก่บุตรทั้งหลาย
ภิกษุทั้งหลาย
ก็บุตรใดและยังมารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธาให้ดำรงมั่นอยู่ในศรัทธา
ยังมารดาบิดาที่ทุศีลให้สมาทานดำรงมั่นอยู่ในศีล
ยังมารดาบิดาตระหนี่เหนียวแน่น ให้ดำรงมั่นอยู่ในจาคะ
ยังมารดาบิดาผู้ไร้ปัญญา ให้สมาทานดำรงมั่นอยู่ในปัญญา
ภิกษุทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้มีประมาณเท่านี้แหละ
กิจนั้นจึงชื่อว่า เป็นอันบุตรทำแล้ว ทำตอบแทนแล้ว
ทำยิ่งแล้วแก่มารดาบิดา ดังนี้
เมื่อลูกทำได้ดังแสดงมานี้ จึงชื่อว่าเป็นการทดแทนพระคุณท่าน
เป็นเหตุให้บุตรได้รับผลานิสงส์หลายประการคือ
๑. เป็นมงคล คือมีความสุขความเจริญแก่ชีวิต
๒. เป็นที่สรรเสริญของนักปราชญ์
๓. เป็นเหตุให้ปฏิบัตินั้นพ้นจากทุกข์ทั้งปวง
เพื่อจะแสดงอานิสงส์ของบุตรเพื่อเลี้ยงมารดาบิดานั้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเรื่องพญานกแขกเต้า
บรมโพธิสัตว์ เป็นอุทาหรณ์ ความว่า
ดังได้ยินมาแต่กาลก่อน พระบรมโพธิสัตว์ เสวยพระชาติเป็นพญานกแขกเต้า
อาศัยอยู่ป่าไม้งิ้ว แถบไหล่เขา
วันหนึ่งพาบริวารไปหาอาหารยังป่าหิมพานต์
เพื่อเลี้ยงมารดาบิดาของตน
ครั้งนั้นมีพราหมณ์ผู้หนึ่งชื่อว่าโกสิยะพราหมณ์ อาศัยอยู่ในสาลิยะคาม
พราหมณ์ได้ใช้บริวารไปหว่านข้าวสาลี
ในเนื้อที่ประมาณ ๗๐๐๐ ไร่ แล้วให้บริวารอยู่รักษา
พระโพธิสัตว์ก็พาบริวารไปลงในนาของโกสิยะพราหมณ์
ฝูงนกแขกเต้าทั้งหลาย กินอิ่มแล้วบินมาแต่ปากเปล่า
ส่วนพระโพธิสัตว์เจ้ากินแล้วก็คาบรวงข้าวมาเลี้ยงมารดาบิดาทุกๆ วัน
บุรุษที่รักษานาข้าวสาลี จึงไปบอกแก่โกสิยะพราหมณ์ พ
ราหมณ์ก็สั่งให้จับพญานกแขกเต้าทั้งเป็น อย่าฆ่าให้ตาย
บุรุษผู้รักษานาก็ทำบ่วงแล้วดักพระโพธิสัตว์ จับพระโพธิสัตว์ได้
มัดมาให้แก่พราหมณ์ พราหมณ์จึงไต่ถามว่า ดูกรท่านผู้เป็นปักษี
ท่านมาคาบรวงข้าวสาลีของเราไปทุกๆ วัน
ท่านมีความโกรธเคืองเราหรือๆ
ท่านนำไปใส่ยุ้งใส่ฉางไว้เป็นประการใด
พระโพธิสัตว์จึงแจ้งว่า เรามิได้โกรธเคืองท่าน ยุ้งฉางสำหรับใส่ก็ไม่มี
เรานำข้าวสาลีของท่านไปเพราะเหตุ ๓ ประการ คือ
๑. เอาไปใช้หนี้เก่า
๒. เอาไปฝังไว้
๓. เอาไปให้เขายืม
พราหมณ์จึงถามว่า เอาไปใช้หนี้เก่าก็ดี เอาไปฝังไว้ก็ดี
เอาไปให้เขายืมก็ดี ท่านทำอย่างไร? พระโพธิสัตว์บอกว่า
เอาไปใช้หนี้เก่า นั้นคือเอาไปเลี้ยงมารดาบิดาที่ชราหากินไม่ได้
ท่านเลี้ยงเรามาไว้เติบใหญ่
เหมือนหนึ่งเป็นเจ้าหนี้เราควรเลี้ยงดูท่านเหมือนเป็นลูกหนี้
เพราะฉะนั้น เราจึงคาบรวมข้าวสาลีไปให้แก่มารดาบิดาทุกวัน
เอาไปฝังไว้ นั้นคือไปให้นกทั้งหลายที่เจ็บไข้
และมีขนปีกยังอ่อนหากินไม่ได้ ให้เป็นทานการกุศล
เอาไปให้เขายืม นั้นคือเอาไปให้ลูกยังอยู่ในรังยังหากินไม่ได้
นานไปเขาโตใหญ่ เขาจะเลี้ยงเราเมื่อแก่ชรา
พราหมณ์ทราบดังนั้น มีความโสมนัสยินดี
บอกแก่พระโพธิสัตว์ว่า นับแต่นี้ไป
เราจะมอบนาข้าวสาลีให้ท่าน จงพาบริวารมากินเถิด
แล้วแก้เชือกที่มัดเท้าออกให้
ฝ่ายพระโพธิสัตว์ก็รู้จักประมาณ รับเอาเพียงเนื้อที่ ๘ ไร่เท่านั้น
แล้วให้โอวาทแก่พราหมณ์ ให้ตั้งอยู่ในธรรมสุจริต
ลงพราหมณ์ไปสู่ป่าไม้งิ้วอันเป็นที่อยู่แห่งตน
เรื่องนี้ชี้ให้เห็นว่า การเลี้ยงมารดาบิดานั้น เป็นมงคล
คือ เป็นความดีสำหรับผู้ปฏิบัติ ดังเช่นพระยานกแขกเต้า
ได้รับนาข้าวสาลีจากพราหมณ์ ไม่ต้องเดือดร้อนอีกต่อไป
เป็นที่สรรเสริญของนักปราชญ์ คือ ผู้รู้
ดังเช่นพญานกแขกเต้าได้รับการสรรเสริญจากโกสิยะพราหมณ์
เป็นเหตุทำตนให้พ้นจากความทุกข์ทั้งปวง
เหมือนพญานกแขกเต้าได้รับอิสระ
พ้นจากเครื่องพันธนาการของพราหมณ์
เพราะฉะนั้น เราทั้งหลายหญิงชายที่เกิดมาจงอย่าได้ประมาท
จงปฏิบัติมารดาบิดาให้มีความสุข ทั้งส่วนที่เป็นอามิสบูชา และปฏิบัติบูชา
เพราะเหตุว่ามารดาบิดา เป็นผู้มีคุณมาก
จะเอาแผ่นดินและน้ำ ท้องฟ้าอากาศและเขาสุเมรุราช
มาชั่งด้วยคุณมารดาบิดาเบากว่า
และยังชื่อว่าผู้ปฏิบัติย่อมได้รับประโยชน์ทั้งชาตินี้และชาติหน้าด้วย
แข่งบุญวาสนาเราแข่งกันไม่ได้
ภาษิตท่านกล่าวไว้ว่า ยามบุญมากาไก่กลายเป็นหงษ์
ยามบุญลงหงษ์เป็นกาหน้าฉงน
น้ำไม่เซาะเกาะไม่พังพึงวังวน
วิสัยผลที่จะผลิตเพราะเหตุมี
หรือดังคำพังเพยที่กล่าวว่า
เวลาบุญมา ปัญญาก็ช่วย ที่ป่วยก็หาย ที่หน่ายก็รัก
เวลาบุญไม่มา ปัญญาก็ไม่ช่วย ที่ป่วยก็หนัก ที่รักก็หน่าย
สิ่งทั้งหมดที่มันปรากฏการณ์อยู่แก่ตัวเราในปัจจุบัน
มันเป็นผลที่ไหลมาจาเหตุจากภพก่อนทั้งนั้น
สมดังคำพระอัสสชิเถระกล่าวแก่อุปติสสะมาณพว่า
เยธมฺมาเหตุปพฺพวา เตสํเหตุ ํ ตถาคตโต
ธรรมทั้งหลายย่อมไหลมาจากเหตุ
คือ มีเหตุเป็นแดนเกิด
"ต้นไม้ที่ได้รับการดูแลให้น้ำให้ปุ๋ย ไปบำรุงลำต้นจนสมบูรณ์ เมื่อถึงเวลา ไม่ยอมออกดอกออกผล ก็ต้องโค่นทิ้ง
คนที่ได้รับการเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ แต่ไม่ยอมตอบแทนคุณพ่อแม่ก็เป็นคนหนักแผ่นดิน
ทองคำแท้หรือไม่โดนไฟก็รู้ คนดีแแท้หรือไม่ ให้ดูตรงที่เลี้ยงพ่อแม่ ถ้าดีจริง ต้องเลี้ยงพ่อแม่ ถ้าไม่เลี้ยง แสดงว่าดีไม่จริง เป็นพวกทองชุบ ทองเก๊"
พระคุณของพ่อแม่
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสอุปมาว่า ถ้าบุตรจะพึงวางบิดามารดาไว้บนบ่าทั้งสองของตน ประคับประคองท่านอยู่บนบ่านนั้น ป้อนข้าวป้อนน้ำและให้ท่านถ่ายอุจจาระปัสสาวะบนบ่านั้นเสร็จ แม้บุตรจะมีอายุถึง ๑๐๐ ปี และปรนนิบัติท่านไปจนตลอดชีวิต ก็ยังนับว่าตอบแทนพระคุณท่านไม่หมด
ยังมีผู้อุปมาไว้ว่า หากเราใช้ท้องฟ้าแทนกระดาษ ยอดเขาพระสุเมรุแแทนปากกาน้ำในมหาสมุทรแทนหมึก เขียนบรรยายคุณของพ่อแม่ จนท้องฟ้าเต็มไปด้วยอักษร ภูเขาสึกกร่อนจนหมด น้ำในมหาสมุทรเหือดแห้งก็ยังบรรยายคุณของพ่อแม่ไม่หมด
บิดามารดาเป็นผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ของบุตร สรุปโดยย่อคือ
๑.เป็นต้นฉบับทางกาย แบบเป็นสิ่งที่จำเป็นในการทำให้ของทั้งหลายในโลกมีค่าสูงขึ้น ตัวอย่างเช่นก้อนดินเหนียวธรรมดา ถ้าหากนำมาใส่แบบพิมพ์แล้วพิมพ์เป็นตุ๊กตา ก็ทำให้ดินก้อนนั้นมีค่าขึ้นมาเป็นเครื่องประดับบ้านเรือนได้ดินเหนียวก้อนเดียวกันนี้ หากได้แบบที่ดีกว่าขึ้นมาอีกเช่นแบบเป็นพระพุทธรูปก็จะเห็นได้ว่าคุณค่าของดินเหนียวก้อนนี้ทรงคุณค่ามากยิ่งขึ้น ผู้คนได้กราบไหว้บูชา จะเห็นได้ว่าคุณค่าของดินเหนียว ก้อนนี้ขึ้นอยู่กับแแบบที่พิมพ์นั่นเอง ในทำนองเดียวกัน การเกิดของสัตว์ เช่นเป็น ช้าง มัา วัว ควาย ฯลฯ แม้จะมีปัญญาติดตัวมามากสักปานใดก็ไม่สามารถทำความดีได้เต็มที่ โชคดีที่เราได้แบบเป็นคน ซึ่งเป็นโครงร่างที่ประเสริฐกว่าสัตว์ทั้งหลาย เหมาะในการทำความดีทุกประการ พระคุณขงอพ่อแม่ในการเป็นต้นแบบทางกายให้เรา ก็นับว่ามีมากเหลือหลายแล้วยิ่งท่านอบรม เลี้ยงดูเรามาเป็นต้นแบบทางใจให้ด้วย ก็ยิ่งมีพระคุณมากเป็นอเนกนันต์
๒.เป็นต้นแบบทางใจ ให้ความอุปการะเลี้ยงดู ฟูมฟัก ทะนุถนอมอบรมสั่งสอน ปลูกฝังกิริยามารยาท ให้ความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมแก่ลูก
สมญานามของพ่อแม่
สมญานามของพ่อแม่นั้น กล่าวกันว่าท่านเป็นทั้งพรหมของลูก เทวดาคนแรกของลูก ครูคนแรกของลูก และเป็นพระอรหันต์ของลูก ซึ่งอธิบายได้ดังนี้
-พ่อแม่เป็นพรหมของลูก เพราะเหตุที่มีพรหมธรรม ๙ ประการได้แก่
๑.มีเมตตา คือ มีความปรารถนาดีต่อลูกไม่มีที่สิ้นสุด
๒.มีความกรุณา คือ หวั่นใจในความทุกข์ของลูกและคอยช่วยเหลือเสมอไม่ทอดทิ้ง
๓.มีมุทิตา คือ เมื่อลูกมีความสุขสบาย ก็มีความปลาบปลื้มยินดีด้วยความจริงใจ
๔.มีอุเบกขา คือ เมื่อลูกมีครอบครัวสามารถเลี้ยงตนเองได้แล้ว ก็ไม่วุ่นวายกับชีวิตครอบครัวลูกจนเกินงาม และหากลูกผิดพลาดก็ไม่ซ้ำเติม แต่กลับคอยเป็นที่ปรึกษา ให้เมื่อลูกต้องการ
-พ่อแม่เป็นเทวดาคนแรกของลูก เพราะคอยปกป้องคุ้มกันภัยเลี้ยงดูลูกมาก่อนผู้มีความปรารถนาดีคนอื่น ๆ
-พ่อแม่เป็นครูคนแรกของลูก เพราะสั่งสอนอบรม คำพูดและกิริยามารยาทให้ลูกก่อนคนอื่น ๆ
-พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก เพราะมีคุณธรรม ๔ ประการ ได้แก่
๑.เป็นผู้มีอุปการะมากแก่ลูก ท่านได้ทำภารกิจอันทำได้แสนยาก ได้แก่การอุปการะเลี้ยงดูลูก ซึ่งยากที่จะหาคนอื่นทำแก่เราได้อย่างท่าน
๒.เป็นพระเดชพระคุณมาก ปกป้องอันตราย ให้ความอบอุ่นแก่ลูกมาก่อน
๓.เป็นเนื้อนาบุญของลูก มีความบริสุทธิ์ใจต่อลูกอย่างแท้จริงเป็นผู้ที่ลูกควรทำบุญต่อตัวท่าน
๔.เป็นอาหุไนยบุคคล เป็นผู้ควรแก่การรับของคำนับ และการนมัสการของลูก
คุณธรรมของลูก
เมื่อพ่อแม่มีพระคุณมากมายปานนี้ ลูกจึงควรมีคุณธรรมต่อท่านคุณธรรมของลูกเริ่มที่รู้จักคุณพ่อแม่ คือรู้ว่าท่านดีต่อเราอย่างไร สูงขึ้นไปอีกคือตอบแทนคุณท่าน ในทางศาสนาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสบรรยายคุณธรรมของลูกไว้อย่างสั้น ๆ แต่จับความไว้ได้อย่างครบถ้วน คือคำว่า "กตัญญู กตเวที"คุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นลูกรวมอยู่ใน ๒ คำนี้
กตัญญู หมายถึงเห็นคุณท่าน คือเห็นด้วยใจ ด้วยปัญญา ว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณต่อเราอย่างแท้จริง ไม่ใช่สักแต่ว่าปากท่องพระคุณพ่อแม่ปาว ๆไปเท่านั้น
คุณของงพ่อแม่ดูได้จากอุปการะ คือประโยชน์ที่ท่านทำแก่เรามีอะไรบ้างที่แตกต่างจากคนอื่น ตามธรรมดาของคนทั่ว ๆ ไป เมื่อจะอุปกาะใครเขาต้องเห็นทางได้ เช่น เห็นหลักทรัพย์ หรือดูนิสัยใจคอ ต่อเมื่อแน่ใจแล้วว่าอุปการคุณของเขาจะไม่สูญเปล่า จึงลงมือช่วยเหลือ แต่ที่พ่อแม่อุปการะเรานั้นเป็นการอุปการะโดยบริสุทธิ์ใจจริง ๆ ไม่ได้มองถึงหลักประกันใด ๆ เลย เราเองก็เกิดมาตัวเปล่าไม่มีหลักทรัพย์แม้แต่เข็เล่มเดียวยัง ไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าอวัยวะร่างกายจะใช้ได้ครบถ้วนหรือไม่ ยิ่งนิสัยใจคอแล้วยิ่งรู้ไม่ได้เอาทีเดียว โตขึ้นมาจะเป็นอย่างไร จะเป็นคนอกตัญญูหรือไม่ไม่รู้ทั้งนั้น หนังสือสัญญาการรับปากสักคำเดียวระหว่างเรากับท่านก็ไม่มีแต่ทั้ง ๆที่ไม่มี ท่านทั้งสองก็ได้โถมตัวเข้าช่วยเหลือเราจนสุดชีวิต ที่ยากจนก็ถึงกับกู้หนี้ยืมสินคนอื่นมาช่วย เรื่องเหล่านี้ต้องคิดดูด้วยเหตุผลอย่าสักแต่คิดด้วยอารมณ์เท่านั้น การพิจารณาให้เห็นคุณของพ่อแม่ด้วยใจอย่างนี้แหละเรียกว่า"กตัญญู" เป็นคุณธรรมเบื้องต้นของผู้เป็นลูก ยิ่งพิจารณาเห็นคุณท่านมากเท่าไร แสดงว่าใจของเราเริ่มใสและสว่างมากขึ้นเท่านั้น
กตเวที หมายถึง การทดแทนพระคุณของท่าน ซึ่งมีงานที่ต้องทำ ๒ ประการ คือ
๑.ประกาศคุณท่าน
๒.ตอบแทนคุณท่าน
การประกาศคุณท่าน หมายถึง การทำให้ผุ้อื่นรู้ว่า พ่อแม่มีคุณแก่เราอย่างไรบ้าง มากน้อยเพียงใด เรื่องนี้มีคนคิดทำอยู่มากเหมือนกัน แต่ส่วนมากไปทำตอนงานศพ คือเขียนประวัติสรรเสริญคุณพ่อแม่ในหนังสือแจก การกระทำเช่นนี้ก็ถูก แต่ถูกเพียงเปลือกนอกผิวเผินนัก ถ้าเป็นการกินผลไม้ก็แค่เคี้ยวเปลือกเท่านั้น ยังมีทำเลที่จะประกาศคุณพ่อแม่ที่สำคัญกว่านี้ คือ ที่ตัวเรานี่เอง
คนเราทุกคนคือตัวแทน ของพ่อแม่ตนทั้งนั้น เลือดก็แบ่งมาจากท่านเนื้อก็แบ่งมาจาท่าน ตลอดจนนิสัยใจคอก็ได้รับการอบรมถ่ายทอดมาจากท่าน ความประพฤติของตัวเรานี่แหละจะเป็นเครื่องประกาศคุณพ่อแม่อย่างโจ่งแจ้งที่สุด หากพิมพ์ข้อความไว้ในหนังสือแจกว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นคนตั้งอยู่ในศีลในธรรม แต่ตัวเราเองประพฤติสำมะเลเทเมา คอร์รัปชั่นทุกครั้งที่มีโอกาสศีลข้อเดียวก็ไม่สนใจรักษา ก็ผิดที่ไป สดุดีคุณพ่อแม่ว่าเป็นคนดี สุภาพเรียบร้อยแต่ตัวเราผู้เป็นลูกกลับประพฤติตัวเป็นนักเลงอันธพาล อย่างนี้คุณค่าของการสรรเสริญพ่อแม่ก็ลดน้ำหนักลง กลายเป็นว่ามอบหน้าที่ในการกตเวทีประกาศคุณพ่อแม่ให้หนังสือทำแทน ให้กระดาษ ให้เครื่องพิมพ์ ให้ช่างเรียงพิมพ์แสดงกตเวทีแทน แล้วตัวเรากลับประจานพ่อแม่ของตัวเอง อย่างน้อยที่สุดก็ประจานแก่ชาวบ้านว่าพ่อแม่ของเราเลี้ยงลูกไม่เป็นประสา
พ่อแม่ของใครใครก็รัก เมื่อรัท่านก็ประกาศคุณความดีของท่านซิประกาศด้วยความดีของตัวเราเองตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ยิ่งท่านยังมีชีวิตอยู่ การประกาศคุณของเราจะทำให้ท่านมีความสุขใจอย่างยิ่ง ส่วนใครจะประพันธ์สรรเสริญคุณพ่อแม่พิมพ์แจกเวลาท่านตายแล้ว นั่นเป็นประเด็นเบ็ดเตล็ดจะทำก็ได้ไม่ทำก็ไม่เสียหายอะไร
ไม่ว่าเราจะตั้งใจประกาศคุณท่านหรือไม่ ความประพฤติของเราก็เป็นตัวประกาศคุณท่านหรือประจานท่านอยู่ตลอดเวลา คิดเอาเองก็แล้วกันว่าเราจะประกาศคุณพ่อแม่ของเราด้วยเกียรติยศชื่อเสียง หรือจะใจดำถึงกับประจานผู้บังเกิดเกล้าด้วยการทำตัวเป็นพาลเกเรและประพฤติต่ำทราม
การตอบแทนคุณท่าน แบ่งเป็น ๒ ช่วง คือ
๑.เมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ ก็ช่วยเหลือกิจการงานของท่านเลี้ยงดูท่านตอนเมื่อยามท่านชรา ดูแลปรนนิบัติการกินอยู่ของท่านให้สะดวกสบายและเอาใจใส่ช่วยเหลือเมื่อท่านเจ็บป่วย
๒.เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ก็จัดพิธีศพให้ท่าน และทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่านอย่างสม่ำเสมอ
แม้เราจะตอบแทนพระคุณท่านถึงเพียงนี้แล้ว ก็ยังนับว่าเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับพระคุณอันยิ่งใหญที่ท่านมีต่อเรา
ผู้ที่มีความกตัญญูกตเวทีต้องการจะสนองพระคุณท่านให้ได้ทั้งหมด พึงกระทำดังนี้
๑.ถ้าท่านยังไม่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา ก็พยายามชักนำให้ท่านตั้งอยู่ในศรัทธาให้ได้
๒.ถ้าท่านยังไม่ถึงพร้อมด้วยการให้ท่าน ก็พยายามชักนำให้ท่านยินดีในการบริจาคทานให้ได้
๓.ถ้าท่านยังไม่มีศีล ก็พยายามชักนำให้ท่านรักษาศีลให้ได้
๔.ถ้าท่านยังไม่ทำสมาธิภาวนา ก็พยายามชักนำให้ท่านทำสมาธิภาวนาให้ได้
เพราะว่าการตั้งอยู่ในศรัทธาการให้ท่าน การรักษาศีล การทำสมาธิภาวนา เป็นประโยชน์โดยตรง และเป็นประโยชน์อันยิ่งใหญ่แก่ตัวบิดามารดาผู้ประพฤติปฏิบัติเองทั้งในภพนี้ ภพหน้า และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งคือ เป็นหนทางไปสู่พระนิพพาน
อานิสงส์การบำรุงบิดามารดา
๑.ทำให้เป็นคนมีความอดทน
๒.ทำให้เป็นคนมีสติรอบคอบ
๓.ทำให้เป็นคนมีเหตุผล
๔.ทำให้พ้นทุกข์
๕.ทำให้พ้นภัย
๖.ทำให้ได้ลาภโดยง่าย
๗.ทำให้แคล้วคลาดภัยในยามคับขัน
๘.ทำให้เทวดาลงรักษา
๙.ทำให้ได้รับการยกย่องสรรเสริญ
๑๐.ทำให้มีความเจริญก้าวหน้า
๑๑.ถ้ามีลูกก็จะได้ลูกที่ดี
๑๒.ทำให้มีความสุข
๑๓.ทำให้เป็นตัวอย่างอันดีแก่อนุชนรุ่นหลัง
24.3.55
ສະຫລອງ ເຂົ້າແຈກ
ສະຫລອງ ເຂົ້າແຈກ
ນະໂມ ຕັດສະ ພະຄະວະໂຕ ອະຣະຫະໂຕ ສັມມາສັມພຸດທັດສະ
( ວ່າ ໓ ເທື່ອ )
ຕະທາ ທຳມິກະ ສັງຄະອາສານະກະຖາ ອາຍາກິຣະພາມມະ- ນັງ ອາຣັບພະກະເຖສິຕິ.
ໂພນຕາ ສາທະໂວ ດູຣາສັບປຸຣິສະເຈົ້າທັງຫລາຍ ທີ່ມີຈິດສັດ ທາເຫລື້ອມໃສໃນພຣະບໍວອນພຸດທະສາດສະໜາ ໄດ້ນ້ອມນຳມາຍັງ ເຄື່ອງກິຍາບູຊາ ມີເຂົ້ານ້ຳໂພຊະນະອາຫານ ພ້ອມທັງປະທູບປະທີບ ດອກໄມ້ຄັນທະຣົດສະຂອງຫອມ ນຳມາຖວາຍດ້ວຍໃຈເຫລື້ອມໃສ ສັດທາ ໃນຄຸນພຣະຣັດຕະນະໄຕຣແກ້ວສາມປະການ ເພື່ອໃຫ້ເປັນ ທີ່ຈັ້ງທີ່ເພິ່ງຂອງຕົນໃນຊົ່ວນີ້ ແລະ ຊົ່ວໜ້າ ຄົງຈະໄດ້ດັ່ງຄຳປາດຖະ ໜາຂອງຕົນທຸກໆປະການ ເພາະວ່າບຸນກຸສົນນີ້ກໍເກີດຂຶ້ນຈາກຄວາມ ປິຕິຍິນດີ ຈິ່ງເປັນຕົວກຸສົນໄດ້ ສັດທາຄືຄວາມເຊື່ອ ວິຣິຍະ ຄືຄວາມ ພຽນ ໃຫ້ກຸສົນທີ່ເກີດຂຶ້ນໃນຕົນແລ້ວບໍ່ໃຫ້ເສື່ອມເສັຍໄປ ຈົ່ງຄອຍລະ ອະກຸສົນຈິດ ໃຫ້ຂາດໄປຈາກຂັນທະສັນດານຂອງຕົນເສັຍ ພ້ອມກັນ ນັ້ນໃຫ້ຕັ້ງຢູ່ໃນຄຸນແກ້ວທັງສາມ ຈິ່ງນັບວ່າເປັນຜູ້ເຖິງພຣະຣັດຕະນະ ໄຕຣ ສະຣະນະຄົມ ຄື ພຣະພຸທເຈົ້າ ພຣະທັມມະເຈົ້າ ແລະ ພຣະສັງ ຄະເຈົ້າ ຈຶ່ງໄດ້ນາມວ່າ ເປັນອຸປາສົກ ອຸປາສິກາ ຢູ່ໃນພຣະພຸດທະ ສາດສະໜາທຸກວັນນີ້ ດູຣາທ່ານພຸດທະບໍລິສັດທັງຫລາຍ ຂໍທ່ານຈົ່ງຖື ເອົາຄຸນພຣະຣັດຕະນະໄຕຣ ຄື ພຣະພຸດທະເຈົ້າ ພຣະທັມມະເຈົ້າ ແລະ ພຣະສົງເຈົ້າ ວ່າ ເປັນສະຣະນະທີ່ເພິ່ງທີ່ອາໃສດັ່ງນັ້ນ ຕາຍ ແລ້ວຈັກໄດ້ໄປເກີດໃນສະຫວັນ.
ເຄື່ອງໄທຍະທານທີ່ພວກເຮົາທັງຫລາຍໄດ້ສະລະທານໄປນັ້ນ ກໍເປັນເຂົ້າໄຖ່ເຂົ້າຖົງຂອງພວກເຮົາ ແລະ ຍາດພີ່ນ້ອງຂອງເຮົາ ທີ່ ລະໂລກນີ້ໄປສູ່ໂລກໜ້າ ດັ່ງພຣະຄາຖາທີ່ຍົກໄວ້ໃນເບື້ອງຕົ້ນນັ້ນວ່າ “ອາຍາກິຣະພາມມະນັງ ອາຣັບພະ ກະເຖສິ” ດັ່ງນີ້ເປັນເຄົ້າ. ໃນກາ ລະຄັ້ງນັ້ນ ພຣະສຳມາສຳພຸດທະເຈົ້າຂອງເຮົາທັງຫລາຍ ໄດ້ສະເດັດ ປະທັບຢູ່ໃນປ່າເຊຕະວັນມະຫາວິຫານ ພ້ອມດ້ວຍໝູ່ພຣະພິກຂຸສົງ ຍັງມີພາມຜູ້ໜຶ່ງຢູ່ໃນເມືອງສາວັດຖີ ມີເຂົ້າຂອງເປັນອັນມາກເຖິງ ໘o ໂກດ ພາມຜູ້ນັ້ນມີລູກຊາຍຄົນໜຶ່ງເປັນທີ່ຮັກແພງຍິ່ງໜັກ ເໝືອນດັ່ງ ໃນຕາຂອງຕົນ ພໍລ້ຽງໃຫຍ່ມາໄດ້ອາຍຸ ໑໗ ປີ ກໍບັງເກີດໂຣຄາພະ ຍາດມາເຖິງຕົນ ກໍຈິ່ງມໍລະນະຕາຍຈາກພໍ່ແມ່ຂອງຕົນເສັຍ ສ່ວນ ພາມຜູ້ເປັນພໍ່ນັ້ນເຫັນລູກຂອງຕົນຕາຍເສັຍດັ່ງນັ້ນ ມັນກໍເປັນທຸກຂະ ເວທະນາມາກໜັກ ມັນກໍຮ້ອງໃຫ້ຮ່ຳໄຮໄປມາຫລາຍປະການ ແລ້ວ ມັນກໍເອົາສົບລູກຊາຍທີ່ຕາຍໄປເຜົາເສັຍໃນປ່າຊ້າຜິທີ່ນັ້ນ ກັບທັງເອົາ ເສື່ອສາດອາດສະໜາໄປປູໄວ້ ມີທັງຜ້າກັ້ງແລະເພດານ ໝາຍມີເຂົ້າ ຂອງທັງຫລາຍເປັນຕົ້ນວ່າ ເງິນຄຳ ຊ້າງ ມ້າ ຂ້າຍິງຂ້າຊາຍ ແລ້ວກໍ ແຕ່ງໃຫ້ທາດເຮືອນຄົວໜຶ່ງໄປອຸປະຖາກຮັກສາ ຢູ່ໃນປ່າຊ້າຜີທີ່ນັ້ນ ເພື່ອຈະໃຫ້ໄປສົ່ງເຂົ້າແລງເຂົ້າງາຍແກ່ລູກຊາຍຂອງຕົນຢູ່ທຸກໆວັນບໍ່ໃຫ້ຂາດຈັກວັນແລ. ຂ້ອຍພາມກໍຮັບຕາມໄປສົ່ງຢູ່ສະເໝີໆ ຢູ່ມາວັນ ໜຶ່ງຝົນກໍບັງເອີນຕົກລົງມານ້ຳກໍມາກຫລາຍ ເປັນອັນມືດມົນອົນທະ ການ ວ່າຈະຂ້າມລອຍກໍບໍ່ໄດ້ ຂ້ອຍພາມຜູ້ນັ້ນຈຶ່ງກັບຄືນມາພົບເຫັນ ເຈົ້າພິກຂຸຕົນໜຶ່ງມາບິນທະບາດ ມັນກໍເລີຍເອົາໃສ່ບາດເປັນທານແກ່ ເຈົ້າພິກຂຸຕົນນັ້ນ ແລ້ວມັນກໍຫລັ່ງລົງຍັງນ້ຳໝາຍທານສົ່ງບຸນໄປຫາ ລູກຊາຍພາມຜູ້ຕາຍໄປນັ້ນ ກໍຈິ່ງໄດ້ກິນເຂົ້າປາອາຫານແຕ່ວັນດຽວ ເທົ່ານັ້ນ ແລ້ວມັນຈິ່ງມານິມິດຄວາມຝັນໃຫ້ແກ່ພາມຜູ້ເປັນພໍ່ຮູ້ແຈ້ງ ວ່າ ຂ້າຕາຍໜີຈາກພໍ່ແມ່ໄປກໍໄດ້ປີໜຶ່ງແລ້ວ ກໍບໍ່ໄດ້ກິນເຂົ້າສັກວັນ ເລີຍ ກໍມາໄດ້ກິນເຂົ້າແຕ່ທໍ່ວັນດຽວເທົ່ານີ້ແລ ຄັນລູກຊາຍພາມມານິ ມິດຄວາມຝັນໃຫ້ພາມຜູ້ເປັນພໍ່ຮູ້ດັ່ງນີ້ແລ້ວ ພາມຜູ້ເປັນພໍ່ ກໍໃຊ້ໃຫ້ຄົນ ໄປຕາມເອົາຂ້າຊາຍຜູ້ໄປອຸປະຖາກນັ້ນມາຖາມເບິ່ງ ກູກໍແຕ່ງມຶງໃຫ້ ໄປສົ່ງເຂົ້າປາອາຫານໃຫ້ລູກຂອງກູຢູ່ທຸກວັນໆ ເຫດດັ່ງລືລູກຊາຍ ຂອງກູຈຶ່ງບໍ່ໄດ້ກິນເຂົ້າສັກວັນເລີຍ ຈຶ່ງໄດ້ມາກິນເຂົ້າແຕ່ທໍ່ວັນດຽວ ນີ້ຈາ ຄັນຂ້າຊາຍພາມຜູ້ນັ້ນໄດ້ຍິນແລ້ວກໍກ່າວຕອບວ່າ ຂ້າກໍໄປສົ່ງ ເຂົ້າງາຍເຂົ້າແລງແກ່ລູກຂອງທ່ານຢູ່ທຸກໆວັນ ແຕ່ວັນວານນີ້ຂ້າໄປ ບໍ່ໄດ້ ເພາະຝົນຕົກນ້ຳມາກຫລາຍ ຂ້າຈິ່ງໄດ້ກັບມາເຖິງກາງທາງກໍ ເລີຍພົບພຣະພິກຂຸເຈົ້າໄປບິນທະບາດ ຂ້າຈິ່ງໄດ້ເອົາເຂົ້າໃສ່ບາດພຣະ ພິກຂຸ ແລ້ວຈິ່ງອຸທິດສະຢາດນ້ຳໝາຍທານໄປຫາລູກຊາຍຂອງທ່ານ ແລ້ວລູກຂອງທ່ານຈິ່ງໄດ້ມາກິນເຂົ້າແຕ່ທໍ່ວັນດຽວນີ້ແລ. ຄັນພາມຜູ້ ເປັນພໍ່ໄດ້ຊາບຄວາມແລ້ວ ກໍຄິດຄະນິງຢູ່ໃນໃຈວ່າ ຄວນກູຈະໄປ ໄຫວ້ພຣະພຸທເຈົ້າເບິ່ງເສັຍກ່ອນເທີ້ນ ວ່າດັ່ງນັ້ນແລ້ວ ພາມຜູ້ນັ້ນກໍຖື ເອົາປະທູບປະທີບດອກໄມ້ຄັນທະຣົດສະຂອງຫອມ ນິສິດທິ ກໍຈິ່ງນັ່ງ ຢູ່ໃນທີ່ຄວນແຫ່ງຕົນ ແລ້ວກໍໄຫວ້ຖາມພຣະພຸທເຈົ້າວ່າ “ພັນເຕ ພະຄະວາ” ຂ້າຂໍໄຫວ້ພຣະພຸທເຈົ້າ ນໍຣະຍິງຊາຍທັງຫລາຍໃນໂລກນີ້ ຄັນເຂົາຕາຍໄປສູ່ປະຣະໂລກເບື້ອງໜ້າແລ້ວ ຜູ້ຢູ່ພາຍຫລັງໄດ້ແຕ່ງຂ້ອຍຂ້າຊາຍຍິງໄປອຸປະຖາກຮັກສາ ແລະ ແປງບັນນະສາລາໄວ້ໃນປ່າຊ້າ ເອົາເສື່ອສາດອາດສະໜາ ເງິນຄຳຊ້າງມ້າງົວຄວາຍໄປໄວ້ໃນທີ່ນັ້ນ ມີທັງຜ້າກັ້ງ ແລະ ເພດານ ກໍຈັກມີຜະລະອານິສົງສະແກ່ເຂົາຜູ້ຕາຍນັ້ນດັ່ງລື ກໍຂ້າຈາ ພະຄະວາ ອັນວ່າພຣະພຸທເຈົ້າກໍເທສນາໃຫ້ແກ່ພາມວ່າ ດູລາທ່ານພາມຜູ້ມີເຂົ້າຂອງເປັນອັນມາກ ຜິວ່າຈະໃຫ້ເປັນຜະລະອານິສົງແກ່ເຂົາຜູ້ຕາຍໄປນັ້ນ ກໍຄວນກະທຳບຸນໃຫ້ທານແກ່ສັງຄະເຈົ້າທັງຫລາຍ ໝາຍມີຕົນວ່າ ອຸທິດສະສ່ວນບຸນໄປຫາເຂົາຝູງຕາຍນັ້ນ ຈິ່ງເປັນຜະລະອານິສົງອັນຍິ່ງໃຫຍ່ນັ້ນແລ ສ່ວນເຂົາຝູງຕາຍໄປນັ້ນຄັນໄດ້ຮັບສ່ວນບຸນກຸສົນອັນນັ້ນແລ້ວ ກໍຈະໄດ້ພົ້ນ ຈາກພາວະອັນເປັນທຸກທັງມວນນັ້ນແລ ເມື່ອນັ້ນພາມກໍໄດ້ຟັງທຳມະເທດສະໜາແລ້ວ ກໍມີຈິດໃຈຊົມຊື່ນຍິນດີ ມັນກໍຍໍມືໄຫວ້ອາຣາທະນາ ພຣະພຸດທະເຈົ້າ ກັບທັງຊາວເຈົ້າພິກຂຸທັງຫລາຍ ອັນໄດ້ ໕oo ຣູບເຂົ້າໄປສູ່ເຮືອນແຫ່ງຕົນ ພາມຜູ້ນັ້ນກໍ່ປູເສື່ອສາດອາດສະໜາໄວ້ແລ້ວ ຄັ້ງນັ້ນ ພຣະພຸດທະເຈົ້າກໍເອົາຊາວເຈົ້າພິກຂຸທັງຫລາຍ ເຂົ້າໄປປະທັບນັ່ງເໜືອອາດສະໜາ ຂອງພາມຜູ້ຕົກແຕ່ງໄວ້ແລ້ວໃນເຮືອນຂອງຕົນ ເມື່ອນັ້ນ ພາມກໍຕົກແຕ່ງເຂົ້ານ້ຳໂພຊະນະອາຫານ ເອົາມາຕັ້ງໄວ້ຊ່ອງໜ້າສັງຄະເຈົ້າທັງຫລາຍ ແລ້ວພາມຜູ້ນັ້ນກໍກຼ່າວຄຳຖວາຍວ່າ:
“ອິມັດສະມິງ ເຄເຫ ອິມານິ ພິກຂານິ ສະຣູປັບພະຍັນຊະນານິ ສະອຸທະການິ ສະຕຳພະລານິ ສະຈິດຕະມະຣະນານິ ສັບພະໂພຊະນະອາຫາຣານິ ສະຄິລານະເພສັດຊານິ ສະພັນດານິ ພຸດທະ ທຳມະ ສັງຄະ ໂພທິຣຸກຂະ ປູຊານັດຖາຍະ ສັງຄັດສະ ເທມະ” ວ່າ ໓ ທີດັ່ງນີ້ແລ້ວ ພຣະພຸດທະເຈົ້າກັບທັງຊາວເຈົ້າພິກຂຸທັງຫລາຍ ກໍ່ສັນໂພຊະ ນະອາຫານສຳເຣັດແລ້ວ ພາມກໍ່ຖວາຍປັດໃຈທັງ ໔ ມີອະຖະບໍຣິກ ຂານເປັນທານແກ່ສັງຄະເຈົ້າທັງຫລາຍກໍມີແລ. ພາມຜູ້ນັ້ນມັນກໍ່ຫລັ່ງລົງ ອຸທະກັງ ຍັງນ້ຳໝາຍທານອຸທິດສະສົ່ງບຸນໄປຫາລູກຊາຍຂອງຕົນອັນຕາຍໄປນັ້ນແລ. ໃນກາລະຄັ້ງນັ້ນ ພຣະພຸທເຈົ້າ ກໍສະແດງທຳມະເທສນາໃຫ້ແກ່ກິຣະພາມວ່າ ດູກ່ອນທ່ານພາມ ຕັ້ງແຮກແຕ່ນີ້ເມືອ ໜ້າສູທ່ານທັງຫລາຍ ຢ່າໄດ້ໄປອຸປະຖາກຮັກສາຢູ່ໃນປ່າຊ້າຜີທີ່ນັ້ນເທີ້ນ ທ່ານຈົ່ງຮັກສາສິນພາວະນາຢ່າໄດ້ຂາດ ລູກຊາຍຂອງທ່ານອັນ ຕາຍໄປນັ້ນ ກໍຈະໄດ້ພົ້ນຈາກພາວະອັນເປັນທຸກ ຂຶ້ນໄປສະເວີຍສຸກຢູ່ ເທິງສະຫວັນຊັ້ນຕາວະຕິງສາ ພຣະພຸດທະເຈົ້າເທສນາຈົບລົງແລ້ວ ລູກຊາຍພາມຜູ້ນັ້ນກໍໄດ້ພົ້ນຈາກເຜດແລ້ວ ເອົາຕົນຂຶ້ນເມືອເທິງສະ ຫວັນຊັ້ນຕາວະດິງສາ ມີຜາສາດທອງຄຳສູງໄດ້ ໑໒ ໂຍດຊະນະ ມີນາງຟ້າທັງຫລາຍພັນໜຶ່ງເປັນບໍລິວານ ຄັນພາມຜູ້ເປັນພໍ່ນັ້ນ ໄດ້ຟັງທຳມະເທສນາຂອງພຣະພຸດທະເຈົ້າແລ້ວ ກໍ່ຕັ້ງຢູ່ໃນສິນ ໕ ສິນ ໘ ຕາບເທົ້າສິ້ນຊີວິດຂອງຕົນ ແລ້ວກໍໄດ້ໄປບັງເກີດເທິງສະຫວັນຊັ້ນຕາວະຕິງສາ ມີຜາສາດທອງຄຳຫລັງໜຶ່ງທຽມກັນກັບຜາສາດຂອງລູກ ມີນາງຟ້າທັງຫລາຍໝື່ນໜຶ່ງເປັນບໍລິວານ ນີ້ແລທ່ານພຸດບໍລິສັດທັງ ຫລາຍ ເມື່ອຮູ້ຜະລະອານິສົງສະດວງວິເສດຂອງພຣະພຸດທະເຈົ້າແຈ່ມແຈ້ງແລ້ວ ຈົ່ງຊົມຊື່ນຍິນດີໃນກອງການກຸສົນ ທີ່ພວກທ່ານທັງ ຫລາຍໄດ້ສະລະທານໃນວັນນີ້ທຸກປະການເທີ້ນ ນິດຖິຕາ ກໍຈົບພຽງເທົ່ານີ້ແລ.
ນະໂມ ຕັດສະ ພະຄະວະໂຕ ອະຣະຫະໂຕ ສັມມາສັມພຸດທັດສະ
( ວ່າ ໓ ເທື່ອ )
ຕະທາ ທຳມິກະ ສັງຄະອາສານະກະຖາ ອາຍາກິຣະພາມມະ- ນັງ ອາຣັບພະກະເຖສິຕິ.
ໂພນຕາ ສາທະໂວ ດູຣາສັບປຸຣິສະເຈົ້າທັງຫລາຍ ທີ່ມີຈິດສັດ ທາເຫລື້ອມໃສໃນພຣະບໍວອນພຸດທະສາດສະໜາ ໄດ້ນ້ອມນຳມາຍັງ ເຄື່ອງກິຍາບູຊາ ມີເຂົ້ານ້ຳໂພຊະນະອາຫານ ພ້ອມທັງປະທູບປະທີບ ດອກໄມ້ຄັນທະຣົດສະຂອງຫອມ ນຳມາຖວາຍດ້ວຍໃຈເຫລື້ອມໃສ ສັດທາ ໃນຄຸນພຣະຣັດຕະນະໄຕຣແກ້ວສາມປະການ ເພື່ອໃຫ້ເປັນ ທີ່ຈັ້ງທີ່ເພິ່ງຂອງຕົນໃນຊົ່ວນີ້ ແລະ ຊົ່ວໜ້າ ຄົງຈະໄດ້ດັ່ງຄຳປາດຖະ ໜາຂອງຕົນທຸກໆປະການ ເພາະວ່າບຸນກຸສົນນີ້ກໍເກີດຂຶ້ນຈາກຄວາມ ປິຕິຍິນດີ ຈິ່ງເປັນຕົວກຸສົນໄດ້ ສັດທາຄືຄວາມເຊື່ອ ວິຣິຍະ ຄືຄວາມ ພຽນ ໃຫ້ກຸສົນທີ່ເກີດຂຶ້ນໃນຕົນແລ້ວບໍ່ໃຫ້ເສື່ອມເສັຍໄປ ຈົ່ງຄອຍລະ ອະກຸສົນຈິດ ໃຫ້ຂາດໄປຈາກຂັນທະສັນດານຂອງຕົນເສັຍ ພ້ອມກັນ ນັ້ນໃຫ້ຕັ້ງຢູ່ໃນຄຸນແກ້ວທັງສາມ ຈິ່ງນັບວ່າເປັນຜູ້ເຖິງພຣະຣັດຕະນະ ໄຕຣ ສະຣະນະຄົມ ຄື ພຣະພຸທເຈົ້າ ພຣະທັມມະເຈົ້າ ແລະ ພຣະສັງ ຄະເຈົ້າ ຈຶ່ງໄດ້ນາມວ່າ ເປັນອຸປາສົກ ອຸປາສິກາ ຢູ່ໃນພຣະພຸດທະ ສາດສະໜາທຸກວັນນີ້ ດູຣາທ່ານພຸດທະບໍລິສັດທັງຫລາຍ ຂໍທ່ານຈົ່ງຖື ເອົາຄຸນພຣະຣັດຕະນະໄຕຣ ຄື ພຣະພຸດທະເຈົ້າ ພຣະທັມມະເຈົ້າ ແລະ ພຣະສົງເຈົ້າ ວ່າ ເປັນສະຣະນະທີ່ເພິ່ງທີ່ອາໃສດັ່ງນັ້ນ ຕາຍ ແລ້ວຈັກໄດ້ໄປເກີດໃນສະຫວັນ.
ເຄື່ອງໄທຍະທານທີ່ພວກເຮົາທັງຫລາຍໄດ້ສະລະທານໄປນັ້ນ ກໍເປັນເຂົ້າໄຖ່ເຂົ້າຖົງຂອງພວກເຮົາ ແລະ ຍາດພີ່ນ້ອງຂອງເຮົາ ທີ່ ລະໂລກນີ້ໄປສູ່ໂລກໜ້າ ດັ່ງພຣະຄາຖາທີ່ຍົກໄວ້ໃນເບື້ອງຕົ້ນນັ້ນວ່າ “ອາຍາກິຣະພາມມະນັງ ອາຣັບພະ ກະເຖສິ” ດັ່ງນີ້ເປັນເຄົ້າ. ໃນກາ ລະຄັ້ງນັ້ນ ພຣະສຳມາສຳພຸດທະເຈົ້າຂອງເຮົາທັງຫລາຍ ໄດ້ສະເດັດ ປະທັບຢູ່ໃນປ່າເຊຕະວັນມະຫາວິຫານ ພ້ອມດ້ວຍໝູ່ພຣະພິກຂຸສົງ ຍັງມີພາມຜູ້ໜຶ່ງຢູ່ໃນເມືອງສາວັດຖີ ມີເຂົ້າຂອງເປັນອັນມາກເຖິງ ໘o ໂກດ ພາມຜູ້ນັ້ນມີລູກຊາຍຄົນໜຶ່ງເປັນທີ່ຮັກແພງຍິ່ງໜັກ ເໝືອນດັ່ງ ໃນຕາຂອງຕົນ ພໍລ້ຽງໃຫຍ່ມາໄດ້ອາຍຸ ໑໗ ປີ ກໍບັງເກີດໂຣຄາພະ ຍາດມາເຖິງຕົນ ກໍຈິ່ງມໍລະນະຕາຍຈາກພໍ່ແມ່ຂອງຕົນເສັຍ ສ່ວນ ພາມຜູ້ເປັນພໍ່ນັ້ນເຫັນລູກຂອງຕົນຕາຍເສັຍດັ່ງນັ້ນ ມັນກໍເປັນທຸກຂະ ເວທະນາມາກໜັກ ມັນກໍຮ້ອງໃຫ້ຮ່ຳໄຮໄປມາຫລາຍປະການ ແລ້ວ ມັນກໍເອົາສົບລູກຊາຍທີ່ຕາຍໄປເຜົາເສັຍໃນປ່າຊ້າຜິທີ່ນັ້ນ ກັບທັງເອົາ ເສື່ອສາດອາດສະໜາໄປປູໄວ້ ມີທັງຜ້າກັ້ງແລະເພດານ ໝາຍມີເຂົ້າ ຂອງທັງຫລາຍເປັນຕົ້ນວ່າ ເງິນຄຳ ຊ້າງ ມ້າ ຂ້າຍິງຂ້າຊາຍ ແລ້ວກໍ ແຕ່ງໃຫ້ທາດເຮືອນຄົວໜຶ່ງໄປອຸປະຖາກຮັກສາ ຢູ່ໃນປ່າຊ້າຜີທີ່ນັ້ນ ເພື່ອຈະໃຫ້ໄປສົ່ງເຂົ້າແລງເຂົ້າງາຍແກ່ລູກຊາຍຂອງຕົນຢູ່ທຸກໆວັນບໍ່ໃຫ້ຂາດຈັກວັນແລ. ຂ້ອຍພາມກໍຮັບຕາມໄປສົ່ງຢູ່ສະເໝີໆ ຢູ່ມາວັນ ໜຶ່ງຝົນກໍບັງເອີນຕົກລົງມານ້ຳກໍມາກຫລາຍ ເປັນອັນມືດມົນອົນທະ ການ ວ່າຈະຂ້າມລອຍກໍບໍ່ໄດ້ ຂ້ອຍພາມຜູ້ນັ້ນຈຶ່ງກັບຄືນມາພົບເຫັນ ເຈົ້າພິກຂຸຕົນໜຶ່ງມາບິນທະບາດ ມັນກໍເລີຍເອົາໃສ່ບາດເປັນທານແກ່ ເຈົ້າພິກຂຸຕົນນັ້ນ ແລ້ວມັນກໍຫລັ່ງລົງຍັງນ້ຳໝາຍທານສົ່ງບຸນໄປຫາ ລູກຊາຍພາມຜູ້ຕາຍໄປນັ້ນ ກໍຈິ່ງໄດ້ກິນເຂົ້າປາອາຫານແຕ່ວັນດຽວ ເທົ່ານັ້ນ ແລ້ວມັນຈິ່ງມານິມິດຄວາມຝັນໃຫ້ແກ່ພາມຜູ້ເປັນພໍ່ຮູ້ແຈ້ງ ວ່າ ຂ້າຕາຍໜີຈາກພໍ່ແມ່ໄປກໍໄດ້ປີໜຶ່ງແລ້ວ ກໍບໍ່ໄດ້ກິນເຂົ້າສັກວັນ ເລີຍ ກໍມາໄດ້ກິນເຂົ້າແຕ່ທໍ່ວັນດຽວເທົ່ານີ້ແລ ຄັນລູກຊາຍພາມມານິ ມິດຄວາມຝັນໃຫ້ພາມຜູ້ເປັນພໍ່ຮູ້ດັ່ງນີ້ແລ້ວ ພາມຜູ້ເປັນພໍ່ ກໍໃຊ້ໃຫ້ຄົນ ໄປຕາມເອົາຂ້າຊາຍຜູ້ໄປອຸປະຖາກນັ້ນມາຖາມເບິ່ງ ກູກໍແຕ່ງມຶງໃຫ້ ໄປສົ່ງເຂົ້າປາອາຫານໃຫ້ລູກຂອງກູຢູ່ທຸກວັນໆ ເຫດດັ່ງລືລູກຊາຍ ຂອງກູຈຶ່ງບໍ່ໄດ້ກິນເຂົ້າສັກວັນເລີຍ ຈຶ່ງໄດ້ມາກິນເຂົ້າແຕ່ທໍ່ວັນດຽວ ນີ້ຈາ ຄັນຂ້າຊາຍພາມຜູ້ນັ້ນໄດ້ຍິນແລ້ວກໍກ່າວຕອບວ່າ ຂ້າກໍໄປສົ່ງ ເຂົ້າງາຍເຂົ້າແລງແກ່ລູກຂອງທ່ານຢູ່ທຸກໆວັນ ແຕ່ວັນວານນີ້ຂ້າໄປ ບໍ່ໄດ້ ເພາະຝົນຕົກນ້ຳມາກຫລາຍ ຂ້າຈິ່ງໄດ້ກັບມາເຖິງກາງທາງກໍ ເລີຍພົບພຣະພິກຂຸເຈົ້າໄປບິນທະບາດ ຂ້າຈິ່ງໄດ້ເອົາເຂົ້າໃສ່ບາດພຣະ ພິກຂຸ ແລ້ວຈິ່ງອຸທິດສະຢາດນ້ຳໝາຍທານໄປຫາລູກຊາຍຂອງທ່ານ ແລ້ວລູກຂອງທ່ານຈິ່ງໄດ້ມາກິນເຂົ້າແຕ່ທໍ່ວັນດຽວນີ້ແລ. ຄັນພາມຜູ້ ເປັນພໍ່ໄດ້ຊາບຄວາມແລ້ວ ກໍຄິດຄະນິງຢູ່ໃນໃຈວ່າ ຄວນກູຈະໄປ ໄຫວ້ພຣະພຸທເຈົ້າເບິ່ງເສັຍກ່ອນເທີ້ນ ວ່າດັ່ງນັ້ນແລ້ວ ພາມຜູ້ນັ້ນກໍຖື ເອົາປະທູບປະທີບດອກໄມ້ຄັນທະຣົດສະຂອງຫອມ ນິສິດທິ ກໍຈິ່ງນັ່ງ ຢູ່ໃນທີ່ຄວນແຫ່ງຕົນ ແລ້ວກໍໄຫວ້ຖາມພຣະພຸທເຈົ້າວ່າ “ພັນເຕ ພະຄະວາ” ຂ້າຂໍໄຫວ້ພຣະພຸທເຈົ້າ ນໍຣະຍິງຊາຍທັງຫລາຍໃນໂລກນີ້ ຄັນເຂົາຕາຍໄປສູ່ປະຣະໂລກເບື້ອງໜ້າແລ້ວ ຜູ້ຢູ່ພາຍຫລັງໄດ້ແຕ່ງຂ້ອຍຂ້າຊາຍຍິງໄປອຸປະຖາກຮັກສາ ແລະ ແປງບັນນະສາລາໄວ້ໃນປ່າຊ້າ ເອົາເສື່ອສາດອາດສະໜາ ເງິນຄຳຊ້າງມ້າງົວຄວາຍໄປໄວ້ໃນທີ່ນັ້ນ ມີທັງຜ້າກັ້ງ ແລະ ເພດານ ກໍຈັກມີຜະລະອານິສົງສະແກ່ເຂົາຜູ້ຕາຍນັ້ນດັ່ງລື ກໍຂ້າຈາ ພະຄະວາ ອັນວ່າພຣະພຸທເຈົ້າກໍເທສນາໃຫ້ແກ່ພາມວ່າ ດູລາທ່ານພາມຜູ້ມີເຂົ້າຂອງເປັນອັນມາກ ຜິວ່າຈະໃຫ້ເປັນຜະລະອານິສົງແກ່ເຂົາຜູ້ຕາຍໄປນັ້ນ ກໍຄວນກະທຳບຸນໃຫ້ທານແກ່ສັງຄະເຈົ້າທັງຫລາຍ ໝາຍມີຕົນວ່າ ອຸທິດສະສ່ວນບຸນໄປຫາເຂົາຝູງຕາຍນັ້ນ ຈິ່ງເປັນຜະລະອານິສົງອັນຍິ່ງໃຫຍ່ນັ້ນແລ ສ່ວນເຂົາຝູງຕາຍໄປນັ້ນຄັນໄດ້ຮັບສ່ວນບຸນກຸສົນອັນນັ້ນແລ້ວ ກໍຈະໄດ້ພົ້ນ ຈາກພາວະອັນເປັນທຸກທັງມວນນັ້ນແລ ເມື່ອນັ້ນພາມກໍໄດ້ຟັງທຳມະເທດສະໜາແລ້ວ ກໍມີຈິດໃຈຊົມຊື່ນຍິນດີ ມັນກໍຍໍມືໄຫວ້ອາຣາທະນາ ພຣະພຸດທະເຈົ້າ ກັບທັງຊາວເຈົ້າພິກຂຸທັງຫລາຍ ອັນໄດ້ ໕oo ຣູບເຂົ້າໄປສູ່ເຮືອນແຫ່ງຕົນ ພາມຜູ້ນັ້ນກໍ່ປູເສື່ອສາດອາດສະໜາໄວ້ແລ້ວ ຄັ້ງນັ້ນ ພຣະພຸດທະເຈົ້າກໍເອົາຊາວເຈົ້າພິກຂຸທັງຫລາຍ ເຂົ້າໄປປະທັບນັ່ງເໜືອອາດສະໜາ ຂອງພາມຜູ້ຕົກແຕ່ງໄວ້ແລ້ວໃນເຮືອນຂອງຕົນ ເມື່ອນັ້ນ ພາມກໍຕົກແຕ່ງເຂົ້ານ້ຳໂພຊະນະອາຫານ ເອົາມາຕັ້ງໄວ້ຊ່ອງໜ້າສັງຄະເຈົ້າທັງຫລາຍ ແລ້ວພາມຜູ້ນັ້ນກໍກຼ່າວຄຳຖວາຍວ່າ:
“ອິມັດສະມິງ ເຄເຫ ອິມານິ ພິກຂານິ ສະຣູປັບພະຍັນຊະນານິ ສະອຸທະການິ ສະຕຳພະລານິ ສະຈິດຕະມະຣະນານິ ສັບພະໂພຊະນະອາຫາຣານິ ສະຄິລານະເພສັດຊານິ ສະພັນດານິ ພຸດທະ ທຳມະ ສັງຄະ ໂພທິຣຸກຂະ ປູຊານັດຖາຍະ ສັງຄັດສະ ເທມະ” ວ່າ ໓ ທີດັ່ງນີ້ແລ້ວ ພຣະພຸດທະເຈົ້າກັບທັງຊາວເຈົ້າພິກຂຸທັງຫລາຍ ກໍ່ສັນໂພຊະ ນະອາຫານສຳເຣັດແລ້ວ ພາມກໍ່ຖວາຍປັດໃຈທັງ ໔ ມີອະຖະບໍຣິກ ຂານເປັນທານແກ່ສັງຄະເຈົ້າທັງຫລາຍກໍມີແລ. ພາມຜູ້ນັ້ນມັນກໍ່ຫລັ່ງລົງ ອຸທະກັງ ຍັງນ້ຳໝາຍທານອຸທິດສະສົ່ງບຸນໄປຫາລູກຊາຍຂອງຕົນອັນຕາຍໄປນັ້ນແລ. ໃນກາລະຄັ້ງນັ້ນ ພຣະພຸທເຈົ້າ ກໍສະແດງທຳມະເທສນາໃຫ້ແກ່ກິຣະພາມວ່າ ດູກ່ອນທ່ານພາມ ຕັ້ງແຮກແຕ່ນີ້ເມືອ ໜ້າສູທ່ານທັງຫລາຍ ຢ່າໄດ້ໄປອຸປະຖາກຮັກສາຢູ່ໃນປ່າຊ້າຜີທີ່ນັ້ນເທີ້ນ ທ່ານຈົ່ງຮັກສາສິນພາວະນາຢ່າໄດ້ຂາດ ລູກຊາຍຂອງທ່ານອັນ ຕາຍໄປນັ້ນ ກໍຈະໄດ້ພົ້ນຈາກພາວະອັນເປັນທຸກ ຂຶ້ນໄປສະເວີຍສຸກຢູ່ ເທິງສະຫວັນຊັ້ນຕາວະຕິງສາ ພຣະພຸດທະເຈົ້າເທສນາຈົບລົງແລ້ວ ລູກຊາຍພາມຜູ້ນັ້ນກໍໄດ້ພົ້ນຈາກເຜດແລ້ວ ເອົາຕົນຂຶ້ນເມືອເທິງສະ ຫວັນຊັ້ນຕາວະດິງສາ ມີຜາສາດທອງຄຳສູງໄດ້ ໑໒ ໂຍດຊະນະ ມີນາງຟ້າທັງຫລາຍພັນໜຶ່ງເປັນບໍລິວານ ຄັນພາມຜູ້ເປັນພໍ່ນັ້ນ ໄດ້ຟັງທຳມະເທສນາຂອງພຣະພຸດທະເຈົ້າແລ້ວ ກໍ່ຕັ້ງຢູ່ໃນສິນ ໕ ສິນ ໘ ຕາບເທົ້າສິ້ນຊີວິດຂອງຕົນ ແລ້ວກໍໄດ້ໄປບັງເກີດເທິງສະຫວັນຊັ້ນຕາວະຕິງສາ ມີຜາສາດທອງຄຳຫລັງໜຶ່ງທຽມກັນກັບຜາສາດຂອງລູກ ມີນາງຟ້າທັງຫລາຍໝື່ນໜຶ່ງເປັນບໍລິວານ ນີ້ແລທ່ານພຸດບໍລິສັດທັງ ຫລາຍ ເມື່ອຮູ້ຜະລະອານິສົງສະດວງວິເສດຂອງພຣະພຸດທະເຈົ້າແຈ່ມແຈ້ງແລ້ວ ຈົ່ງຊົມຊື່ນຍິນດີໃນກອງການກຸສົນ ທີ່ພວກທ່ານທັງ ຫລາຍໄດ້ສະລະທານໃນວັນນີ້ທຸກປະການເທີ້ນ ນິດຖິຕາ ກໍຈົບພຽງເທົ່ານີ້ແລ.
ຊັບໄຊຍ໌
ຊັບໄຊຍ໌
ນະໂມ ຕັດສັຕຖຸ
ນະໂມ ເມ ພຸດທະ ເຕຊັດສະ ຣະຕະນັດຕະຍະທຳມິກາ ເຕຊະປະສິດທິ ປະສິເທວາ ນາຣາຍະປະຣະເມສະວະຣາ ສິດທິພົມມາ ຈະ ອິນທາ ຈະຕຸໂລກາພິຣັກຂະກາ ສະມຸດທາ ພູຕະຄັງຄາ ຈະ ສັບພະສິດທິ ພະວັນຕຸ ເຕຕິ.
ໂພນຕາ ສາທະໂວ ດູຣາສັບປຸຣິສາເຈົ້າທັງຫລາຍ ຊານາພິນຍາຕິປິຕະກາຈະຣິຍາ ອາຈານເຈົ້າຕົນທະຣົນໄວ້ຍັງພຣະໄຕຣປິດົກ ອັນປະກອບດ້ວຍຊານ ແລະ ພິນຍາ ພຣະກໍຫລິງເຫັນຍັງໂພຍພັຍ ອຸປັດທະຣົນອົນຕາຍ ອັນມີພາຍໃນ ແລະ ພາຍນອກຂັນທະສັນດານ ແຫ່ງຄົນ ແລະ ສັບພະສັດທັງຫລາຍ ພຣະຈິ່ງໄດ້ເທສນາຍັງຄຳພີ ຈຸລະຊະຍະປະກະຣະນະ ສູດດວງນີ້ ເພື່ອຈັກໃຫ້ມີຄວາມວຸດທິຈຳເຣີນແກ່ຝູງຄົນ ແລະ ເທວະດາ ພ້ອມທັງບ້ານເມືອງທັງຫລາຍ ຕັ້ງແຮກແຕ່ນີ້ໄປພາຍຫນ້າ ຕາບຕໍ່ເທົ້າຮອດຫ້າພັນພຣະວັດສາພຸ້ນແລ ຈຸນລະໄຊຍະປະກະຣະນະ ສູດດວງນີ້ ອາຈານເຈົ້າຫາກໄດ້ແຕ່ງແປງໄວ້ວ່າ ນະໂມ ເມ ພຸດທະເຕຊັດສະ ຣະຕະນັດຕະຍະທຳມິກາ ດັ່ງນີ້ເປັນເຄົ້າ.
ນະໂມ ອັນວ່າກິຍາ ອັນຜູ້ຂ້າໄດ້ນ້ອມໄຫວ້ແດ່ພຣະຣັດຕະນະໄຕຣແກ້ວທັງ ໓ ປະການ ອັນປະກອບຊອບທຳ ຂໍເທພະດາເຈົ້າທັງ ຫລາຍ ພ້ອມທັງພຣະນາຣາຍພຣະຕັບປະຣະເມສວນ ຜູ້ມີຄວາມຮຸ່ງເຮືອງໄປດ້ວຍປະສິທິສາດທະສິນ ຄືເດດພຣະຍາພົມກໍດີ ພຣະຍາອິນກໍດີ ແລະ ເທພະດາທັງຫລາຍ ຜູ້ຮັກສາຄຸ້ມຄອງຍັງໂລກທັງ ໔ ຄືວ່າ: ພົມມະໂລກ ເທວະໂລກ ມະນຸດສະໂລກ ແລະ ນາຄະວະໂລກ ຈົ່ງເປັນຜູ້ມີອຳນາດຮັກສາຄຸ້ມຄອງຄ້ຳຄູນຫນັ້ນຄົງແກ່ທ່ານເຖີ້ນ, ທະຣະນິ ທາຣະນີ ແຜ່ນດິນນ້ອຍແລະແຜ່ນດິນໃຫຍ່ ສະນ້ຳນ້ອຍແລະສະນ້ຳໃຫຍ່ ແມ່ນ້ຳນ້ອຍແລະແມ່ນ້ຳໃຫຍ່ກໍດີ ອັນມີຕະປະເຕຊານຸພາບອັນມາກມີອຸປະມາສັນໃດ? ຂໍທ່ານຈົ່ງມີໄຊຊະນະເຕຊານຸພາບອັນມາກ ກໍມີອຸປະໄມໄປດັ່ງນັ້ນເຖີ້ນ, ຄັກຄະນະຕະລະນິໄສນິໄລໄສເສລະສຸເມ ຣຸຣາຊະພະນະຣະຊີ ພື້ນປະຕູລາອາກາດກາງຫາວ ແລະ ເຂົາສຸເມຣຸ ຣາດ ແລະ ພຣະຍາພູດອຍດົງຫລວງຂະນາດ ອັນເປັນທີ່ຢູ່ອາໄສນອນແຫ່ງສັບພະສັດທັງຫລາຍ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະເຕຊານຸພາບອັນມາກແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ຄຳພີຣະໂສມພິ ນາເຄນທານາຄີ ພຣະຍານາກແລະນາງນາກທັງຫລາຍ ອັນຢູ່ໃນຫ້ວຍໃນບໍ່ ບຶງ ຖ້ຳ ຫນອງ ແລະ ໂສກເຫວ ອັນເລິກແລະຕື້ນກໍດີ ຜີເຊື້ອນ້ຳແລະຜີເຊື້ອບົກທັງຫລາຍກໍດີ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະຜາບແພ້ຂ້າເສິກສັດຕູທັງມວນ ແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ທຸນນິມິດຕະໂຣຄີ ນິມິດອັນຊົ່ວຮ້າຍແລະພະຍາດທິໂຣຄາ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ມັກວ່າທ່ານທັງຫລາຍຈົ່ງຜະຈົນຜາບແພ້ຍັງນິມິດອັນຊົ່ວຮ້າຍ ແລະ ພະຍາດທິໂຣຄທັງມວນນີ້ເຖີ້ນ ສິງຄິສຸດ ທາ ຄານະມຸຂະຊາ ນໍແຮດແລະເຂົາກວາງຫົດ ອັນເກີດມາແຕ່ຫົວແລະດັງກໍດີ ແຂ້ວຫມູຕັນ ຈັນທະຄາດ ຄຸດແຂງແລະນໍງາ ອັນເກີດມາແຕ່ປາກກໍດີ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະຜາບແພ້ຂ້າເສິກສັດຕູທັງມວນ ແລະເປັນຂອງຄ້ຳຂອງຄູນໃຫ້ແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ຣຸນນະມຸຂະສາຕຣາ ສາຕຣາ ສາດຕະສິນອັນເປັນຂອງກ້າແຂງຫມັ້ນແກ່ນ ອັນອາດນຳອອກເສັຍໄດ້ຍັງສັບພະໂພຍພັຍ ແລະສັບພະສະນຽດຈັງໄຮ ອຸປັດທະວະອົນຕາຍ ອັນໃຫ້ບັງເກີດຍັງຄວາມໂສກເສົ້າແລະຮ້ອງໄຫ້ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ຈຳປາທິນາຄະ ກະກຸຣະກັນຖະກັງ ເຄື່ອງສັງວານແຫ່ງພຣະຍານາກ ຄືດັ່ງສີດອກຈຳປາເປັນຕົ້າ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ຄະຊະຄະນະຕຸຣັງຄະມະສຸກະຣະພຸຊັງຄະສິຫະພະຍັກຄະທິປາ ຫມູ່ຊ້າງ ຫມູ່ແຮດ ຫມູ່ມ້າ ຫມູ່ນາກ ເງືອກ ງູ ຫມູ່ຣາຊະສີ ຫມູ່ເສືອໂຄ່ງແລະເສືອເຫລືອງ ອັນມີເຕຊານຸພາບມາກ ແລະມີດ້ວຍປະການສັນໃດ ຂໍທ່ານກໍ່ຈົ່ງມີໄຊຊະນະເຕຊານຸພາບຜາບແພ້ຂ້າເສິກສັດຕູ ໃນສາກາລະຊົມພູທະວິບທັງມວນ ກໍມີດ້ວຍປະການສັນນັ້ນເຖີ້ນ ຣຸນນະມຸກຂະຍາຕຣາ ສາພາວະອັນໃຫ້ລະງັບດັບເສັຍຍັງຄວາມຮ້ອງໄຫ້ກໍດີ ຄວາມພະຈົນຜາບແພ້ຍັງກຳ ລັງທ້າວພຣະຍາ ແລະເສນາຂ້າເສິກສັດຕູ ແລ້ວມີຄວາມຊົມຊື່ນຍິນດີເມື່ອພາຍຣຸນກໍດີ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະອັນລືຊາປາກົດແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ສຸຂະສຸຂະຊີວີ ຄວາມລ້ຽງຊີບອັນງ່າຍ ແລະເປັນສຸກສະບາຍກໍດີ ຄວາມຊະນະຜາບແພ້ດ້ວຍດີເຫນືອພື້ນແຜ່ນປະຕະພີ ໃນກາລະທຸກເມື່ອ ທຸກຍາມກໍດີ ການຕິດຈອດແຫ່ງແຜ່ນດິນຕ່ຳ ອັນເນື່ອງໄປດ້ວຍຫມູ່ບ້ານແລະນິຄົມກໍດີ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະອັນລືຊາປາກົດແກ່ທ່ານຫມົດສູ່ອັນເຖີ້ນ, ມັງກະຣາລະຍາ ອັນວ່າອາໄລແຫ່ງມັງກອນ ຄືວ່າຣັດສະມີອັນແຜ່ໄປໄກໄດ້ຮ້ອຍແລະພັນອັນມີແສງມາບໆ ແລະເມືອງໆ ແຫ່ງອັນຣົບເຣວກັນເທິງເຫນືອອາກາດ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຍະມຸງຄຸນອັນປະເສີດແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ວະຣຸນນະຍັກເຂ ອັນວ່າເດດແຫ່ງ ວະຣຸນນະຍັກກໍດີ ເດດແຫ່ງເທພະບຸດເທພະດາອາຣັກຂາ ພຣະຍາອິສູນແລະພຣະຍານາກກໍດີ ຫມູ່ແຫ່ງພຣະຍາພົມ ແລະ ຫມູ່ແຫ່ງພຣະຍາອິນທັງຫລາຍ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະມັງຄະລະສະວັດດີແກ່ທ່ານຫມົດສູ່ອັນເຖີ້ນ ຣາຊາທິຣາຊະຊະຍັງ ຄວາມຜະຈົນຜາບແພ້ຍັງທ້າວພຣະຍາຕົນນ້ອຍແລະພຣະຍາຕົນໃຫຍ່ຕົນປະເສີດ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະເດຊາອັນຫມັ້ນຄົງແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ຂໍທ່ານກໍຈົ່ງຜະຈົນຜາບແພ້ຍັງຫມູ່ສັບພະສັດ ແລະ ທ້າວພຣະຍາຂ້າເສິກສັດຕູ ຫມູ່ປັດຈາມິດໃຫຍ່ນ້ອຍທັງມວນ ອັນຢູ່ເຫນືອແຜ່ນດິນນີ້ເຖີ້ນ ອະຣະຫັນຕັງ ປັດເຈກະພຸດທະສາວັງ ພຣະອາຣະຫັນຕາເຈົ້າ ພຣະປັດເຈກະພຸທເຈົ້າ ແລະ ພຣະສາວົກແຫ່ງພຣະພຸທເຈົ້າ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຍະມຸງຄຸນແກ່ທານເຖີ້ນ ມະເຫສຸ ຣັງຄະຫະໂຣຫະຣິນທະເທວາ ພຣະຍາອິສູນຜູ້ເປັນໃຫຍ່ ພຣະຍາອັງຄະຫະຣະ ພຣະຍາຫະຣິນທະເທພະເຈົ້າທັງຫລາຍ ແລະ ພຣະຍາພົມມະສຸຣັກຂະເຈົ້າກໍດີ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະແກ່ທ່ານເຖີ້ນ.
ອັນວ່າພຣະຍານາກ ພຣະຍາວິຣຸລະຫະກະ ພຣະຍາວິລູປັກຂະ ພຣະຈັນ ພຣະອາທິດ ພຣະຍາອິນ ພຣະຍາເວນະໄຕ ພຣະຍາກຸເວຣະ ພຣະຍາວະຣຸນະ ພຣະຍາອັກຄິ ແລະ ພຣະຍາວາຍຸ ພຣະຍາຊຸນຫະ ພຣະຍາກຸມາຣະ ພຣະຍາທະຕະຣັດຖະກະ ເທພະດາທັງຫລາຍຜູ້ໃຫຍ່ທັງສິບແປດຕົນຝູງກ່າວມານີ້ ກໍລ້ວນມີຕະປະເຕຊະນຸພາບອັນມາກ ແລມີດ້ວຍປະການສັນໃດ ຂໍທ່ານຈົ່ງມີໄຊຊະນະຜາບແພ້ຂ້າເສິກສັດຕູຝູງຫມູ່ປັດຈາມິດທັງຫລາຍ ກໍຈົ່ງມີດ້ວຍປະການສັນນັ້ນເຖີ້ນ ສິດທິຕາປະສະອາທະໂຍ ນັກບວດທັງຫລາຍຝູງມີສິດທິການ ອັນມີຣັດສີ ດາບົດເປັນເຄົ້າ ນັກບວດເຈົ້າທັງຫລາຍຝູງປາຖະນາມັກສະແຫວງ ຫາຍັງພຣະນິບພານ ອັນເປັນພຣະສາວົກທັງມວນ ອັນເປັນໄຊນຳມາເຊິ່ງຄວາມຊົມຊື່ນຍິນດີ ກໍຈົ່ງໃຫ້ເກີດແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ທະສະປາໂລຈະ ເທພະດາເຈົ້າຜູ້ຮັກສາຍັງທິດທັງສິບກໍດີ ມັກຄວາມສະຫວັດສະດີໄຊຍະໂຊກທັງ ກໍຈົ່ງມີແກ່ທ່ານ ດ້ວຍເຕຊານຸພາບແຫ່ງໄຊຍະປະກະຣະ ນະສູດນີ້ເຖີ້ນ ຊະຍະໂສດຖີ ອັນວ່າໄຊຍະສິຣິສະວັດສະດີ ກໍຈົ່ງມີແກ່ທ່ານ ດ້ວຍເຕຊານຸພາບແຫ່ງພຣະພຸທເຈົ້າ ພຣະອົງນັ້ນ ຂໍໄຊຍະມຸງ ຄຸນອັນປະເສີດ ຈົ່ງໃຫ້ເກີດມີແກ່ພວກເຮົາທັງຫລາຍເຖີ້ນ ພົມມະຄະນາ ຫມູ່ແຫ່ງພຣະຍາພົມທັງຫລາຍ ອັນມີໃຈຊົມຊື່ນຍິນດີ ກໍເພິ່ງປ່າວເຕືອນບອກຂ່າວໃຫ້ຮູ້ຍັງອັນມີໄຊຊະນະ ແຫ່ງພຣະພຸທເຈົ້າ ຕົນສະແຫວງຫາຍັງຄຸນອັນໃຫຍ່ ໃຕ້ຄ່ວງຕົ້ນໄມ້ ສີມະຫາໂພທິ ຕະທາໃນກາລະຍາມນັ້ນວ່າ: ຊະໂຍປິ ພຸດທັດສະ ສິຣິມະໂຕ ອະຍັງ ມາຣັດສະ ຈະ ປາປິມະໂຕ ປະຣາ ສະໂຍ ອິຕິ ດັ່ງນີ້ ອັນວ່າໄຊຊະນະຜາບແພ້ ພຣະຍາມານກັບທັງເສນາມານ ຍ່ອມມີແກ່ພຣະພຸທເຈົ້າຕົນມີສີຣິ ສ່ວນວ່າຄວາມປະຣາໄຊຜ່າຍແພ້ອັນນີ້ ຍ່ອມມີແກ່ພຣະຍາມານຜູ້ໃຈບາບ ອິນທະຄະນາ ອັນວ່າຫມູ່ແຫ່ງພຣະຍາອິນ ຫມູ່ແຫ່ງເທພະດາທັງຫລາຍ ຫມູ່ແຫ່ງພຣະຍາຄຸດທັງຫລາຍ ຫມູ່ແຫ່ງພຣະຍານາກທັງຫລາຍ ຫມູ່ແຫ່ງເທພະດາ ອະທິສະມານະ ກາຍ ຝູງຢາຍຢັງຢູ່ຄູ່ແຫ່ງຫ້ອງທ້ອງສະຫວັນຊັ້ນວິມານ ໃນແສນໂກດຈັກກະວານທັງມວນກໍດີ ກໍລົ້ນມີຈິດໃຈຊົມຊື່ນຍິນດີແລ້ວກໍເພິ່ງປ່າວເຕືອນບອກຂ່າວສົ່ງສຽງກັນໄປໃຫ້ຮູ້ ເຊິ່ງອັນມີໄຊຊະນະ ຍັງພຣະຍາມານກັບທັງເສນາມານ ແລະ ມະນຸດຝູງເປັນມານ ເມື່ອພຣະພຸດທະເຈົ້າຕົນສະແຫວງຫາຍັງຄຸນອັນໃຫຍ່ ໃນຄ່ວງຕົ້ນໄມ້ສີມະຫາໂພທິ ຕະທາໃນກາລະຍາມນັ້ນວ່າ: ຊະໂຍປິ ພຸດທັດສະ ສິຣິມະໂຕ ອະຍັງ ມາຣັດສະ ຈະ ປາປິມະໂຕ ປະຣາຊະໂຍ ອິຕິ ດັ່ງນີ້ ອັນວ່າໄຊຊະນະຜາບແພ້ຂ້າເສິກສັດຕູ ກັບທັງພຣະຍາມານ ແລະ ເສນາມານທັງມວນ ກໍມີແກ່ພຣະພຸທເຈົ້າຕົນມີສີຣິ ຄວາມພ່າຍແພ້ອັນນີ້ ມີແກ່ພຣະຍາມານຜູ້ໃຈບາບແລ ສັບພັນຍູ ພຸດໂທ ອັນວ່າພຣະພຸທເຈົ້າຕົນຕັດສະຮູ້ແຈ້ງຍັງໂລກທັງມວນ ພຣະກໍໄດ້ໄຊຊະນະຜາບແພ້ ຍັງພຣະຍາມານກັບທັງເສນາມານ ໃນແທບເຄົ້າໄມ້ສີມະຫາໂພທິ ແລະ ໃຫ້ຈຳເຣີນຄວາມຊົມຊື່ນຍິນດີ ແກ່ຊາວສາກະຍະຣາດທັງຫລາຍ ກໍມີດ້ວຍປະການສັນໃດ? ອັນວ່າກິຣິຍາ ອັນຜາບແພ້ຍັງ ສັບພຸປັດທະວັນຕະຣາຍທັງມວນ ກໍຈົ່ງມີແກ່ທ່ານເຖີ້ນ
ພຸດໂທ ອັນວ່າພຣະພຸທເຈົ້າ ຕົນບັນລຸແລ້ວເຊິ່ງຜະຍາສັບພັນ ຍູດຕະຍານອັນປະເສີດ ມີຄວາມຊົມຊື່ນຍິນດີເບີກບານຢູ່ ເຫນືອແທ່ນແກ້ວບ່ອນຜະຈົນຜາບແພ້ພຣະຍາມານ ອັນເປັນໄຊຍະມຸງຄຸນ ເຫນືອໃບບົວ ຄືແຜ່ນດິນອັນເປັນຍອດເປັນຈອມ ເປັນບ່ອນອະພິເສກແຫ່ງພຣະເຈົ້າທັງຫລາຍ ຍະຖາ ແລມີດ້ວຍປະການສັນໃດ ຂໍທ່ານຈົ່ງມີຄວາມຊົມຊື່ນໃນທີ່ທັງມວນ ດ້ວນປະການດັ່ງພຣະພຸທເຈົ້າສັນນັ້ນເຖີ້ນ ທ່ານທັງຫລາຍປະພຶດດີແລ້ວ ໃນເວລາໃດ ເວລານັ້ນ ເປັນຣືກດີ ມຸງຄຸນດີ ເປັນຣັດສະມີຣັງສີດີ ຮຸ່ງເຮືອງດີ ເວລາດີ ເປັນຍາມດີ ອັນຫນຶ່ງ ການບູຊາໃນພົມມະຈະຣີ ບຸກຄົນທັງຫລາຍ ຄືການປະພຶດທາງກາຍ ອັນເປັນກຸສົນສຸຈະຣິດກໍດີ ເວົ້າທາງວາຈາອັນເປັນຄຳດີມີຄຸນປະເສີດກໍດີ ຄິດທາງໃຈ ເປັນການຄິດຖືກກໍດີ ຄວາມປາຖະນາຂອງທ່ານອັນຕັ້ງໄວ້ດີແລ້ວ ເປັນຄວາມປາຖະນາອັນປະເສີດ ຄັນວ່າທ່ານກະທຳແລ້ວ ຍັງສຸຈະຣິດກຳອັນປະເສີດທັງຫລາຍ ທັງທາງກາຍ ວາຈາ ແລະ ໃຈ ກໍບໍ່ເສົ້າຫມອງ ຍ່ອມໄດ້ຍັງປະໂຫຍດທັງຫລາຍ ເປັນປະໂຫຍດອັນປະເສີດແທ້ແລ ທ່ານທັງຫລາຍມີປະໂຫຍດອັນຫາກໄດ້ດີແລ້ວ ເປັນຜູ້ມີຄວາມສຸກກາຍສະບາຍໃຈແລ້ວ ຍ່ອມຈະເຣີນງອກງາມໃນສາສນາພຣະພຸທເຈົ້າ ຂໍທ່ານຈົ່ງເປັນຜູ້ບໍ່ມີໂຣຄາພະຍາດ ຈົ່ງມີແຕ່ຄວາມສຸກທຸກເມື່ອ ພ້ອມດ້ວຍຍາດພີ່ນ້ອງຝູງຫມູ່ວົງສາທັງຫລາຍຄູ່ຄົນເຖີ້ນ.
ໂພນໂຕ ເທວະສັງຄາ ດູຣາຫມູ່ເທພະດາທັງຫລາຍຝູງໃດທີ່ມາເຖິງ ແລະ ສິງສະຖິດຢູ່ໃນສະຖານທີ່ນີ້ ຂໍເທພະດາເຈົ້າທັງຫລາຍຝູງນັ້ນຈົ່ງຟັງຍັງຖ້ອຍຄຳແຫ່ງຝູງຂ້າ ແລະ ຂໍໃຫ້ເປັນຜູ້ມີອາຍຸຫມັ້ນ ຍືນ ໃນກາລະທຸກເມື່ອເຖີ້ນ ຂໍເທພະດາເຈົ້າທັງຫລາຍຝູງນັ້ນ ຈົ່ງມີຄວາມສຸກໃນກາລະທັງປວງເຖີ້ນ ຂໍເທພະດາເຈົ້າທັງຫລາຍຈົ່ງຮັກ ສາຍັງສັບພະສັດທັງຫລາຍ ແລະ ຮັກສາຍັງພຣະສາສນາ ແຫ່ງພຣະພຸທເຈົ້າ ເທົ້າຫ້າພັນພຣະວັດສາພຸ້ນເຖີ້ນ ຍາກາຈິປັດຖະນາ ອັນວ່າຄວາມປາຖະນາເຍື່ອງໃດເຍື່ອງຫນຶ່ງ ຂອງເທພະດາທັງຫຼາຍຝູງນັ້ນ ປຸເຣນຕຸມະໂນຣະຖາ ກໍຈົ່ງເຕັມບໍຣິບູນຕາມໃຈມັກແຫ່ງຕົນເຖີ້ນ ວັດສະວະລາຫະກາ ອັນວ່າເທພະດາເຈົ້າທັງຫລາຍຝູງໃຫ້ຍັງຝົນຊົນລະ ທາຖ່ອງແຖວນ້ຳຟ້າສາຍຝົນ ກໍຈົ່ງດົນບັນດານໃຫ້ຕົກລົງມາດ້ວຍດີໃນກາລະອັນຄວນເຖີ້ນ ອັນວ່າພະຍາດໂຣຄາທັງ ຫລາຍ ກັບທັງອຸປັດທະຣົບອົນຕາຍທັງຫລາຍ ຈົ່ງກັບກ່າຍສູນຫາຍໄປເສັຍສ້ຽງ ຢ່າໄດ້ເສດເຫລືອຫລໍໃນກາລະທັງປວງເຖີ້ນ. ຂໍເດດກຸສົນບຸນອັນເຮົາທັງ ຫລາຍຫາກໄດ້ກະທຳແລ້ວແກ່ເທພະດາທັງຫລາຍຝູງນັ້ນ ຂໍເທພາອາ ຮັກທັງຫລາຍ ຈົ່ງນຳມາໃຫ້ຍັງຄວາມສຸກແກ່ຮ່າງກາຍດ້ວຍ ຍັງຄວາມສຸກແກ່ຈິດໃຈດ້ວຍຕາມສົມຄວນແດ່ກໍ່ຂ້າເຖີ້ນ ຈຸລະໄຊປະກະ ຣະນະສູດ ນິດຖິຕັງກໍ່ແລ້ວເທົ່ານີ້ແລ.
ນະໂມ ຕັດສັຕຖຸ
ນະໂມ ເມ ພຸດທະ ເຕຊັດສະ ຣະຕະນັດຕະຍະທຳມິກາ ເຕຊະປະສິດທິ ປະສິເທວາ ນາຣາຍະປະຣະເມສະວະຣາ ສິດທິພົມມາ ຈະ ອິນທາ ຈະຕຸໂລກາພິຣັກຂະກາ ສະມຸດທາ ພູຕະຄັງຄາ ຈະ ສັບພະສິດທິ ພະວັນຕຸ ເຕຕິ.
ໂພນຕາ ສາທະໂວ ດູຣາສັບປຸຣິສາເຈົ້າທັງຫລາຍ ຊານາພິນຍາຕິປິຕະກາຈະຣິຍາ ອາຈານເຈົ້າຕົນທະຣົນໄວ້ຍັງພຣະໄຕຣປິດົກ ອັນປະກອບດ້ວຍຊານ ແລະ ພິນຍາ ພຣະກໍຫລິງເຫັນຍັງໂພຍພັຍ ອຸປັດທະຣົນອົນຕາຍ ອັນມີພາຍໃນ ແລະ ພາຍນອກຂັນທະສັນດານ ແຫ່ງຄົນ ແລະ ສັບພະສັດທັງຫລາຍ ພຣະຈິ່ງໄດ້ເທສນາຍັງຄຳພີ ຈຸລະຊະຍະປະກະຣະນະ ສູດດວງນີ້ ເພື່ອຈັກໃຫ້ມີຄວາມວຸດທິຈຳເຣີນແກ່ຝູງຄົນ ແລະ ເທວະດາ ພ້ອມທັງບ້ານເມືອງທັງຫລາຍ ຕັ້ງແຮກແຕ່ນີ້ໄປພາຍຫນ້າ ຕາບຕໍ່ເທົ້າຮອດຫ້າພັນພຣະວັດສາພຸ້ນແລ ຈຸນລະໄຊຍະປະກະຣະນະ ສູດດວງນີ້ ອາຈານເຈົ້າຫາກໄດ້ແຕ່ງແປງໄວ້ວ່າ ນະໂມ ເມ ພຸດທະເຕຊັດສະ ຣະຕະນັດຕະຍະທຳມິກາ ດັ່ງນີ້ເປັນເຄົ້າ.
ນະໂມ ອັນວ່າກິຍາ ອັນຜູ້ຂ້າໄດ້ນ້ອມໄຫວ້ແດ່ພຣະຣັດຕະນະໄຕຣແກ້ວທັງ ໓ ປະການ ອັນປະກອບຊອບທຳ ຂໍເທພະດາເຈົ້າທັງ ຫລາຍ ພ້ອມທັງພຣະນາຣາຍພຣະຕັບປະຣະເມສວນ ຜູ້ມີຄວາມຮຸ່ງເຮືອງໄປດ້ວຍປະສິທິສາດທະສິນ ຄືເດດພຣະຍາພົມກໍດີ ພຣະຍາອິນກໍດີ ແລະ ເທພະດາທັງຫລາຍ ຜູ້ຮັກສາຄຸ້ມຄອງຍັງໂລກທັງ ໔ ຄືວ່າ: ພົມມະໂລກ ເທວະໂລກ ມະນຸດສະໂລກ ແລະ ນາຄະວະໂລກ ຈົ່ງເປັນຜູ້ມີອຳນາດຮັກສາຄຸ້ມຄອງຄ້ຳຄູນຫນັ້ນຄົງແກ່ທ່ານເຖີ້ນ, ທະຣະນິ ທາຣະນີ ແຜ່ນດິນນ້ອຍແລະແຜ່ນດິນໃຫຍ່ ສະນ້ຳນ້ອຍແລະສະນ້ຳໃຫຍ່ ແມ່ນ້ຳນ້ອຍແລະແມ່ນ້ຳໃຫຍ່ກໍດີ ອັນມີຕະປະເຕຊານຸພາບອັນມາກມີອຸປະມາສັນໃດ? ຂໍທ່ານຈົ່ງມີໄຊຊະນະເຕຊານຸພາບອັນມາກ ກໍມີອຸປະໄມໄປດັ່ງນັ້ນເຖີ້ນ, ຄັກຄະນະຕະລະນິໄສນິໄລໄສເສລະສຸເມ ຣຸຣາຊະພະນະຣະຊີ ພື້ນປະຕູລາອາກາດກາງຫາວ ແລະ ເຂົາສຸເມຣຸ ຣາດ ແລະ ພຣະຍາພູດອຍດົງຫລວງຂະນາດ ອັນເປັນທີ່ຢູ່ອາໄສນອນແຫ່ງສັບພະສັດທັງຫລາຍ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະເຕຊານຸພາບອັນມາກແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ຄຳພີຣະໂສມພິ ນາເຄນທານາຄີ ພຣະຍານາກແລະນາງນາກທັງຫລາຍ ອັນຢູ່ໃນຫ້ວຍໃນບໍ່ ບຶງ ຖ້ຳ ຫນອງ ແລະ ໂສກເຫວ ອັນເລິກແລະຕື້ນກໍດີ ຜີເຊື້ອນ້ຳແລະຜີເຊື້ອບົກທັງຫລາຍກໍດີ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະຜາບແພ້ຂ້າເສິກສັດຕູທັງມວນ ແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ທຸນນິມິດຕະໂຣຄີ ນິມິດອັນຊົ່ວຮ້າຍແລະພະຍາດທິໂຣຄາ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ມັກວ່າທ່ານທັງຫລາຍຈົ່ງຜະຈົນຜາບແພ້ຍັງນິມິດອັນຊົ່ວຮ້າຍ ແລະ ພະຍາດທິໂຣຄທັງມວນນີ້ເຖີ້ນ ສິງຄິສຸດ ທາ ຄານະມຸຂະຊາ ນໍແຮດແລະເຂົາກວາງຫົດ ອັນເກີດມາແຕ່ຫົວແລະດັງກໍດີ ແຂ້ວຫມູຕັນ ຈັນທະຄາດ ຄຸດແຂງແລະນໍງາ ອັນເກີດມາແຕ່ປາກກໍດີ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະຜາບແພ້ຂ້າເສິກສັດຕູທັງມວນ ແລະເປັນຂອງຄ້ຳຂອງຄູນໃຫ້ແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ຣຸນນະມຸຂະສາຕຣາ ສາຕຣາ ສາດຕະສິນອັນເປັນຂອງກ້າແຂງຫມັ້ນແກ່ນ ອັນອາດນຳອອກເສັຍໄດ້ຍັງສັບພະໂພຍພັຍ ແລະສັບພະສະນຽດຈັງໄຮ ອຸປັດທະວະອົນຕາຍ ອັນໃຫ້ບັງເກີດຍັງຄວາມໂສກເສົ້າແລະຮ້ອງໄຫ້ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ຈຳປາທິນາຄະ ກະກຸຣະກັນຖະກັງ ເຄື່ອງສັງວານແຫ່ງພຣະຍານາກ ຄືດັ່ງສີດອກຈຳປາເປັນຕົ້າ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ຄະຊະຄະນະຕຸຣັງຄະມະສຸກະຣະພຸຊັງຄະສິຫະພະຍັກຄະທິປາ ຫມູ່ຊ້າງ ຫມູ່ແຮດ ຫມູ່ມ້າ ຫມູ່ນາກ ເງືອກ ງູ ຫມູ່ຣາຊະສີ ຫມູ່ເສືອໂຄ່ງແລະເສືອເຫລືອງ ອັນມີເຕຊານຸພາບມາກ ແລະມີດ້ວຍປະການສັນໃດ ຂໍທ່ານກໍ່ຈົ່ງມີໄຊຊະນະເຕຊານຸພາບຜາບແພ້ຂ້າເສິກສັດຕູ ໃນສາກາລະຊົມພູທະວິບທັງມວນ ກໍມີດ້ວຍປະການສັນນັ້ນເຖີ້ນ ຣຸນນະມຸກຂະຍາຕຣາ ສາພາວະອັນໃຫ້ລະງັບດັບເສັຍຍັງຄວາມຮ້ອງໄຫ້ກໍດີ ຄວາມພະຈົນຜາບແພ້ຍັງກຳ ລັງທ້າວພຣະຍາ ແລະເສນາຂ້າເສິກສັດຕູ ແລ້ວມີຄວາມຊົມຊື່ນຍິນດີເມື່ອພາຍຣຸນກໍດີ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະອັນລືຊາປາກົດແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ສຸຂະສຸຂະຊີວີ ຄວາມລ້ຽງຊີບອັນງ່າຍ ແລະເປັນສຸກສະບາຍກໍດີ ຄວາມຊະນະຜາບແພ້ດ້ວຍດີເຫນືອພື້ນແຜ່ນປະຕະພີ ໃນກາລະທຸກເມື່ອ ທຸກຍາມກໍດີ ການຕິດຈອດແຫ່ງແຜ່ນດິນຕ່ຳ ອັນເນື່ອງໄປດ້ວຍຫມູ່ບ້ານແລະນິຄົມກໍດີ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະອັນລືຊາປາກົດແກ່ທ່ານຫມົດສູ່ອັນເຖີ້ນ, ມັງກະຣາລະຍາ ອັນວ່າອາໄລແຫ່ງມັງກອນ ຄືວ່າຣັດສະມີອັນແຜ່ໄປໄກໄດ້ຮ້ອຍແລະພັນອັນມີແສງມາບໆ ແລະເມືອງໆ ແຫ່ງອັນຣົບເຣວກັນເທິງເຫນືອອາກາດ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຍະມຸງຄຸນອັນປະເສີດແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ວະຣຸນນະຍັກເຂ ອັນວ່າເດດແຫ່ງ ວະຣຸນນະຍັກກໍດີ ເດດແຫ່ງເທພະບຸດເທພະດາອາຣັກຂາ ພຣະຍາອິສູນແລະພຣະຍານາກກໍດີ ຫມູ່ແຫ່ງພຣະຍາພົມ ແລະ ຫມູ່ແຫ່ງພຣະຍາອິນທັງຫລາຍ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະມັງຄະລະສະວັດດີແກ່ທ່ານຫມົດສູ່ອັນເຖີ້ນ ຣາຊາທິຣາຊະຊະຍັງ ຄວາມຜະຈົນຜາບແພ້ຍັງທ້າວພຣະຍາຕົນນ້ອຍແລະພຣະຍາຕົນໃຫຍ່ຕົນປະເສີດ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະເດຊາອັນຫມັ້ນຄົງແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ຂໍທ່ານກໍຈົ່ງຜະຈົນຜາບແພ້ຍັງຫມູ່ສັບພະສັດ ແລະ ທ້າວພຣະຍາຂ້າເສິກສັດຕູ ຫມູ່ປັດຈາມິດໃຫຍ່ນ້ອຍທັງມວນ ອັນຢູ່ເຫນືອແຜ່ນດິນນີ້ເຖີ້ນ ອະຣະຫັນຕັງ ປັດເຈກະພຸດທະສາວັງ ພຣະອາຣະຫັນຕາເຈົ້າ ພຣະປັດເຈກະພຸທເຈົ້າ ແລະ ພຣະສາວົກແຫ່ງພຣະພຸທເຈົ້າ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຍະມຸງຄຸນແກ່ທານເຖີ້ນ ມະເຫສຸ ຣັງຄະຫະໂຣຫະຣິນທະເທວາ ພຣະຍາອິສູນຜູ້ເປັນໃຫຍ່ ພຣະຍາອັງຄະຫະຣະ ພຣະຍາຫະຣິນທະເທພະເຈົ້າທັງຫລາຍ ແລະ ພຣະຍາພົມມະສຸຣັກຂະເຈົ້າກໍດີ ກໍຈົ່ງມາເປັນໄຊຊະນະແກ່ທ່ານເຖີ້ນ.
ອັນວ່າພຣະຍານາກ ພຣະຍາວິຣຸລະຫະກະ ພຣະຍາວິລູປັກຂະ ພຣະຈັນ ພຣະອາທິດ ພຣະຍາອິນ ພຣະຍາເວນະໄຕ ພຣະຍາກຸເວຣະ ພຣະຍາວະຣຸນະ ພຣະຍາອັກຄິ ແລະ ພຣະຍາວາຍຸ ພຣະຍາຊຸນຫະ ພຣະຍາກຸມາຣະ ພຣະຍາທະຕະຣັດຖະກະ ເທພະດາທັງຫລາຍຜູ້ໃຫຍ່ທັງສິບແປດຕົນຝູງກ່າວມານີ້ ກໍລ້ວນມີຕະປະເຕຊະນຸພາບອັນມາກ ແລມີດ້ວຍປະການສັນໃດ ຂໍທ່ານຈົ່ງມີໄຊຊະນະຜາບແພ້ຂ້າເສິກສັດຕູຝູງຫມູ່ປັດຈາມິດທັງຫລາຍ ກໍຈົ່ງມີດ້ວຍປະການສັນນັ້ນເຖີ້ນ ສິດທິຕາປະສະອາທະໂຍ ນັກບວດທັງຫລາຍຝູງມີສິດທິການ ອັນມີຣັດສີ ດາບົດເປັນເຄົ້າ ນັກບວດເຈົ້າທັງຫລາຍຝູງປາຖະນາມັກສະແຫວງ ຫາຍັງພຣະນິບພານ ອັນເປັນພຣະສາວົກທັງມວນ ອັນເປັນໄຊນຳມາເຊິ່ງຄວາມຊົມຊື່ນຍິນດີ ກໍຈົ່ງໃຫ້ເກີດແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ທະສະປາໂລຈະ ເທພະດາເຈົ້າຜູ້ຮັກສາຍັງທິດທັງສິບກໍດີ ມັກຄວາມສະຫວັດສະດີໄຊຍະໂຊກທັງ ກໍຈົ່ງມີແກ່ທ່ານ ດ້ວຍເຕຊານຸພາບແຫ່ງໄຊຍະປະກະຣະ ນະສູດນີ້ເຖີ້ນ ຊະຍະໂສດຖີ ອັນວ່າໄຊຍະສິຣິສະວັດສະດີ ກໍຈົ່ງມີແກ່ທ່ານ ດ້ວຍເຕຊານຸພາບແຫ່ງພຣະພຸທເຈົ້າ ພຣະອົງນັ້ນ ຂໍໄຊຍະມຸງ ຄຸນອັນປະເສີດ ຈົ່ງໃຫ້ເກີດມີແກ່ພວກເຮົາທັງຫລາຍເຖີ້ນ ພົມມະຄະນາ ຫມູ່ແຫ່ງພຣະຍາພົມທັງຫລາຍ ອັນມີໃຈຊົມຊື່ນຍິນດີ ກໍເພິ່ງປ່າວເຕືອນບອກຂ່າວໃຫ້ຮູ້ຍັງອັນມີໄຊຊະນະ ແຫ່ງພຣະພຸທເຈົ້າ ຕົນສະແຫວງຫາຍັງຄຸນອັນໃຫຍ່ ໃຕ້ຄ່ວງຕົ້ນໄມ້ ສີມະຫາໂພທິ ຕະທາໃນກາລະຍາມນັ້ນວ່າ: ຊະໂຍປິ ພຸດທັດສະ ສິຣິມະໂຕ ອະຍັງ ມາຣັດສະ ຈະ ປາປິມະໂຕ ປະຣາ ສະໂຍ ອິຕິ ດັ່ງນີ້ ອັນວ່າໄຊຊະນະຜາບແພ້ ພຣະຍາມານກັບທັງເສນາມານ ຍ່ອມມີແກ່ພຣະພຸທເຈົ້າຕົນມີສີຣິ ສ່ວນວ່າຄວາມປະຣາໄຊຜ່າຍແພ້ອັນນີ້ ຍ່ອມມີແກ່ພຣະຍາມານຜູ້ໃຈບາບ ອິນທະຄະນາ ອັນວ່າຫມູ່ແຫ່ງພຣະຍາອິນ ຫມູ່ແຫ່ງເທພະດາທັງຫລາຍ ຫມູ່ແຫ່ງພຣະຍາຄຸດທັງຫລາຍ ຫມູ່ແຫ່ງພຣະຍານາກທັງຫລາຍ ຫມູ່ແຫ່ງເທພະດາ ອະທິສະມານະ ກາຍ ຝູງຢາຍຢັງຢູ່ຄູ່ແຫ່ງຫ້ອງທ້ອງສະຫວັນຊັ້ນວິມານ ໃນແສນໂກດຈັກກະວານທັງມວນກໍດີ ກໍລົ້ນມີຈິດໃຈຊົມຊື່ນຍິນດີແລ້ວກໍເພິ່ງປ່າວເຕືອນບອກຂ່າວສົ່ງສຽງກັນໄປໃຫ້ຮູ້ ເຊິ່ງອັນມີໄຊຊະນະ ຍັງພຣະຍາມານກັບທັງເສນາມານ ແລະ ມະນຸດຝູງເປັນມານ ເມື່ອພຣະພຸດທະເຈົ້າຕົນສະແຫວງຫາຍັງຄຸນອັນໃຫຍ່ ໃນຄ່ວງຕົ້ນໄມ້ສີມະຫາໂພທິ ຕະທາໃນກາລະຍາມນັ້ນວ່າ: ຊະໂຍປິ ພຸດທັດສະ ສິຣິມະໂຕ ອະຍັງ ມາຣັດສະ ຈະ ປາປິມະໂຕ ປະຣາຊະໂຍ ອິຕິ ດັ່ງນີ້ ອັນວ່າໄຊຊະນະຜາບແພ້ຂ້າເສິກສັດຕູ ກັບທັງພຣະຍາມານ ແລະ ເສນາມານທັງມວນ ກໍມີແກ່ພຣະພຸທເຈົ້າຕົນມີສີຣິ ຄວາມພ່າຍແພ້ອັນນີ້ ມີແກ່ພຣະຍາມານຜູ້ໃຈບາບແລ ສັບພັນຍູ ພຸດໂທ ອັນວ່າພຣະພຸທເຈົ້າຕົນຕັດສະຮູ້ແຈ້ງຍັງໂລກທັງມວນ ພຣະກໍໄດ້ໄຊຊະນະຜາບແພ້ ຍັງພຣະຍາມານກັບທັງເສນາມານ ໃນແທບເຄົ້າໄມ້ສີມະຫາໂພທິ ແລະ ໃຫ້ຈຳເຣີນຄວາມຊົມຊື່ນຍິນດີ ແກ່ຊາວສາກະຍະຣາດທັງຫລາຍ ກໍມີດ້ວຍປະການສັນໃດ? ອັນວ່າກິຣິຍາ ອັນຜາບແພ້ຍັງ ສັບພຸປັດທະວັນຕະຣາຍທັງມວນ ກໍຈົ່ງມີແກ່ທ່ານເຖີ້ນ
ພຸດໂທ ອັນວ່າພຣະພຸທເຈົ້າ ຕົນບັນລຸແລ້ວເຊິ່ງຜະຍາສັບພັນ ຍູດຕະຍານອັນປະເສີດ ມີຄວາມຊົມຊື່ນຍິນດີເບີກບານຢູ່ ເຫນືອແທ່ນແກ້ວບ່ອນຜະຈົນຜາບແພ້ພຣະຍາມານ ອັນເປັນໄຊຍະມຸງຄຸນ ເຫນືອໃບບົວ ຄືແຜ່ນດິນອັນເປັນຍອດເປັນຈອມ ເປັນບ່ອນອະພິເສກແຫ່ງພຣະເຈົ້າທັງຫລາຍ ຍະຖາ ແລມີດ້ວຍປະການສັນໃດ ຂໍທ່ານຈົ່ງມີຄວາມຊົມຊື່ນໃນທີ່ທັງມວນ ດ້ວນປະການດັ່ງພຣະພຸທເຈົ້າສັນນັ້ນເຖີ້ນ ທ່ານທັງຫລາຍປະພຶດດີແລ້ວ ໃນເວລາໃດ ເວລານັ້ນ ເປັນຣືກດີ ມຸງຄຸນດີ ເປັນຣັດສະມີຣັງສີດີ ຮຸ່ງເຮືອງດີ ເວລາດີ ເປັນຍາມດີ ອັນຫນຶ່ງ ການບູຊາໃນພົມມະຈະຣີ ບຸກຄົນທັງຫລາຍ ຄືການປະພຶດທາງກາຍ ອັນເປັນກຸສົນສຸຈະຣິດກໍດີ ເວົ້າທາງວາຈາອັນເປັນຄຳດີມີຄຸນປະເສີດກໍດີ ຄິດທາງໃຈ ເປັນການຄິດຖືກກໍດີ ຄວາມປາຖະນາຂອງທ່ານອັນຕັ້ງໄວ້ດີແລ້ວ ເປັນຄວາມປາຖະນາອັນປະເສີດ ຄັນວ່າທ່ານກະທຳແລ້ວ ຍັງສຸຈະຣິດກຳອັນປະເສີດທັງຫລາຍ ທັງທາງກາຍ ວາຈາ ແລະ ໃຈ ກໍບໍ່ເສົ້າຫມອງ ຍ່ອມໄດ້ຍັງປະໂຫຍດທັງຫລາຍ ເປັນປະໂຫຍດອັນປະເສີດແທ້ແລ ທ່ານທັງຫລາຍມີປະໂຫຍດອັນຫາກໄດ້ດີແລ້ວ ເປັນຜູ້ມີຄວາມສຸກກາຍສະບາຍໃຈແລ້ວ ຍ່ອມຈະເຣີນງອກງາມໃນສາສນາພຣະພຸທເຈົ້າ ຂໍທ່ານຈົ່ງເປັນຜູ້ບໍ່ມີໂຣຄາພະຍາດ ຈົ່ງມີແຕ່ຄວາມສຸກທຸກເມື່ອ ພ້ອມດ້ວຍຍາດພີ່ນ້ອງຝູງຫມູ່ວົງສາທັງຫລາຍຄູ່ຄົນເຖີ້ນ.
ໂພນໂຕ ເທວະສັງຄາ ດູຣາຫມູ່ເທພະດາທັງຫລາຍຝູງໃດທີ່ມາເຖິງ ແລະ ສິງສະຖິດຢູ່ໃນສະຖານທີ່ນີ້ ຂໍເທພະດາເຈົ້າທັງຫລາຍຝູງນັ້ນຈົ່ງຟັງຍັງຖ້ອຍຄຳແຫ່ງຝູງຂ້າ ແລະ ຂໍໃຫ້ເປັນຜູ້ມີອາຍຸຫມັ້ນ ຍືນ ໃນກາລະທຸກເມື່ອເຖີ້ນ ຂໍເທພະດາເຈົ້າທັງຫລາຍຝູງນັ້ນ ຈົ່ງມີຄວາມສຸກໃນກາລະທັງປວງເຖີ້ນ ຂໍເທພະດາເຈົ້າທັງຫລາຍຈົ່ງຮັກ ສາຍັງສັບພະສັດທັງຫລາຍ ແລະ ຮັກສາຍັງພຣະສາສນາ ແຫ່ງພຣະພຸທເຈົ້າ ເທົ້າຫ້າພັນພຣະວັດສາພຸ້ນເຖີ້ນ ຍາກາຈິປັດຖະນາ ອັນວ່າຄວາມປາຖະນາເຍື່ອງໃດເຍື່ອງຫນຶ່ງ ຂອງເທພະດາທັງຫຼາຍຝູງນັ້ນ ປຸເຣນຕຸມະໂນຣະຖາ ກໍຈົ່ງເຕັມບໍຣິບູນຕາມໃຈມັກແຫ່ງຕົນເຖີ້ນ ວັດສະວະລາຫະກາ ອັນວ່າເທພະດາເຈົ້າທັງຫລາຍຝູງໃຫ້ຍັງຝົນຊົນລະ ທາຖ່ອງແຖວນ້ຳຟ້າສາຍຝົນ ກໍຈົ່ງດົນບັນດານໃຫ້ຕົກລົງມາດ້ວຍດີໃນກາລະອັນຄວນເຖີ້ນ ອັນວ່າພະຍາດໂຣຄາທັງ ຫລາຍ ກັບທັງອຸປັດທະຣົບອົນຕາຍທັງຫລາຍ ຈົ່ງກັບກ່າຍສູນຫາຍໄປເສັຍສ້ຽງ ຢ່າໄດ້ເສດເຫລືອຫລໍໃນກາລະທັງປວງເຖີ້ນ. ຂໍເດດກຸສົນບຸນອັນເຮົາທັງ ຫລາຍຫາກໄດ້ກະທຳແລ້ວແກ່ເທພະດາທັງຫລາຍຝູງນັ້ນ ຂໍເທພາອາ ຮັກທັງຫລາຍ ຈົ່ງນຳມາໃຫ້ຍັງຄວາມສຸກແກ່ຮ່າງກາຍດ້ວຍ ຍັງຄວາມສຸກແກ່ຈິດໃຈດ້ວຍຕາມສົມຄວນແດ່ກໍ່ຂ້າເຖີ້ນ ຈຸລະໄຊປະກະ ຣະນະສູດ ນິດຖິຕັງກໍ່ແລ້ວເທົ່ານີ້ແລ.
ທິບພະມົນ
ທິບພະມົນ
ນະໂມ ຕັດສັຕຖຸ ຣະຕະຣັຕຕະຍັສສະ !
ມາ ຂະໂຍ ມາ ວະໂຍ ຕຸຍຫັງ ມາ ຈະ ໂກຈິອຸປັທທະໂວ ຍະຖາ ທັນຍະທາຣາ ທະນັນຊະຍັສສະ ຄະເຣ ປະວັສສັນຕຸ. ມາ ຂະໂຍ ມາ ວະໂຍ ຕຸຍຫັງ ມາ ຈະ ໂກຈິອຸປັທທະໂວ ຍະຖາ ການຈະນາມິ ອຸກຄະຕັດສະ ຄະເຣ ປະວັສສັນຕຸ. ມາ ຂະໂຍມາ ວະໂຍຕຸຍຫັງ ມາ ຈະ ໂກຈິ ອຸປັດທະໂວ ຍະຖາ ການຈະນະຄິຣິສັງກາໂສ ຊະຕິລັດສະ ຄະເຣ ອຸປັດຊະຕິ. ມາ ຂະໂຍ ມາ ວະໂຍ ຕຸຍຫັງ ມາ ຈະ ໂກຈິອຸປັທທະໂວ ຍະຖາ ກະຫາປະນານິ ມັນທາຕຸຣາຊິໂນ ຄະເຣ ປະວັສສັນຕຸ. ມາ ຂະໂຍ ມາ ວະໂຍ ຕຸຍຫັງ ມາ ຈະ ໂກຈິອຸປັທທະໂວ ຍະຖາ ສັບພະທະນານິ ປຸນນະກັດສະ ຄະເຣ ປະວັດສັນຕຸ ມາ ຂະໂຍມາ ວະໂຍຕຸຍຫັງ ມາ ຈະ ໂກຈິ ອຸປັດທະໂວ ຍະຖາ ສັດຕະຣະຕະນະວັດສານິເວດສັນຕະຣັດສະ ຄະເຣ ປະວັດສັນຕຸຕິ.
ໂພ ສາທະໂວ ດູຣາສັບປຸຣິສາທັງຫຼາຍ ໂກຈິອຸປັດທະໂວ ອັນວ່າຄວາມກັງວົນອົນຕາຍ ອັນໃດອັນໜຶ່ງກໍດີ ກໍຢ່າໄດ້ບັງເກີດມີແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ໂກຈິປະຣິໂພໂຄ ອັນວ່າເຂົ້າຂອງເຄື່ອງບໍລິໂພກ ອັນໃດອັນໜຶ່ງກໍດີ ມາຂະໂຍມາວະໂຍ ກໍຢ່າສ້ຽງໄປເໝີດໄປແກ່ທ່ານເຖີ້ນ. ທັນຍະທາຣາ ອັນວ່າຖ່ອງແຖວເຂົ້າເປືອກທັງຫຼາຍກໍຈົ່ງຕົກລົງມາ ຄະເຣ ໃນເຮືອນແຫ່ງທະນັນໄຊຍະເສດຖີ ແລ ມີດ້ວຍປະການສັນໃດ ອັນວ່າຖ່ອງແຖວເຂົ້າເປືອກທັງຫຼາຍກໍໃຫ້ຕົກລົງມາ ຄະເຣໃນຢ້າວເຮືອນແຫ່ງທ່ານ ກໍມີດ້ວຍປະການສັນນັ້ນເຖີ້ນ ກ່າວຄືວ່າຄວາມສ້ຽງໄປເໝີດໄປແຫ່ງວັດຖຸເຂົ້າຂອງເຄື່ອງບໍລິໂພກ ກໍດີແລ ຄວາມກັງວົນອົນຕາຍອັນໃດອັນໜຶ່ງກໍດີ ກໍຢ່າໄດ້ບັງເກີດມີແກ່ທ່ານເຖີ້ນ. ອີກປະການໜຶ່ງ ໂກຈິ ປະຣິໂພໂຄ ອັນວ່າເຂົ້າຂອງກອງແກ້ວ ອັນໃດອັນໜຶ່ງກໍດີກໍຢ່າໄດ້ບົກໄດ້ແຫ້ງໄປແກ່ທານເຖີ້ນ. ການຈະນານິ ອັນວ່າເງິນແລະຄຳທັງຫຼາຍ ກໍຕົກລົງມາ ຄະເຣ ໃນເຮືອນແຫ່ງອຸກຄະເສດຖີ ແລມີອຸປະມາສັນໃດ ອັນວ່າເງິນ ແລະ ຄຳທັງຫຼາຍ ກໍຈົ່ງຫຼັງໄຫຼລົງມາ ຄະເຣ ໃນຢ້າວເຮືອນແຫ່ງທ່ານ ກໍມີອຸປະມາສັນນັ້ນເຖີ້ນ. ໂກຈິ ອຸປັທທະໂວ ອັນວ່າອຸປັດທະວະເຫດຮ້າຍອົນຕຼາຍ ອັນໃດອັນໜຶ່ງກໍດີ ກໍຢ່າໄດ້ບັງເກີດມີແກ່ທ່ານທັງຫຼາຍເຖີ້ນ.
ອັນໜຶ່ງ ໂກຈິ ປະຣິໂພໂຄ ອັນວ່າວັດຖຸເຂົ້າຂອງເຄື່ອງບໍລິໂພກ ທີ່ໄດ້ເສຍສະລະວາງໄປໃຫ້ເປັນທານແລ້ວ ອັນໃດອັນໜຶ່ງກໍດີ ກໍຢ່າໄດ້ບົກໄດ້ແຫ້ງໄປແກ່ທ່ານເຖີ້ນ. ການຈະນະຄິຣິສັງກາໂສ ອັນວ່າດອຍຄຳອັນສູງໄດ້ແປດສອກ ກໍເກີດມີມາໃນກຳລັງແຫ່ງຊະດິນເສດຖີ ແລມີດ້ວຍປະການສັນໃດ ອັນວ່າເງິນແລະຄຳອັນເປັນພູດອຍ ກໍຈົ່ງບັງເກີດມີແກ່ທ່ານທັງຫຼາຍດ້ວຍປະການສັນນັ້ນເຖີ້ນ. ອັນວ່າອຸປັທທະວະອົນຕຼາຍທັງ ຫຼາຍ ອັນໃດອັນໜຶ່ງກໍດີ ກໍຢ່າໄດ້ເກີດມີແກ່ທ່ານເຖີ້ນ.
ອີກປະການໜຶ່ງ ອັນວ່າວັດຖຸເຂົ້າຂອງເຄື່ອງບໍລິໂພກ ອັນໄດ້ໃຫ້ທານໄປແລ້ວ ກ່າວຄືວ່າເງິນແລະຄຳ ແກ້ວ ແຫວນ ເສື້ອຜ້າອາພອນ ອັນໃດອັນໜຶ່ງກໍດີ ກໍຢ່າໄດ້ສ້ຽງໄປເໝີດໄປກໍຂ້າແລ. ກະຫາປະນານິ ອັນວ່າກະຫາປະນະຄືວ່າເງິນຄຳທັງຫຼາຍ ກໍຕົກລົງມາ ຄະເຣ ໃນຢ້າວເຮືອນຫໍໂຮງແຫ່ງພະຍາມັນທາຕຸຣາດ ດ້ວຍປະການອັນໃດ ອັນວ່າເຂົ້າຂອງກອງແກ້ວ ແລະ ເງິນຄຳທັງຫຼາຍ ກໍຈົ່ງຕົກລົງມາ ຄະເຣ ໃນຢ້າວເຮືອນແຫ່ງທ່ານທັງຫຼາຍ ດ້ວຍປະການສັນນັ້ນເຖີ້ນ. ສ່ວນອັນວ່າຄຳກັງວົນອົນຕາຍ ເຍື່ອງໃດເຍື່ອງໜຶ່ງກໍດີ ກໍຢ່າໄດ້ບັງເກີດມີແກ່ທ່ານ ພ້ອມທັງເຂົ້າຂອງເຄື່ອງບໍລິໂພກ ອັນໃດອັນໜຶ່ງກໍດີ ກໍຢ່າໄດ້ສ້ຽງໄປໝົດໄປແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ສັບພະທະນານິ ອັນວ່າຊັບສົມບັດເຂົ້າຂອງທັງມວນ ອັນຕົກລົງມາຄະເຣ ໃນເຮືອນແຫ່ງປຸນນະກະເສດຖີ ແລມີອຸປະມາສັນໃດ ອັນວ່າຊັບສົມບັດເຂົ້າຂອງເຫຼົ່ານັ້ນ ກໍຈົ່ງຕົກລົງມາ ຄະເຣ ໃນຢ້າວເຮືອນຂອງທ່ານດ້ວຍປະການສັນນັ້ນເຖີ້ນ. ກັບທັງຄວາມກັງວົນອົນຕຼາຍ ທັງຫຼາຍ ເປັນຕົ້ນວ່າ ຄວາມບໍ່ສຳບາຍເດືອດເນື້ອຮ້ອນໃຈ ເຈັບໄຂ ທຸກໂສກ ໄໝ້ໝອງໃຈ ແລະ ຮ້ອງໄຫ້ຕ່າງໆກໍຢ່າໄດ້ບັງເກີດມີແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ອີກປະການໜຶ່ງ ອັນວ່າເຂົ້າຂອງເຄື່ອງບໍລິໂພກ ອັນໃດອັນໜຶ່ງກໍດີ ຄືວ່າເງິນຄຳແກ້ວແຫວນ ເສື້ອຜ້າອາພອນ ແລະ ເຂົ້ານ້ຳໂພຊະນະອາຫານກໍຢ່າໄດ້ສ້ຽງ ໄດ້ເໝີດແກ່ທ່ານແລ. ສັຕຕະຣະຕະນະວັສສານິ ອັນວ່າຫາຝົນແກ້ວ ໗ ປະການ ອັນຕົກລົງມາ ໃນຄ່ວງຄຸ້ມຜາສາດຣາຊວັງຫຼວງແຫ່ງພະຍາເວດສັນດອນ ປາງເມື່ອເປັນຣັດສີຕົນສຶກໃໝ່ ສະເດັດຈາກປ່າໄມ້ເຂົ້າມາເມືອງວັນນັ້ນ ກໍມີດ້ວຍປະການສັນໃດ ອັນວ່າຫ່າຝົນແກ້ວ ໗ ປະການຄື: ແກ້ວປັທທະມະຣາດເຫຼື້ອມເຫຼືອຕາ ແກ້ວພິລາງາມພົ້ນພຸ່ງ ແກ້ວປະພານມີແສງເຮືອງຮຸ່ງ ແກ້ວມະນີພຸ່ງຣັສສະໝີ ແກ້ວພິທູນມີຄ່າມາກ ແກ້ວວະສີຣະຫຼາກອາພາ ແກ້ວມຸກດາງາມຊ້ອຍໂຊດ ເງິນຄຳໂສດເຫຼືອຫຼາຍ ກໍຈົ່ງຕົກລົງມາຢາຍຢັງຢາດເຢຽຣະດາດເຕັມບ້ານເຕັມເຮືອນ ຂອງທ່ານເຈົ້າມູລສັດທາອັນມີເຈົ້າເຮືອນເປັນເຄົ້າ ກັບທັງຂໍຢ່ໃຫ້ພວກທ່ານໂສກເສົ້າ ທຸກຍາກໄຮ້ເຂັນໃຈສັງສັກເທື່ອກໍຂ້າເທີ້ນ.
ເທສະໜາ ປະຣິໂຍສະເນ ໃນເມື່ອແລ້ວສັທທັມມະເທສະໜາ ຂໍໃຫ້ເຈົ້າມູລສັທທາທັງຫຼາຍ ຈົ່ງໄດ້ດັ່ງຄຳມັກ ຄຳປາດຖະໜາສົມດັ່ງກ່າວມາແລ້ວແຕ່ຫົນຫຼັງ ນິຕຖີຕັງ ກໍສະເດັດບໍລະບວນຄວນເທົ່ານີ້ກໍແລ.
ນະໂມ ຕັດສັຕຖຸ ຣະຕະຣັຕຕະຍັສສະ !
ມາ ຂະໂຍ ມາ ວະໂຍ ຕຸຍຫັງ ມາ ຈະ ໂກຈິອຸປັທທະໂວ ຍະຖາ ທັນຍະທາຣາ ທະນັນຊະຍັສສະ ຄະເຣ ປະວັສສັນຕຸ. ມາ ຂະໂຍ ມາ ວະໂຍ ຕຸຍຫັງ ມາ ຈະ ໂກຈິອຸປັທທະໂວ ຍະຖາ ການຈະນາມິ ອຸກຄະຕັດສະ ຄະເຣ ປະວັສສັນຕຸ. ມາ ຂະໂຍມາ ວະໂຍຕຸຍຫັງ ມາ ຈະ ໂກຈິ ອຸປັດທະໂວ ຍະຖາ ການຈະນະຄິຣິສັງກາໂສ ຊະຕິລັດສະ ຄະເຣ ອຸປັດຊະຕິ. ມາ ຂະໂຍ ມາ ວະໂຍ ຕຸຍຫັງ ມາ ຈະ ໂກຈິອຸປັທທະໂວ ຍະຖາ ກະຫາປະນານິ ມັນທາຕຸຣາຊິໂນ ຄະເຣ ປະວັສສັນຕຸ. ມາ ຂະໂຍ ມາ ວະໂຍ ຕຸຍຫັງ ມາ ຈະ ໂກຈິອຸປັທທະໂວ ຍະຖາ ສັບພະທະນານິ ປຸນນະກັດສະ ຄະເຣ ປະວັດສັນຕຸ ມາ ຂະໂຍມາ ວະໂຍຕຸຍຫັງ ມາ ຈະ ໂກຈິ ອຸປັດທະໂວ ຍະຖາ ສັດຕະຣະຕະນະວັດສານິເວດສັນຕະຣັດສະ ຄະເຣ ປະວັດສັນຕຸຕິ.
ໂພ ສາທະໂວ ດູຣາສັບປຸຣິສາທັງຫຼາຍ ໂກຈິອຸປັດທະໂວ ອັນວ່າຄວາມກັງວົນອົນຕາຍ ອັນໃດອັນໜຶ່ງກໍດີ ກໍຢ່າໄດ້ບັງເກີດມີແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ໂກຈິປະຣິໂພໂຄ ອັນວ່າເຂົ້າຂອງເຄື່ອງບໍລິໂພກ ອັນໃດອັນໜຶ່ງກໍດີ ມາຂະໂຍມາວະໂຍ ກໍຢ່າສ້ຽງໄປເໝີດໄປແກ່ທ່ານເຖີ້ນ. ທັນຍະທາຣາ ອັນວ່າຖ່ອງແຖວເຂົ້າເປືອກທັງຫຼາຍກໍຈົ່ງຕົກລົງມາ ຄະເຣ ໃນເຮືອນແຫ່ງທະນັນໄຊຍະເສດຖີ ແລ ມີດ້ວຍປະການສັນໃດ ອັນວ່າຖ່ອງແຖວເຂົ້າເປືອກທັງຫຼາຍກໍໃຫ້ຕົກລົງມາ ຄະເຣໃນຢ້າວເຮືອນແຫ່ງທ່ານ ກໍມີດ້ວຍປະການສັນນັ້ນເຖີ້ນ ກ່າວຄືວ່າຄວາມສ້ຽງໄປເໝີດໄປແຫ່ງວັດຖຸເຂົ້າຂອງເຄື່ອງບໍລິໂພກ ກໍດີແລ ຄວາມກັງວົນອົນຕາຍອັນໃດອັນໜຶ່ງກໍດີ ກໍຢ່າໄດ້ບັງເກີດມີແກ່ທ່ານເຖີ້ນ. ອີກປະການໜຶ່ງ ໂກຈິ ປະຣິໂພໂຄ ອັນວ່າເຂົ້າຂອງກອງແກ້ວ ອັນໃດອັນໜຶ່ງກໍດີກໍຢ່າໄດ້ບົກໄດ້ແຫ້ງໄປແກ່ທານເຖີ້ນ. ການຈະນານິ ອັນວ່າເງິນແລະຄຳທັງຫຼາຍ ກໍຕົກລົງມາ ຄະເຣ ໃນເຮືອນແຫ່ງອຸກຄະເສດຖີ ແລມີອຸປະມາສັນໃດ ອັນວ່າເງິນ ແລະ ຄຳທັງຫຼາຍ ກໍຈົ່ງຫຼັງໄຫຼລົງມາ ຄະເຣ ໃນຢ້າວເຮືອນແຫ່ງທ່ານ ກໍມີອຸປະມາສັນນັ້ນເຖີ້ນ. ໂກຈິ ອຸປັທທະໂວ ອັນວ່າອຸປັດທະວະເຫດຮ້າຍອົນຕຼາຍ ອັນໃດອັນໜຶ່ງກໍດີ ກໍຢ່າໄດ້ບັງເກີດມີແກ່ທ່ານທັງຫຼາຍເຖີ້ນ.
ອັນໜຶ່ງ ໂກຈິ ປະຣິໂພໂຄ ອັນວ່າວັດຖຸເຂົ້າຂອງເຄື່ອງບໍລິໂພກ ທີ່ໄດ້ເສຍສະລະວາງໄປໃຫ້ເປັນທານແລ້ວ ອັນໃດອັນໜຶ່ງກໍດີ ກໍຢ່າໄດ້ບົກໄດ້ແຫ້ງໄປແກ່ທ່ານເຖີ້ນ. ການຈະນະຄິຣິສັງກາໂສ ອັນວ່າດອຍຄຳອັນສູງໄດ້ແປດສອກ ກໍເກີດມີມາໃນກຳລັງແຫ່ງຊະດິນເສດຖີ ແລມີດ້ວຍປະການສັນໃດ ອັນວ່າເງິນແລະຄຳອັນເປັນພູດອຍ ກໍຈົ່ງບັງເກີດມີແກ່ທ່ານທັງຫຼາຍດ້ວຍປະການສັນນັ້ນເຖີ້ນ. ອັນວ່າອຸປັທທະວະອົນຕຼາຍທັງ ຫຼາຍ ອັນໃດອັນໜຶ່ງກໍດີ ກໍຢ່າໄດ້ເກີດມີແກ່ທ່ານເຖີ້ນ.
ອີກປະການໜຶ່ງ ອັນວ່າວັດຖຸເຂົ້າຂອງເຄື່ອງບໍລິໂພກ ອັນໄດ້ໃຫ້ທານໄປແລ້ວ ກ່າວຄືວ່າເງິນແລະຄຳ ແກ້ວ ແຫວນ ເສື້ອຜ້າອາພອນ ອັນໃດອັນໜຶ່ງກໍດີ ກໍຢ່າໄດ້ສ້ຽງໄປເໝີດໄປກໍຂ້າແລ. ກະຫາປະນານິ ອັນວ່າກະຫາປະນະຄືວ່າເງິນຄຳທັງຫຼາຍ ກໍຕົກລົງມາ ຄະເຣ ໃນຢ້າວເຮືອນຫໍໂຮງແຫ່ງພະຍາມັນທາຕຸຣາດ ດ້ວຍປະການອັນໃດ ອັນວ່າເຂົ້າຂອງກອງແກ້ວ ແລະ ເງິນຄຳທັງຫຼາຍ ກໍຈົ່ງຕົກລົງມາ ຄະເຣ ໃນຢ້າວເຮືອນແຫ່ງທ່ານທັງຫຼາຍ ດ້ວຍປະການສັນນັ້ນເຖີ້ນ. ສ່ວນອັນວ່າຄຳກັງວົນອົນຕາຍ ເຍື່ອງໃດເຍື່ອງໜຶ່ງກໍດີ ກໍຢ່າໄດ້ບັງເກີດມີແກ່ທ່ານ ພ້ອມທັງເຂົ້າຂອງເຄື່ອງບໍລິໂພກ ອັນໃດອັນໜຶ່ງກໍດີ ກໍຢ່າໄດ້ສ້ຽງໄປໝົດໄປແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ສັບພະທະນານິ ອັນວ່າຊັບສົມບັດເຂົ້າຂອງທັງມວນ ອັນຕົກລົງມາຄະເຣ ໃນເຮືອນແຫ່ງປຸນນະກະເສດຖີ ແລມີອຸປະມາສັນໃດ ອັນວ່າຊັບສົມບັດເຂົ້າຂອງເຫຼົ່ານັ້ນ ກໍຈົ່ງຕົກລົງມາ ຄະເຣ ໃນຢ້າວເຮືອນຂອງທ່ານດ້ວຍປະການສັນນັ້ນເຖີ້ນ. ກັບທັງຄວາມກັງວົນອົນຕຼາຍ ທັງຫຼາຍ ເປັນຕົ້ນວ່າ ຄວາມບໍ່ສຳບາຍເດືອດເນື້ອຮ້ອນໃຈ ເຈັບໄຂ ທຸກໂສກ ໄໝ້ໝອງໃຈ ແລະ ຮ້ອງໄຫ້ຕ່າງໆກໍຢ່າໄດ້ບັງເກີດມີແກ່ທ່ານເຖີ້ນ ອີກປະການໜຶ່ງ ອັນວ່າເຂົ້າຂອງເຄື່ອງບໍລິໂພກ ອັນໃດອັນໜຶ່ງກໍດີ ຄືວ່າເງິນຄຳແກ້ວແຫວນ ເສື້ອຜ້າອາພອນ ແລະ ເຂົ້ານ້ຳໂພຊະນະອາຫານກໍຢ່າໄດ້ສ້ຽງ ໄດ້ເໝີດແກ່ທ່ານແລ. ສັຕຕະຣະຕະນະວັສສານິ ອັນວ່າຫາຝົນແກ້ວ ໗ ປະການ ອັນຕົກລົງມາ ໃນຄ່ວງຄຸ້ມຜາສາດຣາຊວັງຫຼວງແຫ່ງພະຍາເວດສັນດອນ ປາງເມື່ອເປັນຣັດສີຕົນສຶກໃໝ່ ສະເດັດຈາກປ່າໄມ້ເຂົ້າມາເມືອງວັນນັ້ນ ກໍມີດ້ວຍປະການສັນໃດ ອັນວ່າຫ່າຝົນແກ້ວ ໗ ປະການຄື: ແກ້ວປັທທະມະຣາດເຫຼື້ອມເຫຼືອຕາ ແກ້ວພິລາງາມພົ້ນພຸ່ງ ແກ້ວປະພານມີແສງເຮືອງຮຸ່ງ ແກ້ວມະນີພຸ່ງຣັສສະໝີ ແກ້ວພິທູນມີຄ່າມາກ ແກ້ວວະສີຣະຫຼາກອາພາ ແກ້ວມຸກດາງາມຊ້ອຍໂຊດ ເງິນຄຳໂສດເຫຼືອຫຼາຍ ກໍຈົ່ງຕົກລົງມາຢາຍຢັງຢາດເຢຽຣະດາດເຕັມບ້ານເຕັມເຮືອນ ຂອງທ່ານເຈົ້າມູລສັດທາອັນມີເຈົ້າເຮືອນເປັນເຄົ້າ ກັບທັງຂໍຢ່ໃຫ້ພວກທ່ານໂສກເສົ້າ ທຸກຍາກໄຮ້ເຂັນໃຈສັງສັກເທື່ອກໍຂ້າເທີ້ນ.
ເທສະໜາ ປະຣິໂຍສະເນ ໃນເມື່ອແລ້ວສັທທັມມະເທສະໜາ ຂໍໃຫ້ເຈົ້າມູລສັທທາທັງຫຼາຍ ຈົ່ງໄດ້ດັ່ງຄຳມັກ ຄຳປາດຖະໜາສົມດັ່ງກ່າວມາແລ້ວແຕ່ຫົນຫຼັງ ນິຕຖີຕັງ ກໍສະເດັດບໍລະບວນຄວນເທົ່ານີ້ກໍແລ.
ສະລາກາຣະວິຊາສູດ
ສະລາກາຣະວິຊາສູດ
ນະໂມ ຕັດສັດຖຸ !
ເອວັມເມ ສຸຕັງ ເອກັງ ສະມະຍັງ ພະຄະວາ ຣາຊະຄະເຫ ວິຫາຣະຕິ ຄິດຊະກູເຕ ປັບພະເຕຕິ
ໂພ ສາທະໂວ ດູຣາສັບປຸຣິສາທັງຫຼາຍ ຝູງປາຖນາຫາຍັງສຸກ ໓ ປະການ ມີນິຣະພານເປັນທີ່ແລ້ວ ຈົ່ງຕັ້ງໂສຕະປະສາດແກ້ວທັງສອງ ຄອຍຮອງຮັບຟັງຣົສທັມມະເທສນາ ຊື່ວ່າ ສະລາກາຣະວິຊາສູດ ແຫ່ງອົງພຣະສັມມາສັມພຸທເຈົ້າ ຫາກຈັກເທສນາໄປພາຍຫນ້າວ່າ:
ເອກັງ ສະມະຍັງ ຍັງມີໃນກາລະຄາບນຶງ ພະຄະວາ ອັນວ່າ ພຣະພຸຸທເຈົ້າແຫ່ງເຮົາກໍສະຖິດຢູ່ສຳຣານ ເຫນືອຈອມເຂົາຄິດຊະກູດ ໃກ້ກຸງຣາຊະຄຶມະຫານະຄອນ ມີປະມານວ່າ ໄດ້ຫ້າຮ້ອຍຊົ່ວຂາທະນູກໍມີແລ.
ເຕນະ ໂຂ ປະນະ ສະມະເຍນະ ໃນກາລະເມື່ອນັ້ນ ພຣະອານົນເຖຣະເຈົ້າ ເກີດເປັນພະຍາດບໍ່ສຳບາຍ ເປັນທຸກຂະເວທະນາລຳບາກຍິ່ງຫນັກຫນາ ມີຄວາມເຈັບປວດຍວດຍິ່ງ ບໍ່ອາດທົນຢູ່ໄດ້ ຄັ້ງນັ້ນ ພຣະພຸທເຈົ້າກໍສະເດັດໄປຢາມ ປະທັບນັ່ງເທິງອາສະນະທີ່ພຣະອານົນເຖຣະເຈົ້າປູໄວ້ດີແລ້ວ ຈິ່ງກຼ່າວເຊິ່ງພຣະອານົນວ່າ ອານັນທະ ດູຣາອານົນ ສະພາວະອັນຫາພະຍາດບໍ່ໄດ້ ກໍຍັງມີແກ່ທ່ານອັນຊະລື ພຣະອານົນຂາບທູນວ່າ ພັນເຕ ພະຄະວາ ຂ້າໄຫວ້ພຣະສັບພັນຍູເຈົ້າ ສ່ວນອັນວ່າພຍາທິໂຣຄາ ອັນບໍ່ໄດ້ເສື່ອມຄາຍຫາຍໄປຈາກຜູ້ຂ້າແລ ພຣະພຸທເຈົ້າຈິ່ງກ່າວວ່າ ອານັນທະ ດູຣາອານົນ ທ່ານຈົ່ງສູດຮຽນເອົາຍັງ ສະລາກາຣະວິຊາສູດອັນນີ້ ຈື່ຈຳໄວ້ໃຫ້ຫມັ້ນ ຫມັ່ນຈຳເຣີນພາວະນາຢູ່ໄຈວ້ໆ ຢ່າໃຫ້ຂາດສາຍເຖີ້ນ ກໍຈັກເປັນຄຸນເປັນປະໂຫຍດແກ່ທ່ານມາກຫນັກແລ ແມ່ນວ່າໂພຍພັຍ ອັນຕະ ຣາຍຕ່າງໆ ເປັນຕົ້ນວ່າພຍາທິໂຣຄາ ແລະ ພັຍອັນດຸ້ງຕົກໃຈກົວ ຫນັງຫົວພອງສະຍອງເກົ້າ ເສັ້ນຂົນລຸກອັນໃດກໍດີ ກໍຈະຣະງັບດັບຫາຍໄປດ້ວຍ ເຕຊະອານຸພາບແຫ່ງສະລາກາຣະວິຊາສູດດວງນີ້ແລ ອານັນທະ ດູຣາອາ ນົນ ສ່ວນອັນວ່າພຣະພຸທເຈົ້າທັງຫຼາຍ ອັນມີພຣະວິປັດສີພຸທເຈົ້າເປັນເຄົ້າ ກໍຫາກເທສນາຍັງ ຄາຖາສະລາກາຣະວິຊາສູດ ອັນນີ້ຫມົດທຸກອົງສືບໆກັນມາ ເພື່ອເປັນປະໂຫຍດ ແລະ ຄວາມສຸກແກ່ປານະສັດທັງຫລາຍວ່າດັ່ງນີ້:
ອຸດຖຸລລາ ທຸດຖຸລລາ ປັນທຸລາ ມະທຸລາ ຕັນທຸລາ ປຸບຜະລາ ກັນລະລາ ນະ ໂຈເຣນະ ໂສ ກາຣັງ ກະຣິດສະຕິ ນະ ອັກຄິ ໂສ ກາຣັງ ກະຣິດສະຕິ ນະ ອຸທະເກນະ ໂສ ກາຣັງ ກະຣິດສະຕິ ນະວະຕິ ນະ ນິດສາເຈນະ ໂສ ກາຣັງ ກະຣິດສະຕິ ນະ ນາເຄນະ ໂສ ກາຣັງ ກະຣິດສະຕິ ນະ ໂລເພນະ ໂສ ກາຣັງ ກະຣິດສະຕິ ນະ ພະຍາທິໂສ ກາຣັງ ກະຣິດສະຕິ ນະ ຕັດຖະ ສັນຕະສັງ ກະຕັງ ພະວິດສະຕິ ນະ ປາທາ ສັນຕະສັງ ຣັກຂັງ ກະຕັງ ພະວິດສະຕິ ນະ ສຸຂັງ ສັນຕະສັງກະຕັງ ພະວິດສະຕິ ນະ ຈັກຂຸ ສັນຕະສັງ ຣັກຂັງ ກະຕັງ ພະວິດສະຕິ ນະ ໂສຕະ ສັນຕະ ສັງກະຕັງ ພະວິດສະຕິ ນະ ຄານະ ສັນຕະສັງ ຣັກຂັງກະຕັງ ພະວິດສະຕິ ນະ ຊິວຫາ ສັນຕະສັງກະຕັງ ພະວິດສະຕິ ນະ ກາໂຍ ສັນຕະສັງ ຣັກຂັງ ກະຕັງ ພະວິດສະຕິ ນະ ມະໂນ ສັນຕະສັງ ກະຕັງ ພະວິດສະຕິ ນະ ພະວັກຄະສັນຕະສັງ ຣັກຂັງ ກະຕັງ ພະວິດສະຕິ ຕັດຖະ ອຸດຕະຣັງ ນະ ລະພິດສະຕິ.
ຄາຖາອັນນີ້ຊື່ວ່າ ສະລາກາຣະວິຊາສູດແລ ອານັນທະ ດູຣາອານົນ ບຸກຄົນຜູ້ໃດ ໄດ້ສູດສາທະຍາຍຢູ່ແຕ່ບົດໃດບົດນຶ່ງກໍດີ ບຸກຄົນຜູ້ນັ້ນກໍຈັກ ບໍ່ຫ່ອນຕາຍຍ້ອນໂຈນຜູ້ຮ້າຍ ແລະ ສັດປ່າໂຕຊົ່ວຊ້າກ້າຄະນອງເປັນຕົ້ນວ່າ ຊ້າງຮ້າຍ ມ້າຮ້າຍ ງົວຮ້າຍ ຄວາຍຮ້າຍ ຂີ້ເຂັບ ແມງງອດ ແລະ ເງືອກ ງູ ເສືອ ຫມີ ເຫມືອຍຮ້າຍແລ ບໍ່ຫ່ອນຕາຍຍ້ອນຫອກ ດາບ ໄມ້ຄ້ອນ ກ້ອນດິນ ຫນ້າໄມ້ ປືນ ໄຟ ແລ ອາດຍາສິດແຫ່ງອຳນາດທັງຫລາຍ ແລະ ບໍ່ຫ່ອນຕາຍຍ້ອນພູດຜີປີສາດອັນມີຜີເສື້ອນ້ຳ ເສື້ອ ບົກສັກຄາບແລ ບໍ່ຫ່ອນຕາຍຍ້ອນ ນ້ຳ ໄຟ ລົມ ອັນໃດ ອັນນຶ່ງ ກໍຍ້ອນເຕຊະອານຸພາບແຫ່ງ ສະລາກາຣະວິຊາສູດ ດວງປະເສີດນີ້ແລ.
ອານັນທະ ດູຣາອານົນ ບຸກຄົນຜູ້ໃດມີຈິດໃຈເຫລື້ອມໃສຊົມຊື່ນ ຍິນດີໃນພຣະທັມອັນປະເສີດ ຊື່ວ່າ ສະລາກາຣະວິຊາສູດດວງນີ້ ແລະ ປາຖນາຄວາມຈະເຣີນຮຸ່ງເຮືອງໃນບ້ານເຮືອນຂອງຕົນແລ້ວ ຈົ່ງແຕ່ງເຄື່ອງສັກກາຣະບູຊາ ຄາຖາອັນນີ້ ດ້ວຍສິ່ງຂອງມີຕົ້ນວ່າ ເຂົ້າເປືອກ ເຂົ້າສານ ປະທູບ ປະທີບ ນ້ຳມັນ ແລະ ເຂົ້າຕອກດອກໄມ້ ຄັນທະຣົສຂອງຫອມ ຕົ້ນກ້ວຍ ຕົ້ນອ້ອຍ ຊໍ່ນ້ອຍ ແລະ ທຸງໄຊ ຫມ້ຽງ ຫມາກ ເບ້ຽພ້າວ ເບ້ຽຫມາກ ແລະ ພູ ວັດຖຸເຄື່ອງປູກຝັງທັງຫລາຍຕ່າງໆ ເຫລົ່ານີ້ເປັນຕົ້ນແລ້ວ ຈິ່ງນິມົນພຣະສັງຄະເຈົ້າຕົນມີສິນ ມາເທສນາ ທັມດວງປະເສີດນີ້ ແລ້ວໃຫ້ຕັ້ງໃຈຟັງດ້ວຍຄວາມເຄົາຣົບ ອ່ອນນ້ອມ ຕັ້ງແຕ່ຕົ້ນເຖິງປາຍ ໃຫ້ແລ້ວບໍຣະບວນດັ່ງນັ້ນ ສ່ວນອັນ ວ່າບຸກຄົນຜູ້ນັ້ນ ກໍຈະພົ້ນຈາກພຍາທິໂຣຄາ ອັນເກີດ ຈາກເຈັບຕາ ເຈັບຫູ ເຈັບຫົວ ເຈັບດັງ ເຈັບປາກ ເຈັບມື ເຈັບແຂນ ເຈັບຫລັງ ເຈັບແອວ ເຈັບແຂ່ງ ເຈັບຂາ ແລະ ກາຍເນື້ອຕົນຕົວທັງມວນ ແລະ ສັບພະທຸກເດືອດຮ້ອນທັງຫລາຍ ອັນໃດອັນນຶ່ງ ກໍຈັກຫ່າງຫາຍໄປເສັຽຫັ້ນແລ ຍ້ອນເຕຊະອຳນາດແຫ່ງຄາຖາສະລາກາຣະວິຊາສູດຂອງພຣະພຸທເຈົ້າ ຫາກມາປົກປັກຮັກສາທຸກເມື່ອທຸກຍາມແລ ອານັນ ທະ ດູຣາອານົນ ບຸກຄົນຜູ້ໃດມັກໄຄ່ຢາກຮັ່ງຢາກມີເປັນດີມີສົມບັດເຂົ້າຂອງ ເງິນ ຄຳ ແກ້ວ ແຫວນ ເສື້ອຜ້າອາພອນເຂົ້າເປືອກ ເຂົ້າ ສານ ຊ້າງ ມ້າ ງົວ ຄວາຍ ດັ່ງນັ້ນກໍດີ ແລະ ມັກໄຄ່ໃຫ້ພົ້ນຈາກເຄາະເຂັນ ອຸບາດວິນາດຈັງໄຮ ແລະ ພົ້ນຈາກຂ້າເສິກສັດຕູ້ທັງມວນກໍດີ ກໍຈົ່ງນິມົນພຣະສັງຄະເຈົ້າຜູ້ມີສິນບໍລິສຸດມາສູດເທສນາ ຍັງ ສະລາກາຣະວິຊາສູດອັນນີ້ ໄປສັງຮອມຊ່ອຍເຫລືອຄືວ່າ ສືບຊາຕາບ້ານ ຊາຕາເມືອງ ຊາຕາຢ້າວເຮືອນ ຊາຕາສັບພະວັດຖຸທັງຫລາຍ ແລະ ສືບຊາຕາວັດວາອາຮາມທັງຫລາຍ ກໍຈັກວຸດທິຈຳເຣີນຮຸ່ງເຮືອງມາກນັກແທ້ແລ ກໍຍ້ອນຣົສທັມຄຳສອນແຫ່ງພຣະພຸທເຈົ້ານັ້ນບໍ່ຢ່າຊະແລ ບ້ານ ເມືອງ ຢ້າວເຮືອນ ສັບພະວັດຖຸເຄື່ອງປູກຂອງຝັງ ເງິນຄຳ ງົວຄວາຍ ແລະ ຄົນທັງຫລາຍຝູງນັ້ນ ກໍບໍ່ຫ່ອນຈັກມີຄຳໂທມະນັດຂັດໃຈເຍື່ອງໃດແລ ຈັກປະກອບໄປດ້ວຍລາບ ຍົດ ສັຣເສີນ ແລະ ຄວາມສຸກໃນອິຣິຍະບົດທັງສີ່ ຄື ຢືນ ຍ່າງ ນັ່ງ ນອນ ມີຄວາມສຸກທຸກເມື່ອ ເປັນດັ່ງເງົາທຽມຕົນໄປຫັ້ນແລ ກໍຍ້ອນເຕຊະອານຸພາບ ແຫ່ງສະລາກາຣະວິຊາສູດທັມດວງປະເສີດ ກໍຫາກມາຮັກສາຄຸ້ມຄອງຍັງບຸກຄົນຜູ້ນັ້ນໄປທຸກຊາດກໍມີແລ.
ຈັດຕາໂຣ ມະຫາຣາຊາ ອັນວ່າ ທ້າວມະຫາຣາດ ທັງສີ່ ຄື: ທ້າວທະຕະຣັດຖະ ອັນເປັນເຈົ້າແຫ່ງຄັນທັບພະທັງຫລາຍ ຜູ້ຮັກສາຍັງທິດບົວຣະພາກໍດີ ທ້າວວິຣຸລຫົກ ອັນເປັນກົກແຫ່ງກຸມພັນທັງ ຫລາຍ ຜູ້ຮັກສາຍັງທິດທັກຂິນກໍດີ ທ້າວວິຣູປັກຂະ ອັນເປັນເຈົ້າແຫ່ງນາກທັງຫລາຍ ຜູ້ຮັກສາຍັງທິດປະຈິມກໍດີ ທ້າວກຸເວຣະ ອັນເປັນເຈົ້າແຫ່ງຍັກທັງຫລາຍ ຜູ້ຮັກສາຍັງທິດອຸດອນກໍດີ ແລະ ພ້ອມໄປດ້ວຍບໍລິວານຂອງຕົນເປັນຕົ້ນວ່າ:
ຍັກໂຂ ວາ ຍັກຂິນິ ວາ ຍັກຂະໂປຕະໂກ ວາ ຍັກຂະໂປຕິກາ ວາ ຍັກຂະມະຫາມັດໂຕ ວາ ຍັກຂະປາຣິສັດໂຊ ວາ ຍັກຂະປະຈາໂຣ ວາ, ຄັນທັບໂພ ວາ ຄັນທັບພີ ວາ ຄັນທັບພະໂປຕະໂກ ວາ ຄັນທັບພະໂປຕິກາ ວາ ຄັນທັບພະມະຫາມັດໂຕ ວາ ຄັນທັບພະປາຣິສັດໂຊ ວາ ຄັນທັບພະປະຈາໂຣ ວາ, ກຸມພັນໂດ ວາ ກຸມພັນດີ ວາ ກຸມພັນດະໂປຕະໂກ ວາ ກຸມພັນດະໂປຕິກາ ວາ ກຸມພັນດະມະຫາມັດໂຕ ວາ ກຸມ ພັນດະປາຣິສັດໂຊ ວາ ກຸມພັນດະປະຈາໂຣ ວາ, ນາໂຄ ວາ ນາຄີ ວາ ນາຄະໂປຕະໂກ ວາ ນາຄະໂປຕິກາ ວາ ນາຄະມະຫາມັດໂຕ ວາ ນາຄະປາຣິສັດໂຊ ວາ ນາຄະປະຈາໂຣ ວາ, ປະທຸດຖະຈິດໂຕ ພິກຂຸນັງ ພິກຂຸນີນັງ ອຸປາສະການັງ ອຸປາສິການັງ ຄຸດຕິຍາ ຣັກຂາຍະ ອະວິຫິງສາຍະ ຜາສຸວິຫາຣາຍາຕິ.
ອານັນທະ ດູຣາອານົນ ສ່ວນອັນວ່າຍັກທັງຫລາຍຝູງນັ້ນກຼ່າວ ຄືວ່າ ຍັກຜູ້ຊາຍຜູ້ຍິງກໍດີ ຜູ້ເປັນລູກຊາຍລູກຍິງກໍດີ ຍັກຜູ້ເປັນປູ່ເປັນຍ່າເປັນຕາເປັນຍາຍກໍດີ ຍັກຜູ້ເປັນພີ່ຊາຍພີ່ຍິງ ນ້ອງຊາຍນ້ອງຍິງກໍດີ ແລະ ຍັກຜູ້ເປັນເສນາມະຫາອຳນາດ ເປັນບໍລິວານຮັບໃຊ້ສອຍກໍດີ ຝູງຢູ່ໄກ ແລະ ຢູ່ໃກ້ກໍດີ ຄັນທັບພະທັງຫລາຍ ຝູງເປັນຜູ້ຊາຍຜູ້ຍິງກໍດີ ຜູ້ເປັນລູກຊາຍລູກຍິງກໍດີ ຄັນທັບພະຜູ້ເປັນປູ່ເປັນຍ່າ ເປັນຕາ ເປັນຍາຍກໍດີ ຄັນທັບພະຜູ້ເປັນພີ່ຊາຍພີ່ຍິງ ນ້ອງຊາຍນ້ອງຍິງກໍດີ ແລະ ຄັນທັບພະຜູ້ເປັນເສນາມະຫາອຳມາດ ເປັນບໍລິວານຮັບໃຊ້ສອຍກໍດີ ຝູງຢູ່ໄກແລະຢູ່ໃກ້ກໍດີ ກຸມພັນດະທັງຫລາຍ ຝູູງເປັນຜູ້ຊາຍຜູ້ຍິງກໍດີ ຜູ້ເປັນລູກຊາຍລູກຍິງກໍດີ ກຸມພັນດະ ຜູ້ເປັນປູ່ ເປັນຍາ ເປັນຕາ ເປັນຍາຍກໍດີ ກຸມພັນດະ ຜູ້ເປັນພີ່ຊາຍພີ່ຍິງ ນ້ອງຊາຍນ້ອງຍິງກໍດີ ແລະ ກຸມພັນດະ ຜູ້ເປັນເສນາມະຫາອຳມາດ ເປັນບໍຣິວານຮັບໃຊ້ສອຍກໍດີ ຝູງຢູ່ໄກ ແລະ ຢູ່ໃກ້ກໍດີ ນາກທັງຫລາຍ ຝູງເປັນຜູ້ຊາຍຜູ້ຍິງກໍດີ ຜູ້ເປັນລູກຊາຍລູກຍິງກໍດີ ນາກຜູ້ເປັນປູ່ເປັນຍ່າ ເປັນຕາ ເປັນຍາຍກໍດີ ນາກຜູ້ເປັນພີ່ຊາຍພີ່ຍິງ ນ້ອງຊາຍນ້ອງຍິງກໍດີ ແລະ ນາກຜູ້ເປັນເສນາມະຫາອຳມາດ ເປັນບໍລິວານຮັບໃຊ້ສອຍກໍດີ ຝູງຢູ່ໄກແລະຢູ່ໃກ້ກໍດີ ຍັກຂະ ຄັນທັບພະ ກຸມພັນດະ ແລະ ນາກທັງຫລາຍຝູູງນັ້ນ ກໍບໍ່ຫ່ອນມີໃຈສາໂຫດຫຍາບຊ້າ ມັກໄຄ່ກະທຳໂທດແກ່ປານະສັດທັງ ຫລາຍ ຫມາຍມີບໍຣິສັດສີ່ຈຳພວກຄືວ່າ ພິກຂຸ ພິກຂຸນີ ອຸປາສົກ ອຸປາສິກາ ຜູ້ໄດ້ສະດັບຮັບຟັງຍັງຜູ້ອື່ນເທສນາກໍດີ ແລຜູ້ໄດ້ຂຶ້ນໃຈເອົາສູດສູ່ມື້ກໍດີ ຍັງຄາຖາສະລາກາຣະວິຊາສູດນີ້ ໂດຍເຄົາຣົບອ່ອນນ້ອມຕັ້ງແຕ່ຕົ້ນເຖິງປາຍ ແລ້ວຍ່ອມຈັກເປັນທີ່ຈັ້ງທີ່ເພິ່ງແກ່ເວໄນຍະສັດທັງ ຫລາຍໄດ້ແທ້ແລ ດ້ວຍເຫດນັ້ນພຣະພຸທເຈົ້າຈິ່ງໄດ້ຕັດເທສນາ ສະລາກາຣະວິຊາສູດ ອັນປະເສີດນີ້ໄວ້ ເພື່ອໃຫ້ເປັນເຄື່ອງຄຸ້ມຄອງຮັກສາຍັງພຸທສາສະນິກະຊົນທັງຫລາຍ ບໍ່ໃຫ້ເກີດມີຄວາມລຳບາກກາຍ ແລະ ໃຈ ເພື່ອໃຫ້ຢູ່ດ້ວຍຄວາມສຸກກະເສີມສຳຣານຕາບຕໍ່ເທົ້າເຖິງອາຍຸໄຂພຸ້ນຊະແລ.
ພະຄະວາ ອັນວ່າ ພຣະສັບພັນຍູເຈົ້າຕົນປະກອບໄປດ້ວຍມະຫາກະຣຸນາເປັນອັນມາກ ກໍຫາກເທສນາຍັງ ສະລາກາຣະວິຊາສູດອັນປະເສີດນີ້ແກ່ພຣະອານົນເຖຣະເຈົ້າ ສ່ວນອັນວ່າ ພຣະອານົນເຖຣະເຈົ້າ ກໍໄດ້ສະດັບຮັບຟັງ ຮຽນເອົາຍັງທັມດວງປະເສີດນີ້ແລ້ວ ລວດບັງເກີດມີໃຈຊົມຊື່ນຍິນດີມາກຍິ່ງຫນັກຫນາ ອັນພຍາທິໂຣຄາຕ່າງໆ ກໍຣະງັບດັບຫາຍໄປບໍ່ສ້ຽງບໍ່ຫລໍຈັກອັນ ກໍມີໃນກາລະບັດນັ້ນຫັ້ນແລ.
ເທສນາປະຣິໂຍສາເນ ເມື່ອພຣະພຸທເຈົ້າ ຊົງສຳແດງຍັງສະລາກາຣະວິຊາສູດ ສຸດລົງແລ້ວ ເທວາ ມະນຸດສາ ຈະ ອັນວ່າ ຄົນ ແລະ ເທວະດາທັງຫລາຍເປັນອັນມາກກໍດີ ຈະຕຸປະຣິສາ ຈະ ອັນວ່າ ບໍຣິສັດສີ່ທັງຫລາຍກໍດີ ພ້ອມທັງພຣະຍາອິນ ພຣະຍາພຣົມ ພຣະຍາຍົມຣາດ ແລະ ທ້າວຈະຕຸໂລກບານທັງສີ່ ອັນໄດ້ຟັງຍັງຣົສທັມມະເທສນາ ແຫ່ງອົງພຣະສັດຖາສັບພັນຍູເຈົ້າ ດວງວິເສດນີ້ແລ້ວ ລວດມີຄວາມປິຕິເຫລື້ອມໃສເປັນອັນຍິ່ງ ລາງພວກມີຄວາມເຊື່ອ ມີຄວາມເຫລື້ອມໃສ ລາງພວກກໍໄດ້ເຖິງພຣະຣັຕນະໄຕຣເປັນທີ່ເພິ່ງ ລາງພວກກໍໄດ້ເຖິງທັມມະວິເສດ ຕັດກິເລດຕັນຫາ ລາງພວກກໍໄດ້ເຖິງໂສຕາປັດຕິຜະລະຍານເປັນເຄົ້າ ອັນມີອະຣະຫັນຕາຜະລະຍານເຈົ້າເປັນປະຣິໂຍສານກໍມີວັນນັ້ນແລ.
ສະລາກາຣະວິຊາສຸດຕັງ ອັນວ່າກິຍາ ອັນກຼ່າວຍ້ອງຍໍສະລາກາຣະວິຊາສູດ ອັນມີຢູ່ໃນຄັມພີ ທິບພະມົນຜູກປາຍນັ້ນ ນິດຖິຕັງ ກໍສະເດັດບໍຣະບວນຄວນແລ້ວທໍ່ນີ້ກ່ອນແລ.
ນະໂມ ຕັດສັດຖຸ !
ເອວັມເມ ສຸຕັງ ເອກັງ ສະມະຍັງ ພະຄະວາ ຣາຊະຄະເຫ ວິຫາຣະຕິ ຄິດຊະກູເຕ ປັບພະເຕຕິ
ໂພ ສາທະໂວ ດູຣາສັບປຸຣິສາທັງຫຼາຍ ຝູງປາຖນາຫາຍັງສຸກ ໓ ປະການ ມີນິຣະພານເປັນທີ່ແລ້ວ ຈົ່ງຕັ້ງໂສຕະປະສາດແກ້ວທັງສອງ ຄອຍຮອງຮັບຟັງຣົສທັມມະເທສນາ ຊື່ວ່າ ສະລາກາຣະວິຊາສູດ ແຫ່ງອົງພຣະສັມມາສັມພຸທເຈົ້າ ຫາກຈັກເທສນາໄປພາຍຫນ້າວ່າ:
ເອກັງ ສະມະຍັງ ຍັງມີໃນກາລະຄາບນຶງ ພະຄະວາ ອັນວ່າ ພຣະພຸຸທເຈົ້າແຫ່ງເຮົາກໍສະຖິດຢູ່ສຳຣານ ເຫນືອຈອມເຂົາຄິດຊະກູດ ໃກ້ກຸງຣາຊະຄຶມະຫານະຄອນ ມີປະມານວ່າ ໄດ້ຫ້າຮ້ອຍຊົ່ວຂາທະນູກໍມີແລ.
ເຕນະ ໂຂ ປະນະ ສະມະເຍນະ ໃນກາລະເມື່ອນັ້ນ ພຣະອານົນເຖຣະເຈົ້າ ເກີດເປັນພະຍາດບໍ່ສຳບາຍ ເປັນທຸກຂະເວທະນາລຳບາກຍິ່ງຫນັກຫນາ ມີຄວາມເຈັບປວດຍວດຍິ່ງ ບໍ່ອາດທົນຢູ່ໄດ້ ຄັ້ງນັ້ນ ພຣະພຸທເຈົ້າກໍສະເດັດໄປຢາມ ປະທັບນັ່ງເທິງອາສະນະທີ່ພຣະອານົນເຖຣະເຈົ້າປູໄວ້ດີແລ້ວ ຈິ່ງກຼ່າວເຊິ່ງພຣະອານົນວ່າ ອານັນທະ ດູຣາອານົນ ສະພາວະອັນຫາພະຍາດບໍ່ໄດ້ ກໍຍັງມີແກ່ທ່ານອັນຊະລື ພຣະອານົນຂາບທູນວ່າ ພັນເຕ ພະຄະວາ ຂ້າໄຫວ້ພຣະສັບພັນຍູເຈົ້າ ສ່ວນອັນວ່າພຍາທິໂຣຄາ ອັນບໍ່ໄດ້ເສື່ອມຄາຍຫາຍໄປຈາກຜູ້ຂ້າແລ ພຣະພຸທເຈົ້າຈິ່ງກ່າວວ່າ ອານັນທະ ດູຣາອານົນ ທ່ານຈົ່ງສູດຮຽນເອົາຍັງ ສະລາກາຣະວິຊາສູດອັນນີ້ ຈື່ຈຳໄວ້ໃຫ້ຫມັ້ນ ຫມັ່ນຈຳເຣີນພາວະນາຢູ່ໄຈວ້ໆ ຢ່າໃຫ້ຂາດສາຍເຖີ້ນ ກໍຈັກເປັນຄຸນເປັນປະໂຫຍດແກ່ທ່ານມາກຫນັກແລ ແມ່ນວ່າໂພຍພັຍ ອັນຕະ ຣາຍຕ່າງໆ ເປັນຕົ້ນວ່າພຍາທິໂຣຄາ ແລະ ພັຍອັນດຸ້ງຕົກໃຈກົວ ຫນັງຫົວພອງສະຍອງເກົ້າ ເສັ້ນຂົນລຸກອັນໃດກໍດີ ກໍຈະຣະງັບດັບຫາຍໄປດ້ວຍ ເຕຊະອານຸພາບແຫ່ງສະລາກາຣະວິຊາສູດດວງນີ້ແລ ອານັນທະ ດູຣາອາ ນົນ ສ່ວນອັນວ່າພຣະພຸທເຈົ້າທັງຫຼາຍ ອັນມີພຣະວິປັດສີພຸທເຈົ້າເປັນເຄົ້າ ກໍຫາກເທສນາຍັງ ຄາຖາສະລາກາຣະວິຊາສູດ ອັນນີ້ຫມົດທຸກອົງສືບໆກັນມາ ເພື່ອເປັນປະໂຫຍດ ແລະ ຄວາມສຸກແກ່ປານະສັດທັງຫລາຍວ່າດັ່ງນີ້:
ອຸດຖຸລລາ ທຸດຖຸລລາ ປັນທຸລາ ມະທຸລາ ຕັນທຸລາ ປຸບຜະລາ ກັນລະລາ ນະ ໂຈເຣນະ ໂສ ກາຣັງ ກະຣິດສະຕິ ນະ ອັກຄິ ໂສ ກາຣັງ ກະຣິດສະຕິ ນະ ອຸທະເກນະ ໂສ ກາຣັງ ກະຣິດສະຕິ ນະວະຕິ ນະ ນິດສາເຈນະ ໂສ ກາຣັງ ກະຣິດສະຕິ ນະ ນາເຄນະ ໂສ ກາຣັງ ກະຣິດສະຕິ ນະ ໂລເພນະ ໂສ ກາຣັງ ກະຣິດສະຕິ ນະ ພະຍາທິໂສ ກາຣັງ ກະຣິດສະຕິ ນະ ຕັດຖະ ສັນຕະສັງ ກະຕັງ ພະວິດສະຕິ ນະ ປາທາ ສັນຕະສັງ ຣັກຂັງ ກະຕັງ ພະວິດສະຕິ ນະ ສຸຂັງ ສັນຕະສັງກະຕັງ ພະວິດສະຕິ ນະ ຈັກຂຸ ສັນຕະສັງ ຣັກຂັງ ກະຕັງ ພະວິດສະຕິ ນະ ໂສຕະ ສັນຕະ ສັງກະຕັງ ພະວິດສະຕິ ນະ ຄານະ ສັນຕະສັງ ຣັກຂັງກະຕັງ ພະວິດສະຕິ ນະ ຊິວຫາ ສັນຕະສັງກະຕັງ ພະວິດສະຕິ ນະ ກາໂຍ ສັນຕະສັງ ຣັກຂັງ ກະຕັງ ພະວິດສະຕິ ນະ ມະໂນ ສັນຕະສັງ ກະຕັງ ພະວິດສະຕິ ນະ ພະວັກຄະສັນຕະສັງ ຣັກຂັງ ກະຕັງ ພະວິດສະຕິ ຕັດຖະ ອຸດຕະຣັງ ນະ ລະພິດສະຕິ.
ຄາຖາອັນນີ້ຊື່ວ່າ ສະລາກາຣະວິຊາສູດແລ ອານັນທະ ດູຣາອານົນ ບຸກຄົນຜູ້ໃດ ໄດ້ສູດສາທະຍາຍຢູ່ແຕ່ບົດໃດບົດນຶ່ງກໍດີ ບຸກຄົນຜູ້ນັ້ນກໍຈັກ ບໍ່ຫ່ອນຕາຍຍ້ອນໂຈນຜູ້ຮ້າຍ ແລະ ສັດປ່າໂຕຊົ່ວຊ້າກ້າຄະນອງເປັນຕົ້ນວ່າ ຊ້າງຮ້າຍ ມ້າຮ້າຍ ງົວຮ້າຍ ຄວາຍຮ້າຍ ຂີ້ເຂັບ ແມງງອດ ແລະ ເງືອກ ງູ ເສືອ ຫມີ ເຫມືອຍຮ້າຍແລ ບໍ່ຫ່ອນຕາຍຍ້ອນຫອກ ດາບ ໄມ້ຄ້ອນ ກ້ອນດິນ ຫນ້າໄມ້ ປືນ ໄຟ ແລ ອາດຍາສິດແຫ່ງອຳນາດທັງຫລາຍ ແລະ ບໍ່ຫ່ອນຕາຍຍ້ອນພູດຜີປີສາດອັນມີຜີເສື້ອນ້ຳ ເສື້ອ ບົກສັກຄາບແລ ບໍ່ຫ່ອນຕາຍຍ້ອນ ນ້ຳ ໄຟ ລົມ ອັນໃດ ອັນນຶ່ງ ກໍຍ້ອນເຕຊະອານຸພາບແຫ່ງ ສະລາກາຣະວິຊາສູດ ດວງປະເສີດນີ້ແລ.
ອານັນທະ ດູຣາອານົນ ບຸກຄົນຜູ້ໃດມີຈິດໃຈເຫລື້ອມໃສຊົມຊື່ນ ຍິນດີໃນພຣະທັມອັນປະເສີດ ຊື່ວ່າ ສະລາກາຣະວິຊາສູດດວງນີ້ ແລະ ປາຖນາຄວາມຈະເຣີນຮຸ່ງເຮືອງໃນບ້ານເຮືອນຂອງຕົນແລ້ວ ຈົ່ງແຕ່ງເຄື່ອງສັກກາຣະບູຊາ ຄາຖາອັນນີ້ ດ້ວຍສິ່ງຂອງມີຕົ້ນວ່າ ເຂົ້າເປືອກ ເຂົ້າສານ ປະທູບ ປະທີບ ນ້ຳມັນ ແລະ ເຂົ້າຕອກດອກໄມ້ ຄັນທະຣົສຂອງຫອມ ຕົ້ນກ້ວຍ ຕົ້ນອ້ອຍ ຊໍ່ນ້ອຍ ແລະ ທຸງໄຊ ຫມ້ຽງ ຫມາກ ເບ້ຽພ້າວ ເບ້ຽຫມາກ ແລະ ພູ ວັດຖຸເຄື່ອງປູກຝັງທັງຫລາຍຕ່າງໆ ເຫລົ່ານີ້ເປັນຕົ້ນແລ້ວ ຈິ່ງນິມົນພຣະສັງຄະເຈົ້າຕົນມີສິນ ມາເທສນາ ທັມດວງປະເສີດນີ້ ແລ້ວໃຫ້ຕັ້ງໃຈຟັງດ້ວຍຄວາມເຄົາຣົບ ອ່ອນນ້ອມ ຕັ້ງແຕ່ຕົ້ນເຖິງປາຍ ໃຫ້ແລ້ວບໍຣະບວນດັ່ງນັ້ນ ສ່ວນອັນ ວ່າບຸກຄົນຜູ້ນັ້ນ ກໍຈະພົ້ນຈາກພຍາທິໂຣຄາ ອັນເກີດ ຈາກເຈັບຕາ ເຈັບຫູ ເຈັບຫົວ ເຈັບດັງ ເຈັບປາກ ເຈັບມື ເຈັບແຂນ ເຈັບຫລັງ ເຈັບແອວ ເຈັບແຂ່ງ ເຈັບຂາ ແລະ ກາຍເນື້ອຕົນຕົວທັງມວນ ແລະ ສັບພະທຸກເດືອດຮ້ອນທັງຫລາຍ ອັນໃດອັນນຶ່ງ ກໍຈັກຫ່າງຫາຍໄປເສັຽຫັ້ນແລ ຍ້ອນເຕຊະອຳນາດແຫ່ງຄາຖາສະລາກາຣະວິຊາສູດຂອງພຣະພຸທເຈົ້າ ຫາກມາປົກປັກຮັກສາທຸກເມື່ອທຸກຍາມແລ ອານັນ ທະ ດູຣາອານົນ ບຸກຄົນຜູ້ໃດມັກໄຄ່ຢາກຮັ່ງຢາກມີເປັນດີມີສົມບັດເຂົ້າຂອງ ເງິນ ຄຳ ແກ້ວ ແຫວນ ເສື້ອຜ້າອາພອນເຂົ້າເປືອກ ເຂົ້າ ສານ ຊ້າງ ມ້າ ງົວ ຄວາຍ ດັ່ງນັ້ນກໍດີ ແລະ ມັກໄຄ່ໃຫ້ພົ້ນຈາກເຄາະເຂັນ ອຸບາດວິນາດຈັງໄຮ ແລະ ພົ້ນຈາກຂ້າເສິກສັດຕູ້ທັງມວນກໍດີ ກໍຈົ່ງນິມົນພຣະສັງຄະເຈົ້າຜູ້ມີສິນບໍລິສຸດມາສູດເທສນາ ຍັງ ສະລາກາຣະວິຊາສູດອັນນີ້ ໄປສັງຮອມຊ່ອຍເຫລືອຄືວ່າ ສືບຊາຕາບ້ານ ຊາຕາເມືອງ ຊາຕາຢ້າວເຮືອນ ຊາຕາສັບພະວັດຖຸທັງຫລາຍ ແລະ ສືບຊາຕາວັດວາອາຮາມທັງຫລາຍ ກໍຈັກວຸດທິຈຳເຣີນຮຸ່ງເຮືອງມາກນັກແທ້ແລ ກໍຍ້ອນຣົສທັມຄຳສອນແຫ່ງພຣະພຸທເຈົ້ານັ້ນບໍ່ຢ່າຊະແລ ບ້ານ ເມືອງ ຢ້າວເຮືອນ ສັບພະວັດຖຸເຄື່ອງປູກຂອງຝັງ ເງິນຄຳ ງົວຄວາຍ ແລະ ຄົນທັງຫລາຍຝູງນັ້ນ ກໍບໍ່ຫ່ອນຈັກມີຄຳໂທມະນັດຂັດໃຈເຍື່ອງໃດແລ ຈັກປະກອບໄປດ້ວຍລາບ ຍົດ ສັຣເສີນ ແລະ ຄວາມສຸກໃນອິຣິຍະບົດທັງສີ່ ຄື ຢືນ ຍ່າງ ນັ່ງ ນອນ ມີຄວາມສຸກທຸກເມື່ອ ເປັນດັ່ງເງົາທຽມຕົນໄປຫັ້ນແລ ກໍຍ້ອນເຕຊະອານຸພາບ ແຫ່ງສະລາກາຣະວິຊາສູດທັມດວງປະເສີດ ກໍຫາກມາຮັກສາຄຸ້ມຄອງຍັງບຸກຄົນຜູ້ນັ້ນໄປທຸກຊາດກໍມີແລ.
ຈັດຕາໂຣ ມະຫາຣາຊາ ອັນວ່າ ທ້າວມະຫາຣາດ ທັງສີ່ ຄື: ທ້າວທະຕະຣັດຖະ ອັນເປັນເຈົ້າແຫ່ງຄັນທັບພະທັງຫລາຍ ຜູ້ຮັກສາຍັງທິດບົວຣະພາກໍດີ ທ້າວວິຣຸລຫົກ ອັນເປັນກົກແຫ່ງກຸມພັນທັງ ຫລາຍ ຜູ້ຮັກສາຍັງທິດທັກຂິນກໍດີ ທ້າວວິຣູປັກຂະ ອັນເປັນເຈົ້າແຫ່ງນາກທັງຫລາຍ ຜູ້ຮັກສາຍັງທິດປະຈິມກໍດີ ທ້າວກຸເວຣະ ອັນເປັນເຈົ້າແຫ່ງຍັກທັງຫລາຍ ຜູ້ຮັກສາຍັງທິດອຸດອນກໍດີ ແລະ ພ້ອມໄປດ້ວຍບໍລິວານຂອງຕົນເປັນຕົ້ນວ່າ:
ຍັກໂຂ ວາ ຍັກຂິນິ ວາ ຍັກຂະໂປຕະໂກ ວາ ຍັກຂະໂປຕິກາ ວາ ຍັກຂະມະຫາມັດໂຕ ວາ ຍັກຂະປາຣິສັດໂຊ ວາ ຍັກຂະປະຈາໂຣ ວາ, ຄັນທັບໂພ ວາ ຄັນທັບພີ ວາ ຄັນທັບພະໂປຕະໂກ ວາ ຄັນທັບພະໂປຕິກາ ວາ ຄັນທັບພະມະຫາມັດໂຕ ວາ ຄັນທັບພະປາຣິສັດໂຊ ວາ ຄັນທັບພະປະຈາໂຣ ວາ, ກຸມພັນໂດ ວາ ກຸມພັນດີ ວາ ກຸມພັນດະໂປຕະໂກ ວາ ກຸມພັນດະໂປຕິກາ ວາ ກຸມພັນດະມະຫາມັດໂຕ ວາ ກຸມ ພັນດະປາຣິສັດໂຊ ວາ ກຸມພັນດະປະຈາໂຣ ວາ, ນາໂຄ ວາ ນາຄີ ວາ ນາຄະໂປຕະໂກ ວາ ນາຄະໂປຕິກາ ວາ ນາຄະມະຫາມັດໂຕ ວາ ນາຄະປາຣິສັດໂຊ ວາ ນາຄະປະຈາໂຣ ວາ, ປະທຸດຖະຈິດໂຕ ພິກຂຸນັງ ພິກຂຸນີນັງ ອຸປາສະການັງ ອຸປາສິການັງ ຄຸດຕິຍາ ຣັກຂາຍະ ອະວິຫິງສາຍະ ຜາສຸວິຫາຣາຍາຕິ.
ອານັນທະ ດູຣາອານົນ ສ່ວນອັນວ່າຍັກທັງຫລາຍຝູງນັ້ນກຼ່າວ ຄືວ່າ ຍັກຜູ້ຊາຍຜູ້ຍິງກໍດີ ຜູ້ເປັນລູກຊາຍລູກຍິງກໍດີ ຍັກຜູ້ເປັນປູ່ເປັນຍ່າເປັນຕາເປັນຍາຍກໍດີ ຍັກຜູ້ເປັນພີ່ຊາຍພີ່ຍິງ ນ້ອງຊາຍນ້ອງຍິງກໍດີ ແລະ ຍັກຜູ້ເປັນເສນາມະຫາອຳນາດ ເປັນບໍລິວານຮັບໃຊ້ສອຍກໍດີ ຝູງຢູ່ໄກ ແລະ ຢູ່ໃກ້ກໍດີ ຄັນທັບພະທັງຫລາຍ ຝູງເປັນຜູ້ຊາຍຜູ້ຍິງກໍດີ ຜູ້ເປັນລູກຊາຍລູກຍິງກໍດີ ຄັນທັບພະຜູ້ເປັນປູ່ເປັນຍ່າ ເປັນຕາ ເປັນຍາຍກໍດີ ຄັນທັບພະຜູ້ເປັນພີ່ຊາຍພີ່ຍິງ ນ້ອງຊາຍນ້ອງຍິງກໍດີ ແລະ ຄັນທັບພະຜູ້ເປັນເສນາມະຫາອຳມາດ ເປັນບໍລິວານຮັບໃຊ້ສອຍກໍດີ ຝູງຢູ່ໄກແລະຢູ່ໃກ້ກໍດີ ກຸມພັນດະທັງຫລາຍ ຝູູງເປັນຜູ້ຊາຍຜູ້ຍິງກໍດີ ຜູ້ເປັນລູກຊາຍລູກຍິງກໍດີ ກຸມພັນດະ ຜູ້ເປັນປູ່ ເປັນຍາ ເປັນຕາ ເປັນຍາຍກໍດີ ກຸມພັນດະ ຜູ້ເປັນພີ່ຊາຍພີ່ຍິງ ນ້ອງຊາຍນ້ອງຍິງກໍດີ ແລະ ກຸມພັນດະ ຜູ້ເປັນເສນາມະຫາອຳມາດ ເປັນບໍຣິວານຮັບໃຊ້ສອຍກໍດີ ຝູງຢູ່ໄກ ແລະ ຢູ່ໃກ້ກໍດີ ນາກທັງຫລາຍ ຝູງເປັນຜູ້ຊາຍຜູ້ຍິງກໍດີ ຜູ້ເປັນລູກຊາຍລູກຍິງກໍດີ ນາກຜູ້ເປັນປູ່ເປັນຍ່າ ເປັນຕາ ເປັນຍາຍກໍດີ ນາກຜູ້ເປັນພີ່ຊາຍພີ່ຍິງ ນ້ອງຊາຍນ້ອງຍິງກໍດີ ແລະ ນາກຜູ້ເປັນເສນາມະຫາອຳມາດ ເປັນບໍລິວານຮັບໃຊ້ສອຍກໍດີ ຝູງຢູ່ໄກແລະຢູ່ໃກ້ກໍດີ ຍັກຂະ ຄັນທັບພະ ກຸມພັນດະ ແລະ ນາກທັງຫລາຍຝູູງນັ້ນ ກໍບໍ່ຫ່ອນມີໃຈສາໂຫດຫຍາບຊ້າ ມັກໄຄ່ກະທຳໂທດແກ່ປານະສັດທັງ ຫລາຍ ຫມາຍມີບໍຣິສັດສີ່ຈຳພວກຄືວ່າ ພິກຂຸ ພິກຂຸນີ ອຸປາສົກ ອຸປາສິກາ ຜູ້ໄດ້ສະດັບຮັບຟັງຍັງຜູ້ອື່ນເທສນາກໍດີ ແລຜູ້ໄດ້ຂຶ້ນໃຈເອົາສູດສູ່ມື້ກໍດີ ຍັງຄາຖາສະລາກາຣະວິຊາສູດນີ້ ໂດຍເຄົາຣົບອ່ອນນ້ອມຕັ້ງແຕ່ຕົ້ນເຖິງປາຍ ແລ້ວຍ່ອມຈັກເປັນທີ່ຈັ້ງທີ່ເພິ່ງແກ່ເວໄນຍະສັດທັງ ຫລາຍໄດ້ແທ້ແລ ດ້ວຍເຫດນັ້ນພຣະພຸທເຈົ້າຈິ່ງໄດ້ຕັດເທສນາ ສະລາກາຣະວິຊາສູດ ອັນປະເສີດນີ້ໄວ້ ເພື່ອໃຫ້ເປັນເຄື່ອງຄຸ້ມຄອງຮັກສາຍັງພຸທສາສະນິກະຊົນທັງຫລາຍ ບໍ່ໃຫ້ເກີດມີຄວາມລຳບາກກາຍ ແລະ ໃຈ ເພື່ອໃຫ້ຢູ່ດ້ວຍຄວາມສຸກກະເສີມສຳຣານຕາບຕໍ່ເທົ້າເຖິງອາຍຸໄຂພຸ້ນຊະແລ.
ພະຄະວາ ອັນວ່າ ພຣະສັບພັນຍູເຈົ້າຕົນປະກອບໄປດ້ວຍມະຫາກະຣຸນາເປັນອັນມາກ ກໍຫາກເທສນາຍັງ ສະລາກາຣະວິຊາສູດອັນປະເສີດນີ້ແກ່ພຣະອານົນເຖຣະເຈົ້າ ສ່ວນອັນວ່າ ພຣະອານົນເຖຣະເຈົ້າ ກໍໄດ້ສະດັບຮັບຟັງ ຮຽນເອົາຍັງທັມດວງປະເສີດນີ້ແລ້ວ ລວດບັງເກີດມີໃຈຊົມຊື່ນຍິນດີມາກຍິ່ງຫນັກຫນາ ອັນພຍາທິໂຣຄາຕ່າງໆ ກໍຣະງັບດັບຫາຍໄປບໍ່ສ້ຽງບໍ່ຫລໍຈັກອັນ ກໍມີໃນກາລະບັດນັ້ນຫັ້ນແລ.
ເທສນາປະຣິໂຍສາເນ ເມື່ອພຣະພຸທເຈົ້າ ຊົງສຳແດງຍັງສະລາກາຣະວິຊາສູດ ສຸດລົງແລ້ວ ເທວາ ມະນຸດສາ ຈະ ອັນວ່າ ຄົນ ແລະ ເທວະດາທັງຫລາຍເປັນອັນມາກກໍດີ ຈະຕຸປະຣິສາ ຈະ ອັນວ່າ ບໍຣິສັດສີ່ທັງຫລາຍກໍດີ ພ້ອມທັງພຣະຍາອິນ ພຣະຍາພຣົມ ພຣະຍາຍົມຣາດ ແລະ ທ້າວຈະຕຸໂລກບານທັງສີ່ ອັນໄດ້ຟັງຍັງຣົສທັມມະເທສນາ ແຫ່ງອົງພຣະສັດຖາສັບພັນຍູເຈົ້າ ດວງວິເສດນີ້ແລ້ວ ລວດມີຄວາມປິຕິເຫລື້ອມໃສເປັນອັນຍິ່ງ ລາງພວກມີຄວາມເຊື່ອ ມີຄວາມເຫລື້ອມໃສ ລາງພວກກໍໄດ້ເຖິງພຣະຣັຕນະໄຕຣເປັນທີ່ເພິ່ງ ລາງພວກກໍໄດ້ເຖິງທັມມະວິເສດ ຕັດກິເລດຕັນຫາ ລາງພວກກໍໄດ້ເຖິງໂສຕາປັດຕິຜະລະຍານເປັນເຄົ້າ ອັນມີອະຣະຫັນຕາຜະລະຍານເຈົ້າເປັນປະຣິໂຍສານກໍມີວັນນັ້ນແລ.
ສະລາກາຣະວິຊາສຸດຕັງ ອັນວ່າກິຍາ ອັນກຼ່າວຍ້ອງຍໍສະລາກາຣະວິຊາສູດ ອັນມີຢູ່ໃນຄັມພີ ທິບພະມົນຜູກປາຍນັ້ນ ນິດຖິຕັງ ກໍສະເດັດບໍຣະບວນຄວນແລ້ວທໍ່ນີ້ກ່ອນແລ.
ຍັນທຸນເທດສະໜາ
ຍັນທຸນເທດສະໜາ
ນະໂມ ຕັດສັດຖຸ !ຍັນທຸນນິມິດຕັງ ອະວະມັງຄະລັນຈະ
ໂຍ ຈາມະນາໂປ ສະກຸນັດສະ ສັດໂທ
ປາປັກຄະໂຫ ທຸດສຸປິນັງ ອະກັນຕັງ
ພຸດທານຸພາເວນະ ທັມມານຸພາເວນະ
ສັງຄານຸພາເວນະ ວິນາສະເມນຕູຕິ.
ສາທະໂວ ດູຣາສັບປຸຣິສາທັງຫຼາຍຝູງປາດຖະໜາຫາຍັງສຸກສາມປະການ ມິນິລະພານເປັນທີ່ແລ້ວ ແລະ ມັກໄຄ່ຈັກຜາບແພ້ ຂັບໄລ່ໂຜຍໄພທັງເຄາະເຂັນຈັງໄຮ ແລະ ໂຣຄາພະຍາດ ທັງອຸບາດອົນຕຼາຍອັນມີພາຍໃນ ແລະ ພາຍນອກຂັນທະສັນດານ ກ່າວຄືວ່າ ຣາຊະໄພ ໂຈລະໄພ ອັກຄີໄພ ອຸທະກະໄພ ມໍລະນະໄພ ແລະ ສັບພະຄວາມບໍ່ເພີ່ງພໍໃຈຕ່າງໆ ອັນແຊກເຂົ້າໃນລະຫ່ວາງກ້າວຄືວ່າ ເຄາະປີ ເຄາະເດືອນ ເຄາະວັນ ເທວະດາບັນດົນນິມິດໃຫ້ເຫັນເຫດຕ່າງໆ ໃນລະ ຫ່ວາງເຮືອນຊານ ແລະ ເຄື່ອງອຸປະໂພກບໍລິໂພກ ເຄື່ອງນຸ່ງຫົ່ມນານາ ທັງສັດສາງົວຄວາຍຂອງລ້ຽງ ຜິດສັງເກດໃຫ້ເຫັນອຸປັດຕິເຫດ ແລະ ບຸບພະນິມິດອັນບໍ່ດີ ເປັນສິ່ງກະລະກິນີອັບປີມີໂທດແທ້ ຝູງເຖົ້າແກ່ພໍ່ແມ່ ແລະ ລູງຕາ ກັບທັງວົງສາຄະນາຍາດຕິກາພີ່ນ້ອງ ເຫັນຄວາມດຽວພ່ຳພ້ອມ ນຶກໜ່ຽວນ້ອມເອົາຍັງຄຸນພຣະສັບພັນຍູອົງປະເສີດ ພຣະທັມອັນລ້ຳເລີດ ໑o ປະການ ພຣະອະຣິຍະສົງຜູ້ເບີກບານ ສີ່ຄູ່ ກັບທັງໝູ່ພຣະສົມມຸດຕິສົງຕົນທະຣົງສີນອັນບໍລິສຸດໃສສະອາດ ອັນເປັນພຣະຣັຕນະໄຕຣແກ້ວອາດສາມປະການ ມີເຕຊາອະນຸພາບງາມຫຼາຍເຫຼືອແຫລ່ ຈົ່ງມາເປັນທີ່ພິ່ງຜາບແພ້ຝູງໝູ່ໂພຍພັຍ ກຳຈັດເຄາະເຂັນຈັງໄຮ ນິມິດອັນບໍ່ດີ ແລະ ອຸປັດທະວະກັງວົນອົນຕຼາຍທັງຫຼາຍ ອັນໄດ້ເຫັນ ແລະ ໄດ້ຍິນແລ້ວນັ້ນໃຫ້ຫາຍສ້ຽງສູນໄປ ຈິ່ງໄດ້ນິມົນພຣະສັງຄະເຈົ້າມາສູດ ພຣະພຸດທະມົນເພື່ອຣະງັບກຳຈັດນິມິດອັນບໍ່ດີເຫລົ່ານັ້ນ ໃຫ້ສ້ຽງສູນໄປ ສົມດັ່ງ ໃນຄາຖາອັນເປັນໄວຍາກອນພາສິດວ່າ ຍັນທຸນນິມິດຕັງ ອະວະມັງຄະລັນ ຈະ ດັ່ງນີ້ເປັນເຄົ້າ ຍັງ ທຸນນິມິດຕັງ ຈະ ອັນວ່າ ນິມິດອັນຊົ່ວຮ້າຍ ອັນໃດກໍດີ ຍັງອະວະມັງຄະລັງ ຈະ ອັນວ່າ ສິ່ງອັນບໍ່ເປັນມຸງຄຸນ ອັນໃດກໍດີ ສັດໂທ ອັນວ່າສຽງແຫ່ງນົກອັນບໍ່ຖືກເນື້ອເພິ່ງໃຈ ອັນໃດກໍດີ ປາປັກຄະໂຫ ອັນວ່າບາບເຄາະເຂັນເຫດຮ້າຍອັນໃດກໍດີ ທຸດສຸປິນັງ ອັນວ່າ ຄວາມຝັນອັນຊົ່ວຮ້າຍ ອັນບໍ່ເປັນທີ່ຊອບໃຈ ອັນໃດກໍດີ ເຊິ່ງມີຢູ່ ຂໍໃຫ້ສິ່ງອັບປີຊົ່ວຮ້າຍທີ່ບໍ່ເພິ່ງພໍໃຈທັງຫລາຍຝູງນັ້ນ ວິນາສະເມນຕຸ ກໍຈົ່ງພະລັນສ້ຽງສູນໄປດ້ວຍອານຸພາບແຫ່ງພຣະຣັຕນະໄຕຣຄື: ພຣະພຸທເຈົ້າ ພຣະທັມມະເຈົ້າ ແລະ ພຣະສັງຄະເຈົ້ານັ້ນເຖີ້ນ.
ນິມິດອັນຊົ່ວຮ້າຍນັ້ນ ໄດ້ແກ່ສິ່ງທີ່ເຫັນຜາກົດຂຶ້ນມາ ຈຳເພາະຕໍ່ຫນ້າເປັນຕົ້ນວ່າ ຄ້ອງ ກອງ ຣະຄັງ ດັງຂຶ້ນເອງ ແອ່ງນ້ຳ ຫມໍ້ຫນຶ້ງຮ້ອງ ແມງມຸມຕຶງທ້ອງ ຫນູຮ້ອງໃນເຮືອນ ເລືອດຕົກ ນົກຕາຍ ຕໍ່ຫນ້າ ກິ່ງໄມ້ງ່າຫັກລົງມາ ງົວ ຄວາຍຖືກບ້ວງ ແລະ ເກືອກສີກ ເຮືອນຮ້ອງລອກຄາບ ຕາສະເມັ່ນ ເຫັນງູທຳທານກາງເວັນຂຶ້ນເຮືອນ ຂີ້ໄກ່ຂາງ ແມງວັນຂີ້ໃສ່ເຄື່ອງນຸ່ງຫົ່ມ ແລະ ຟ້າຜ່ານາ ຊາຍຄາເຮືອນ ແລະ ຫລັງເຮືອນເຫລົ່ານີ້ ເປັນນິມິດອັນຊົ່ວຮ້າຍແທ້ ສູ່ອັນແລ.
ສຽງນົກອັນເປັນທີ່ບໍ່ຊອບໃຈນັ້ນ ໄດ້ແກ່ສຽງນົກກູ້ຫູກ ນົກເຄົ້າແມວ ນົກຂີ້ຖີ ແລະ ບ່າງລົ້ວ ສຽງພາຍດັງກູ່ຮ້ອງ ກຸກຮຽກຮ້ອງ ຮັບເອົາຂວັນທັງຂ້າງລຸ່ມ ແລະ ຂ້າງເທິງ ສຽງອັນບໍ່ເພິ່ງໃຈດັງຢູ່ ເທິງອາກາດ ເປັນສຽງອັນບໍ່ພໍໃຈສັກຢາດແທ້ດີຫລີ ເຮັດໃຫ້ຂົນຫົວພອງສຍອງເກົ້າ ໃຈສັ່ນ ຫວັ່ນໄຫວໄປມາ.
ບາບເຄາະນັ້ນໄດ້ແກ່ເຄາະປີ ເຄາະເດືອນ ເຄາະວັນ ແລະ ເຄາະຍາມ ກັບທັງພຣະສຸກເຂົ້າ ພຣະເສົາແຊກ ພຣະຣາຫູຕ້ອງລັກຄະນາຕົວເພິ່ງຕົວສະເວີຍຊາຕາຂາດທາດສູນ ເຮືອນເຂັດຂວາງຈັງໄຮ ທັງພຣະພູມເຈົ້າທີ່ ເຊິ່ງໃຫ້ຮ້າຍແກ່ເຈົ້າຂອງບ້ານເຮືອນ ໂຮມກັນເຂົ້າແລ້ວໄດ້ຊື່ວ່າບາບເຄາະແລ.
ຄວາມຝັນອັນບໍ່ດີ ບໍ່ເປັນທີ່ເພິ່ງພໍໃຈນັ້ນ ໄດ້ແກ່ຝັນຕ່າງໆຄືຝັນວ່າ ໄດ້ອວດອ້າງໂຫນໂຕ ຝັນວ່າໄດ້ຟ້ອນໂຮ ແລະ ເຕັ້ນລຳຂັບຮ້ອງ ແຕ່ງເພດຢ້ອງເອ້ອວດກາຍາ ຝັນວ່າມະຫິງສາ ງົວຄວາຍຊົນຕົກກົກໄມ້ ຝັນວ່າເຂົາຈັບໄດ້ ຜູກມັດໃສ່ໂສ້ແລະຂື່ຄາ ຝັນວ່າແຂ້ວຫລຸດຫລ່ອນເສັຽໄປ ຝັນວ່າໄດ້ຂີ່ອາຊາໄນແລະກວຽນຮົດຮ້າງ ຝັນວ່າຫລິ້ນຕ່າງໆ ມີຫລິ້ນວ່າວຂີ່ເຮືອບິນ ແຫ່ກະຖິນແລະບັ້ງໄຟ ຄວາມຝັນເຫລົ່ານີ້ ເປັນຄວາມຝັນອັນຊົ່ວຮ້າຍແທ້ດີຫລີ ອຸປັດຕິເຫດຮ້າຍທັງສີ່ປະການນີ້ອັນໄດ້ແກ່ ນິມິດອັນຊົ່ວຮ້າຍ ນຶ່ງ ສຽງນົກທີ່ບໍ່ຫນ້າຊອບໃຈ ນຶ່ງ ບາບເຄາະຊົ່ວຮ້າຍ ນຶ່ງ ແລະ ຝັນຮ້າຍຕ່າງໆ ນຶ່ງ ເຫລົ່ານີ້ ຊື່ວ່າ ເປັນສິ່ງອະວະມຸງຄຸນ ຄືເປັນຂອງບໍ່ດີໃຫ້ໂທດແທ້ແກ່ຜູ້ໄດ້ປະສົບພົບເຫັນໄດ້ຮັບໂທດຕ່າງໆ ນາໆ ມີຄວາມຈິບຫາຍວິນາດ ສົມບັດຂາດສູນໄປ ທັງງົວຄວາຍ ແລະ ຊ້າງມ້າ ທັງຕາກ້າ ແລະ ໄຮ່ ນາ ທັງເຮືອນຊານ ລາງພ່ອງເກີດປ່ວຍໄຂ້ ແລະ ເຈັບຫົວ ທັງຜົວເມຍ ແລະ ລູກເຕົ້າ ກັບທັງພໍ່ແມ່ເຖົ້າຊ້ຳພັດເລົ່າສູນເສັຽ ຝູງເຄີຍເຫັນມາແຕ່ປາງກ່ອນ ຈິ່ງຢ້ານຢ່ອນຕົກໃຈ ຄຶດຫາສິ່ງປ້ອງກັນພັຍທັງສີ່ນີ້ບໍ່ໃຫ້ມາເຖິງຕົນ ລາງຄົນຫາຫມໍມາເສັຽລາງສະເດາະເຄາະ ບວງ ສວງເທວະດາດ້ວນວັດຖຸສິ່ງຂອງຕ່າງໆ ເປັນຕົ້ນວ່າມີເຂົ້າດຳ ເຂົ້າແດງ ແກງສົມ ແລະ ແກງຫວານ ໂທງສາມແຈສີ່ຈອກ ແລະ ເກົ້າ ຫ້ອງ ເກົ້າຫລັກ ເກົ້າບັກ ແລະ ເກົ້າຊັ້ນ ລາງພ່ອງນັ້ນຊ້ຳໄປໄຫວ້ກົກໄມ້ໃຫຍ່ ແລະ ພູດອຍ ເປັນທີ່ເພິ່ງອາສັຍຂອງຕົນ ແຕ່ທີ່ເພິງເຫລົ່ານີ້ ບໍ່ຈັດວ່າເປັນທີ່ເພິງອັນອຸດົມ ສົມກັບພຣະພຸທພາສິດວ່າ:
ພະຫຸງເວ ສະຣະນັງ ຍັນຕິ ປັບພະຕານິ ວະນານິ ຈະ ອາຣາມະຣຸກຂະເຈຕະຍານິ ມຸນຸດສາ ພະຍະຕັດຊິຕາ.
ດັ່ງນີ້ເປັນເຄົ້າ ມະນຸດສາ ອັນວ່າມະນຸດທັງຫລາຍ ເມື່ອພັຍມາຄຸກຄາມເຖິງຕົນເຂົ້າແລ້ວ ຍ່ອມເອົາພູດອຍ ປ່າໄມ້ ແລະ ອາຮາມ ຕົ້ນໄມ້ແລ ເຈດີ ມາເປັນທີ່ເພີ່ງ ທີ່ຈັ້ງແລ ທີ່ເພີ່ງໄດ້ແທ້ຈິງນັ້ນ ໄດ້ແກ່ການນ້ອມນຶກເອົາຍັງຄຸນພຣະພຸທເຈົ້າ ຄຸນພຣະທັມມະເຈົ້າ ແລະ ຄຸນພຣະສັງຄະເຈົ້າມາເປັນທີ່ເພີ່ງ ສາມາດກຳຈັດໂພຍພັຍອົນຕຼາຍ ແລະ ຫ້າມເຫດຮ້າຍຊົ່ວຈັງໄຮໄດ້ສົມດັ່ງເທສນາ ອັນມາໃນພຸທພາສິດວ່າ ໂຍ ຈະ ພຸດທັນ ຈະ ທັມມັນ ຈະ ສັງຄັນ ຈະ ສະຣະນັງ ຄະໂຕ ດັ່ງນີ້ເປັນເຄົ້າ ຜູ້ໃດໄດ້ເຂົ້າເຖິງພຣະພຸທເຈົ້າ ພຣະທັມມເຈົ້າ ແລະ ພຣະສັງ ຄະເຈົ້າ ວ່າ ເປັນທີ່ເພີ່ງແລ້ວ ຍ່ອມພົ້ນຈາກທຸກພັຍອັນຕະຣາຍທັງປວງ ແລະ ຄວາມສນຽດຈັງໄຮທັງຫລາຍ ທີ່ໄດ້ເຫັນປແລະໄດ້ຍິນ ເຊິ່ງເກີດມີໃນຢ້າວເຮືອນຊານ ແລະ ໄຮ່ນາເປັນຕົ້ນນັ້ນ ກໍຈັກວິນາດສ້ຽງສູນໄປ ຍ້ອນອານຸພາບຄຸນຂອງ ພຣະຣັຕນະໄຕຣ ນັ້ນແທ້ແລ ຂໍທ່ານທັງຫລາຍມີ ພໍ່ເຮືອນ ແລະ ແມ່ເຮືອນ ເປັນຕົ້ນ ຜູ້ໄດ້ຮັບທຸກ ຈົ່ງຢ່າມີທຸກ ຜູ້ມີພັຍຈົ່ງຢ່າມີພັຍ ແລະ ຜູ້ເຖິງຄວາມໂສກເສົ້າເສຍໃຈ ກໍຈົ່ງຢ່າໄດ້ມີຄວາມເສົ້າໂສກເຖີ້ນ ກັບທັງຂໍອັງເຊີນເທພະດາເຈົ້າທັງ ຫລາຍ ຈົ່ງຊົມຊື່ນອະນຸໂມທະນານຳບຸນ ອັນທ່ານທັງຫລາຍໄດ້ເຮັດແລ້ວ ດ້ວຍເຫດພຽງທໍ່ນີ້ ເພື່ອໃຫ້ແລ້ວຍັງສົມບັດທຸກເຍື່ອງຄືເຄື່ອງຄ້ຳມິ່ງມຸງຄຸນ ໃນຢ້າວເຮືອນທີ່ນີ້ ເປັນຕົ້ນ ດ້ວຍອຳນາດ ທີ່ພວກທ່ານ ຮັກສາສິນຈຳເຣີນເມດຕາພາວະນາ ແລະ ຟັງຣົສທັມມະເທສນາ ຂໍຫມູ່ເທວະດາເຈົ້າຜູ້ມາແລ້ວ ຈົ່ງນຳເອົາ ອຸປັດຕິເຫດ ແລະ ເຄາະເຂັນຈັງໄຮຄວາມທຸກໂສກ ໄຫມ້ຫມອງໃຈ ກັບໄປສູ່ວິມານອັນເປັນທີ່ຢູ່ຂອງທ່ານເຖີ້ນ ແລະ ອີກປະການຫນຶ່ງ ຜູ້ຂ້າຂໍອັງເຊີນເອົາພຣະພຸທເຈົ້າ ຜູ້ມີພຣະກຳລັງກັບທັງເຫລົ່າພຣະປັດເຈກະພຸທເຈົ້າ ແລະ ພຣະ ອະຣະຫັນຕາເຈົ້າທັງຫລາຍ ຈົ່ງມາຮັກສາຍັງເຈົ້າມູລສັດທາ ຢ້າວເຮືອນ ແລະ ສັບພະສັດທັງຫລາຍ ດ້ວຍເຕຊະພຣະກຳລັງຂອງພຣະ ພຸທເຈົ້າ ຈົ່ງມາຣະງັບດັບເຫດ ຊົ່ວຮ້າຍໃຫ້ຫາຍສ້ຽງສູນໄປ ອາສັຍໃນພຣະຄາຖາວ່າ ມະຫາກາຣຸນິໂກນາໂຖ ຫິຕາຍະ ສັບພະປານີນັງ ດັ່ງນີ້ເປັນເຄົ້າ ຂໍພຣະພຸທເຈົ້າຜູ້ເປັນທີ່ເພີ່ງຂອງຫມູ່ສັບພະສັດ ປະ ກອບໄປດ້ວຍພຣະມະຫາກະຣຸນາ ພ່ຳພຽນປາຣະມີມາ ໓o ທັດໃຫ້ເຕັມແລ້ວ ເພື່ອເປັນປະໂຫຍດແກ່ສັບພະສັດທັງຫລາຍ ຈຶ່ງໄດ້ຕັສະຮູ້ ອັນອຸດົມດ້ວຍອຳນາດຄວາມສັດນີ້ ຂໍໄຊຍະມຸງຄຸນຈົ່ງມີແກ່ທ່ານ ເຈົ້າບ້ານ ແລະ ເຈົ້າເຮືອນໃນທີ່ນີ້ ທຸກຖ້ວນຫນ້າເຖີ້ນ ຊະຍັນໂຕ ໂພທິຍາ ມູເລ ພຣະພຸທເຈົ້າ ຜູ້ຊົງຜະຈົນມານຢູ່ທີ່ເຄົ້າໄມ້ສີມະຫາໂພທິ ເປັນຜູ້ເລີດແລ້ວ ຍິນດີ ຢູ່ເທິງອະພິເສກແທ່ນແກ້ວ ແລ້ວຈິ່ງໃຫ້ຄວາມຈຳເຣີນຍິນດີ ແກ່ພວກຊາວສາກຍະຣາດວ່າ ພຣະອົງຊົງຊະນະມານ ຢູ່ເຫນືອອະປະຣາຊິຕະ ບັນລັງແທ່ນແກ້ວ ອັນເປັນໄຊຍະມຸງຄຸນເຫນືອໃບບົວ ຄື ແຜ່ນປະຖະພີ ທີ່ເປັນປະທານອັນນີ້ ແລມີສັນໃດ ຂໍໃຫ້ທ່ານຜູ້ເປັນເຈົ້າຂອງບ້ານເຮືອນ ແລະ ຍາດມິດສາໂລຫິດທັງ ຫລາຍ ຈົ່ງຜາບແພ້ຝູງຫມູ່ອຸບາດເຫດຮ້າຍຈັງໄຮ ໃຫ້ສ້ຽງສູນໄປຢ່າໄດ້ຄາຄ້າງ ເຫມືອນດັ່ງພຣະເຈົ້າມ້າງກິເລສມານວັນນັ້ນແລ, ອັນຫນຶ່ງທ່ານທັງຫລາຍ ປະພຶດຊອບດ້ວຍກາຍວາຈາແລະໃຈ ໃນເວລາໃດເວລານັ້ນ ຊື່ວ່າຣືກດີ ຍາມດີ ສວ່າງດີ ຮຸ່ງເຮືອງດີ ແລະ ຂະນະດີ ຄູ່ດີ ຂໍໃຫ້ເປັນຜູ້ປັດສະຈາກທຸກໂສກໂຣກພັຍ ກັບທັງອຸປັດທະວັນຕະຣາຍ ຈົ່ງໃຫ້ສງົບຣະງັບດັບຫາຍໄປ ດ້ວຍອານຸພາບຂອງພຣະຣັຕ ນະໄຕຣ ທີ່ພວກທ່ານໄດ້ເຄົາຣົບສັກກາຣະບູຊາ ມາທຸກວັນເວລາບໍ່ໄດ້ຂາດ ຈົ່ງປະສົບພົບພ້ອມໄປດ້ວຍພອນສີ່ປະການ ຄື: ອາຍຸ ວັນນະ ສຸຂະ ພະລະ ຈົ່ງເກີດມີແກ່ເຈົ້າມູລສັດທາ ຈະປາຖນາອັນໃດ ກໍຈົ່ງໃຫ້ໄດ້ ດັ່ງຄຳມັກຄຳປາຖນາເຖີ້ນ ຣະຕະນັດຕະຍານຸພາເວນະ ຍ້ອນອານຸພາບແຫ່ງພຣະຣັຕນະໄຕຣ ແກ້ວສາມປະການ ຕາມທີ່ກ່າວມາແລ້ວ ຈົ່ງມາພິທັກຮັກສາຍັງເຈົ້າມູລສັດທາ ແລະ ພຸທສາສະນິກະຊົນທັງຫລາຍ ໃຫ້ພົ້ນຈາກພັຍພິບັດສາມາດກຳຈັດ ຄວາມທຸກໂສກຮ້າຍ ໃຫ້ວິນາດສ້ຽງສູນໄປກໍຂ້າເຖີ້ນ ຂໍຄວາມສຸກສວັສດີ ຈົ່ງມີແກ່ເຈົ້າມູລ ສັດທານິດຖິຕາ ກໍສະເດັດບໍຣະບວນຄວນແລ້ວ ທໍ່ນີ້ກ່ອນແລ.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)